การใช้ Negotiation in Trading

1. 1. การใช้ Negotiation in Trading

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) ไม่ได้เป็นเพียงการคาดการณ์ทิศทางของราคาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ “การเจรจาต่อรอง” (Negotiation) กับตลาดอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะอธิบายถึงแนวคิดของการเจรจาต่อรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่ความเข้าใจพื้นฐาน, กลยุทธ์, การจัดการความเสี่ยง และจิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง

1. 1. 1. ความหมายของการเจรจาต่อรองในการซื้อขาย

ในบริบทของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น “การเจรจาต่อรอง” ไม่ได้หมายถึงการต่อรองราคาโดยตรงกับคู่ค้า (เพราะไม่มีคู่ค้าในรูปแบบดั้งเดิม) แต่หมายถึงการปรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และพยายามที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากโอกาสที่มีอยู่ มันคือการประเมินความน่าจะเป็น, การจัดการความเสี่ยง, และการตัดสินใจว่าจะ “เข้า” หรือ “ออก” จากตลาดเมื่อใด

การเจรจาต่อรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นเกี่ยวข้องกับ:

• **การประเมินความเสี่ยง:** การพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแต่ละครั้ง และการตัดสินใจว่าความเสี่ยงนั้นคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่อาจได้รับหรือไม่
• **การเลือกสินทรัพย์:** การเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ และมีความผันผวนที่เหมาะสม
• **การเลือกเวลาหมดอายุ:** การเลือกเวลาหมดอายุที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด และกรอบเวลาที่คุณคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนที่
• **การจัดการขนาดตำแหน่ง:** การกำหนดขนาดของการซื้อขายแต่ละครั้ง เพื่อควบคุมความเสี่ยงและรักษาเงินทุนของคุณ
• **การปรับกลยุทธ์:** การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

1. 1. 1. พื้นฐานของไบนารี่ออปชั่นที่ต้องเข้าใจ

ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องการเจรจาต่อรอง จำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของไบนารี่ออปชั่นเสียก่อน:

• **หลักการทำงาน:** ไบนารี่ออปชั่นคือการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้นหรือต่ำลงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากคาดการณ์ถูกต้องจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ถ้าคาดการณ์ผิดจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด
• **สินทรัพย์ที่ซื้อขาย:** ไบนารี่ออปชั่นสามารถซื้อขายได้ในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น สกุลเงิน (Forex), หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์
• **ระยะเวลาหมดอายุ:** ระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time) สามารถสั้นได้ตั้งแต่ 60 วินาที ไปจนถึงหลายวันหรือหลายสัปดาห์
• **ผลตอบแทน:** ผลตอบแทน (Payout) จะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า และแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์
• **ความเสี่ยง:** ไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากคุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ตลาด และ การบริหารความเสี่ยง เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

1. 1. 1. กลยุทธ์การเจรจาต่อรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางส่วนที่คุณสามารถใช้เพื่อ “เจรจาต่อรอง” กับตลาด:

