การใช้ RSI กับรูปแบบแผนภูมิ

1. 1. การใช้ RSI กับรูปแบบแผนภูมิ

บทความนี้มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ Relative Strength Index (RSI) ร่วมกับรูปแบบแผนภูมิ (Chart Patterns) ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. 1. 1. บทนำเกี่ยวกับ RSI

Relative Strength Index หรือ RSI เป็น ตัวชี้วัดทางเทคนิค ที่ใช้วัดความแรงของแนวโน้มราคาและสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ของสินทรัพย์ RSI พัฒนาขึ้นโดย Welles Wilder Jr. ในปี 1978 และถูกนำเสนอในหนังสือ “New Concepts in Technical Trading Systems” หลักการพื้นฐานของ RSI คือการเปรียบเทียบผลกำไรและผลขาดทุนในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปจะใช้ช่วงเวลา 14 วันเป็นมาตรฐาน

สูตรการคำนวณ RSI:

RSI = 100 - [100 / (1 + (Average Gain / Average Loss))]

• **Average Gain:** ค่าเฉลี่ยของผลกำไรในช่วงเวลาที่กำหนด
• **Average Loss:** ค่าเฉลี่ยของผลขาดทุนในช่วงเวลาที่กำหนด

ค่า RSI จะอยู่ในช่วง 0 ถึง 100 โดยทั่วไป:

• **RSI > 70:** สภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) – ราคาอาจมีการปรับตัวลง
• **RSI < 30:** สภาวะการขายมากเกินไป (Oversold) – ราคาอาจมีการปรับตัวขึ้น
• **RSI = 50:** จุดกึ่งกลาง – แสดงถึงแนวโน้มที่เป็นกลาง

1. 1. 1. ความสำคัญของรูปแบบแผนภูมิ

รูปแบบแผนภูมิ (Chart Patterns) เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นบนแผนภูมิราคา ซึ่งบ่งบอกถึงพฤติกรรมของนักลงทุนและแนวโน้มราคาในอนาคต การเรียนรู้และจดจำรูปแบบแผนภูมิจะช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาและตัดสินใจเทรดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น รูปแบบแผนภูมิสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น รูปแบบต่อเนื่องแนวโน้ม (Continuation Patterns) และรูปแบบกลับตัวแนวโน้ม (Reversal Patterns)

1. 1. 1. การรวม RSI กับรูปแบบแผนภูมิ

การใช้ RSI ร่วมกับรูปแบบแผนภูมิจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และลดสัญญาณหลอก (False Signals) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย RSI จะทำหน้าที่เป็นตัวยืนยัน (Confirmation) รูปแบบแผนภูมิที่เกิดขึ้น

1. 1. 1. 1. 1. รูปแบบ Double Top/Bottom และ RSI

• **Double Top:** รูปแบบกลับตัวแนวโน้มขาขึ้นที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มและอาจมีการปรับตัวลงของราคา การใช้ RSI ร่วมกับ Double Top จะช่วยยืนยันสัญญาณขายได้เมื่อ RSI แสดงค่าที่สูงกว่า 70 (Overbought) และมีการ Divergence (การเบี่ยงเบน) โดยที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตามได้ (Divergence คือการที่ราคาและตัวชี้วัดเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม)
• **Double Bottom:** รูปแบบกลับตัวแนวโน้มขาลงที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มและอาจมีการปรับตัวขึ้นของราคา การใช้ RSI ร่วมกับ Double Bottom จะช่วยยืนยันสัญญาณซื้อได้เมื่อ RSI แสดงค่าที่ต่ำกว่า 30 (Oversold) และมีการ Divergence โดยที่ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ตามได้

1. 1. 1. 1. 2. รูปแบบ Head and Shoulders และ RSI

• **Head and Shoulders:** รูปแบบกลับตัวแนวโน้มขาขึ้นที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มและอาจมีการปรับตัวลงของราคา การใช้ RSI ร่วมกับ Head and Shoulders จะช่วยยืนยันสัญญาณขายได้เมื่อ RSI แสดงค่าที่สูงกว่า 70 (Overbought) และมีการ Divergence ในช่วงที่ราคาทำ Head และ Right Shoulder
• **Inverse Head and Shoulders:** รูปแบบกลับตัวแนวโน้มขาลงที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มและอาจมีการปรับตัวขึ้นของราคา การใช้ RSI ร่วมกับ Inverse Head and Shoulders จะช่วยยืนยันสัญญาณซื้อได้เมื่อ RSI แสดงค่าที่ต่ำกว่า 30 (Oversold) และมีการ Divergence ในช่วงที่ราคาทำ Head และ Right Shoulder

1. 1. 1. 1. 3. รูปแบบ Triangle และ RSI

• **Ascending Triangle:** รูปแบบต่อเนื่องแนวโน้มขาขึ้นที่บ่งบอกถึงการพักตัวของราคาและอาจมีการปรับตัวขึ้นต่อ การใช้ RSI ร่วมกับ Ascending Triangle จะช่วยยืนยันสัญญาณซื้อได้เมื่อ RSI พุ่งทะลุระดับ 50 ขึ้นไป และราคา Breakout (ทะลุ) แนวต้านบนของ Triangle
• **Descending Triangle:** รูปแบบต่อเนื่องแนวโน้มขาลงที่บ่งบอกถึงการพักตัวของราคาและอาจมีการปรับตัวลงต่อ การใช้ RSI ร่วมกับ Descending Triangle จะช่วยยืนยันสัญญาณขายได้เมื่อ RSI ตกลงต่ำกว่าระดับ 50 และราคา Breakout แนวรับล่างของ Triangle
• **Symmetrical Triangle:** รูปแบบที่บ่งบอกถึงการรวมตัวของราคาและอาจนำไปสู่ทั้งแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง การใช้ RSI ร่วมกับ Symmetrical Triangle จะช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มหลังจากการ Breakout โดย RSI ที่พุ่งทะลุระดับ 50 ขึ้นไปจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น และ RSI ที่ตกลงต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง

