การใช้ Rounding Bottom
- การใช้ Rounding Bottom
Rounding Bottom หรือที่รู้จักกันในชื่อ Saucer Bottom เป็น รูปแบบกราฟราคา ที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) ไปสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) รูปแบบนี้เป็นสัญญาณของการสะสม (Accumulation) โดยผู้ซื้อ และแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันในการขายกำลังอ่อนตัวลง การทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีการใช้ Rounding Bottom อย่างถูกต้องสามารถช่วยให้ นักลงทุนไบนารี่ออปชั่น สามารถระบุโอกาสในการซื้อที่มีศักยภาพ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ บทความนี้จะอธิบาย Rounding Bottom อย่างละเอียด รวมถึงลักษณะสำคัญ วิธีการยืนยัน และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบนี้
ลักษณะของ Rounding Bottom
Rounding Bottom มีลักษณะเป็นรูปตัว "U" หรือครึ่งวงกลมที่เกิดจากการลดลงของราคาอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยระยะเวลาของการแกว่งตัวในกรอบราคาที่แคบลง และสุดท้ายคือการทะลุขึ้นไปเหนือแนวต้าน (Resistance) ที่เกิดจากจุดสูงสุดก่อนหน้า (Previous High)
ลักษณะสำคัญที่ควรสังเกตมีดังนี้:
- **ระยะเวลา:** Rounding Bottom มักใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนในการก่อตัว ทำให้เป็นรูปแบบที่ต้องใช้ความอดทนในการรอคอย
- **การลดลง:** การลดลงของราคาก่อนการก่อตัวของรูปแบบ มักไม่ใช่การดิ่งลงอย่างรวดเร็ว แต่เป็นการลดลงอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง
- **การแกว่งตัว:** ช่วงกลางของรูปแบบ จะมีการแกว่งตัวในกรอบราคาที่แคบลงเรื่อยๆ แสดงถึงความไม่แน่นอนของตลาด และการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
- **การทะลุ:** การทะลุเหนือแนวต้าน เป็นสัญญาณยืนยันที่สำคัญที่สุดของ Rounding Bottom การทะลุควรมาพร้อมกับ ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้น เพื่อยืนยันว่ามีแรงซื้อที่แท้จริง
การยืนยัน Rounding Bottom
แม้ว่าการสังเกตลักษณะของ Rounding Bottom จะเป็นขั้นตอนแรก แต่การยืนยันรูปแบบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงในการเทรดผิดพลาด มีหลายวิธีในการยืนยัน Rounding Bottom ได้แก่:
- **การทะลุแนวต้าน:** การทะลุเหนือแนวต้านที่เกิดจากจุดสูงสุดก่อนหน้า เป็นสัญญาณยืนยันที่สำคัญที่สุด
- **ปริมาณการซื้อขาย:** การทะลุควรมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อที่แท้จริงสนับสนุนการทะลุ
- **การ Retest:** หลังจากทะลุแนวต้านแล้ว ราคาอาจมีการกลับตัวลงมาทดสอบแนวต้านที่เคยเป็นแนวรับ (Support) การที่ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ แสดงว่ารูปแบบได้รับการยืนยันอย่างแข็งแกร่ง
- **ตัวชี้วัดทางเทคนิค:** การใช้ ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), MACD (Moving Average Convergence Divergence) และ RSI (Relative Strength Index) สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังก่อตัวได้
กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วย Rounding Bottom
เมื่อได้รับการยืนยันว่า Rounding Bottom ได้ก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว นักลงทุนไบนารี่ออปชั่นสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดต่างๆ เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังจะเกิดขึ้นได้:
- **Call Option:** กลยุทธ์ที่นิยมที่สุดคือการซื้อ Call Option เมื่อราคาทะลุเหนือแนวต้าน การเลือกเวลาหมดอายุ (Expiry Time) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเลือกเวลาที่สอดคล้องกับกรอบเวลาของรูปแบบ (เช่น หากรูปแบบใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการก่อตัว ควรเลือกเวลาหมดอายุที่หลายชั่วโมง หรือหลายวัน)
- **การเทรด Breakout:** รอให้ราคาทะลุเหนือแนวต้าน และเข้าซื้อ Call Option ทันทีที่ราคาทะลุ การใช้ Stop-Loss Order สามารถช่วยจำกัดความเสี่ยงได้
- **การเทรด Retest:** รอให้ราคาปรับตัวลงมาทดสอบแนวต้านที่เคยเป็นแนวรับ และเข้าซื้อ Call Option เมื่อราคาเด้งกลับขึ้นไป การเทรด Retest มักจะมีความเสี่ยงต่ำกว่าการเทรด Breakout
- **การใช้ร่วมกับแนวรับแนวต้าน:** มองหาแนวรับแนวต้าน (Support and Resistance) ที่สำคัญอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อ เช่น หาก Rounding Bottom เกิดขึ้นใกล้กับแนวรับที่แข็งแกร่ง จะเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Rounding Bottom
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม นี่คือข้อควรระวังในการเทรด Rounding Bottom:
- **การยืนยัน:** อย่ารีบร้อนเข้าเทรดก่อนที่รูปแบบจะได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน
- **ปริมาณการซื้อขาย:** ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายเสมอ การทะลุที่ไม่มีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญญาณหลอก (False Breakout)
- **Stop-Loss:** ใช้ Stop-Loss Order เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- **ขนาด Position:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับเงินทุนของคุณ
- **การกระจายความเสี่ยง:** อย่าเทรดด้วย Rounding Bottom เพียงรูปแบบเดียว กระจายความเสี่ยงไปยังรูปแบบอื่นๆ และสินทรัพย์อื่นๆ
ตัวอย่างการเทรด Rounding Bottom
สมมติว่าคุณสังเกตเห็น Rounding Bottom บนกราฟราคาของทองคำ (Gold) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง
1. **การสังเกต:** คุณสังเกตเห็นการลดลงของราคาอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยการแกว่งตัวในกรอบราคาที่แคบลง 2. **การยืนยัน:** ราคาได้ทะลุเหนือแนวต้านที่ 1800 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 3. **การเทรด:** คุณตัดสินใจซื้อ Call Option ที่ราคา 1800 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเวลาหมดอายุ 4 ชั่วโมง 4. **การบริหารความเสี่ยง:** คุณตั้ง Stop-Loss Order ที่ 1795 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาปรับตัวลง
ข้อควรระวังและข้อจำกัดของ Rounding Bottom
แม้ว่า Rounding Bottom จะเป็นรูปแบบที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ:
- **ระยะเวลา:** การก่อตัวของ Rounding Bottom อาจใช้เวลานาน ทำให้เสียโอกาสในการเทรดอื่นๆ
- **สัญญาณหลอก:** บางครั้ง Rounding Bottom อาจเป็นสัญญาณหลอก (False Signal) โดยราคาอาจไม่ทะลุเหนือแนวต้าน หรือทะลุแล้วแต่ไม่สามารถรักษาการทะลุไว้ได้
- **ความคลุมเครือ:** การตีความรูปแบบอาจมีความคลุมเครือ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนักลงทุน
การใช้ Rounding Bottom ร่วมกับรูปแบบกราฟราคาอื่นๆ
การใช้ Rounding Bottom ร่วมกับรูปแบบกราฟราคาอื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ได้ ตัวอย่างเช่น:
- **Rounding Bottom + Triangle:** หาก Rounding Bottom ตามด้วยรูปแบบ Triangle ที่เป็น Consolidation Pattern จะเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง
- **Rounding Bottom + Head and Shoulders:** การเกิด Rounding Bottom ก่อนรูปแบบ Head and Shoulders อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- **Rounding Bottom + Flag/Pennant:** รูปแบบ Flag หรือ Pennant ที่เกิดขึ้นหลังการทะลุของ Rounding Bottom สามารถใช้เป็นจุดเข้าซื้อเพิ่มเติม
สรุป
Rounding Bottom เป็นรูปแบบกราฟราคาที่มีประโยชน์ในการระบุโอกาสในการซื้อในตลาดไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจลักษณะสำคัญ การยืนยันรูปแบบ และกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม การบริหารความเสี่ยง และการใช้ร่วมกับรูปแบบกราฟราคาอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์
| !! กลยุทธ์ !! เครื่องมือ/แนวคิดที่เกี่ยวข้อง !! คำอธิบาย !! |
| Trend Following | แนวโน้ม (Trend) | การเทรดตามแนวโน้มขาขึ้นที่ Rounding Bottom บ่งชี้ | |
| Breakout Trading | แนวต้าน (Resistance), ปริมาณการซื้อขาย (Volume) | การเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุแนวต้านด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น | |
| Retest Trading | แนวรับ (Support) | การเข้าเทรดเมื่อราคาปรับตัวกลับมาทดสอบแนวรับที่เคยเป็นแนวต้าน | |
| Fibonacci Retracement | Fibonacci | การใช้ Fibonacci เพื่อหาจุดเข้าซื้อที่เหมาะสมระหว่างการ Retest | |
| Moving Average Crossover | ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) | การใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อยืนยันแนวโน้ม | |
| MACD | MACD (Moving Average Convergence Divergence) | การใช้ MACD เพื่อยืนยันแรงโมเมนตัมขาขึ้น | |
| RSI | RSI (Relative Strength Index) | การใช้ RSI เพื่อประเมินสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) | |
| Bollinger Bands | Bollinger Bands | การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนและหาจุดเข้าซื้อ | |
| Support and Resistance Levels | แนวรับ (Support), แนวต้าน (Resistance) | การระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญเพื่อยืนยันสัญญาณ | |
| Candlestick Patterns | รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) | การใช้รูปแบบแท่งเทียนเพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว | |
| Elliott Wave Theory | ทฤษฎีคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave Theory) | การวิเคราะห์รูปแบบคลื่นเพื่อประเมินแนวโน้มระยะยาว | |
| Ichimoku Cloud | Ichimoku Cloud | การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวรับแนวต้านและสัญญาณการซื้อขาย | |
| Volume Spread Analysis | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Spread Analysis) | การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย | |
| Price Action | Price Action | การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องใช้ตัวชี้วัด | |
| Position Sizing | การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) | การกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมเพื่อจำกัดความเสี่ยง | |
(Category:Chart Patterns)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