1. 1. 1. 1. 4. รูปแบบ Flag และ Pennant และ RSI

• **Flag:** รูปแบบต่อเนื่องแนวโน้มที่บ่งบอกถึงการพักตัวของราคาในแนวโน้มเดิม การใช้ RSI ร่วมกับ Flag จะช่วยยืนยันสัญญาณซื้อ (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือสัญญาณขาย (ในแนวโน้มขาลง) เมื่อ RSI กลับเข้าสู่ระดับ 50 หลังจากมีการปรับตัว
• **Pennant:** คล้ายกับ Flag แต่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมที่เล็กกว่า การใช้ RSI ร่วมกับ Pennant ก็เช่นเดียวกับ Flag คือใช้เพื่อยืนยันสัญญาณซื้อหรือขายหลังจากการ Breakout

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ RSI และรูปแบบแผนภูมิในไบนารี่ออปชั่น

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดโดยใช้ RSI ร่วมกับรูปแบบแผนภูมิในไบนารี่ออปชั่น:

1. **กลยุทธ์ Double Top/Bottom RSI Divergence:** รอให้เกิดรูปแบบ Double Top/Bottom บนแผนภูมิราคา จากนั้นสังเกต RSI ถ้า RSI แสดงค่าที่สูงกว่า 70 (Double Top) หรือต่ำกว่า 30 (Double Bottom) และมีการ Divergence ให้เปิด Position ในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มเดิม 2. **กลยุทธ์ Head and Shoulders RSI Confirmation:** รอให้เกิดรูปแบบ Head and Shoulders บนแผนภูมิราคา จากนั้นสังเกต RSI ถ้า RSI แสดงค่าที่สูงกว่า 70 และมีการ Divergence ให้เปิด Position ขาย 3. **กลยุทธ์ Triangle Breakout RSI Filter:** รอให้เกิดรูปแบบ Triangle บนแผนภูมิราคา จากนั้นสังเกต RSI เมื่อราคา Breakout แนวรับหรือแนวต้านของ Triangle ให้ดูว่า RSI พุ่งทะลุระดับ 50 ขึ้นไป (ขาขึ้น) หรือตกลงต่ำกว่าระดับ 50 (ขาลง) หากเป็นไปตามเงื่อนไขให้เปิด Position ตามทิศทางของ Breakout

1. 1. 1. ข้อควรระวังและข้อจำกัด

• RSI และรูปแบบแผนภูมิเป็นเพียงเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ไม่สามารถรับประกันผลกำไรได้ 100%
• ควรใช้ RSI ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, Fibonacci Retracements, Bollinger Bands เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์
• ควรบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) อย่างเหมาะสม โดยกำหนดขนาด Position และ Stop Loss อย่างเคร่งครัด
• รูปแบบแผนภูมิบางครั้งอาจไม่ชัดเจน หรือมีการตีความที่แตกต่างกัน ควรใช้ประสบการณ์และความเข้าใจในการวิเคราะห์

1. 1. 1. สรุป

การใช้ RSI ร่วมกับรูปแบบแผนภูมิเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจเทรดไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจหลักการทำงานของ RSI และรูปแบบแผนภูมิ รวมถึงการฝึกฝนและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จะช่วยให้นักเทรดสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดได้

ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดโดยใช้ RSI และรูปแบบแผนภูมิ

! รูปแบบแผนภูมิ	! สัญญาณ RSI	! การเปิด Position	! ความเสี่ยง
Double Top	RSI > 70 และ Divergence	ขาย	ปานกลาง
Double Bottom	RSI < 30 และ Divergence	ซื้อ	ปานกลาง
Head and Shoulders	RSI > 70 และ Divergence	ขาย	สูง
Inverse Head and Shoulders	RSI < 30 และ Divergence	ซื้อ	สูง
Ascending Triangle	RSI > 50 และ Breakout	ซื้อ	ปานกลาง
Descending Triangle	RSI < 50 และ Breakout	ขาย	ปานกลาง
Symmetrical Triangle	RSI > 50 และ Breakout	ซื้อ	ปานกลาง
Symmetrical Triangle	RSI < 50 และ Breakout	ขาย	ปานกลาง

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารจัดการความเสี่ยง กลยุทธ์การเทรด ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร Moving Average Convergence Divergence (MACD) Stochastic Oscillator Bollinger Bands Fibonacci Retracements Elliott Wave Theory Japanese Candlesticks การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Volume Weighted Average Price (VWAP) On Balance Volume (OBV) Average True Range (ATR) Trend Following Mean Reversion Scalping Day Trading Swing Trading การจัดการเงินทุน Divergence Overbought Oversold Breakout

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น