1. **การใช้ Stop-Loss และ Take-Profit (แม้จะไม่มีในรูปแบบดั้งเดิม):** แม้ว่าไบนารี่ออปชั่นจะไม่มีฟังก์ชัน Stop-Loss และ Take-Profit แบบเดียวกับ Forex หรือหุ้น แต่คุณสามารถจำลองสิ่งนี้ได้โดยการจำกัดจำนวนการซื้อขายที่ต่อเนื่องกันในทิศทางเดียวกัน หรือโดยการปรับขนาดตำแหน่งของคุณตามผลการซื้อขายก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น หากคุณขาดทุนติดต่อกัน 3 ครั้ง คุณอาจลดขนาดตำแหน่งในครั้งต่อไป 2. **การใช้ Multiple Expiry Times:** แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การซื้อขายด้วยเวลาหมดอายุเดียว ลองพิจารณาการใช้เวลาหมดอายุที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ตัวอย่างเช่น คุณอาจเปิดตำแหน่งหนึ่งด้วยเวลาหมดอายุ 5 นาที และอีกตำแหน่งหนึ่งด้วยเวลาหมดอายุ 15 นาที หากคุณคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไป 3. **การใช้ Hedging:** การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) คือการเปิดตำแหน่งที่ตรงข้ามกับตำแหน่งที่คุณมีอยู่ เพื่อลดความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น หากคุณมีตำแหน่งซื้อในสินทรัพย์หนึ่ง คุณอาจเปิดตำแหน่งขายในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม 4. **การใช้ Martingale (ด้วยความระมัดระวัง):** กลยุทธ์ Martingale คือการเพิ่มขนาดตำแหน่งของคุณเป็นสองเท่าทุกครั้งที่คุณขาดทุน เพื่อที่จะกู้คืนการขาดทุนทั้งหมดเมื่อคุณชนะ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงมาก และอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ควรใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และมีเงินทุนเพียงพอ 5. **การใช้ Anti-Martingale:** ตรงกันข้ามกับ Martingale คือการลดขนาดตำแหน่งของคุณลงเมื่อคุณชนะ และเพิ่มขนาดตำแหน่งของคุณเมื่อคุณขาดทุน กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงน้อยกว่า Martingale แต่ก็ยังต้องใช้ความระมัดระวัง 6. **การใช้ Bollinger Bands:** Bollinger Bands เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่สามารถช่วยคุณระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งสามารถใช้เพื่อตัดสินใจว่าจะเข้าหรือออกจากตลาดเมื่อใด 7. **การใช้ Moving Averages:** Moving Averages สามารถช่วยคุณระบุแนวโน้มของราคา และใช้เป็นสัญญาณในการซื้อขาย 8. **การใช้ RSI (Relative Strength Index):** RSI เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่สามารถช่วยคุณวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และใช้เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป 9. **การใช้ MACD (Moving Average Convergence Divergence):** MACD เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่สามารถช่วยคุณระบุการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของราคา 10. **การใช้ Fibonacci Retracements:** Fibonacci Retracements สามารถช่วยคุณระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ ซึ่งสามารถใช้เพื่อวางแผนการซื้อขายของคุณ 11. **การวิเคราะห์ Pattern แท่งเทียน:** Candlestick Patterns เช่น Doji, Engulfing, Hammer สามารถให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับทิศทางของราคา 12. **การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ:** ปฏิทินเศรษฐกิจ และข่าวสารสำคัญสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาของสินทรัพย์ ดังนั้น การติดตามข่าวสารเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ 13. **การวิเคราะห์ Sentiment:** การวัดความเชื่อมั่นของนักลงทุน (Sentiment) สามารถช่วยคุณประเมินว่าตลาดกำลังอยู่ในสภาวะ Bullish หรือ Bearish 14. **การใช้ Price Action:** การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ Indicator อื่นๆ สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า 15. **การใช้ Volume Analysis:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยคุณยืนยันแนวโน้ม และระบุจุดกลับตัวของราคา

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงในการเจรจาต่อรอง

การจัดการความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญของการเจรจาต่อรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น:

• **กำหนดขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถสูญเสียได้
• **ใช้ Stop-Loss (จำลอง):** จำกัดการขาดทุนของคุณโดยการจำกัดจำนวนการซื้อขายที่ต่อเนื่องกัน หรือโดยการปรับขนาดตำแหน่งของคุณ
• **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว
• **ใช้บัญชี Demo:** ฝึกฝนกลยุทธ์ของคุณด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
• **เข้าใจความเสี่ยง:** ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. จิตวิทยาในการเจรจาต่อรอง

จิตวิทยา (Psychology) มีบทบาทสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น:

• **ควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์ เช่น ความกลัว หรือความโลภ เข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคุณ
• **มีวินัย:** ปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณอย่างเคร่งครัด
• **อดทน:** อย่าคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ทันที
• **เรียนรู้จากความผิดพลาด:** วิเคราะห์ข้อผิดพลาดของคุณ และเรียนรู้จากมัน

1. 1. 1. เครื่องมือและทรัพยากรเพิ่มเติม

• **โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น:** เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีใบอนุญาต
• **เว็บไซต์การเงิน:** ติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์จากเว็บไซต์การเงินที่เชื่อถือได้ เช่น Investing.com, Bloomberg, Reuters
• **ฟอรัมการซื้อขาย:** เข้าร่วมฟอรัมการซื้อขายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับนักเทรดคนอื่นๆ
• **หนังสือและหลักสูตรออนไลน์:** ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่นและกลยุทธ์การซื้อขายจากหนังสือและหลักสูตรออนไลน์

1. 1. 1. ตารางสรุปกลยุทธ์การเจรจาต่อรอง

กลยุทธ์การเจรจาต่อรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

กลยุทธ์	คำอธิบาย	ระดับความเสี่ยง
Stop-Loss (จำลอง)	จำกัดการขาดทุนโดยการจำกัดจำนวนการซื้อขายหรือปรับขนาดตำแหน่ง	ต่ำ - ปานกลาง
Multiple Expiry Times	ใช้เวลาหมดอายุที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร	ปานกลาง
Hedging	ป้องกันความเสี่ยงโดยเปิดตำแหน่งที่ตรงข้าม	ปานกลาง - สูง
Martingale	เพิ่มขนาดตำแหน่งเป็นสองเท่าเมื่อขาดทุน	สูงมาก
Anti-Martingale	ลดขนาดตำแหน่งเมื่อชนะและเพิ่มเมื่อขาดทุน	ปานกลาง
Bollinger Bands	ระบุสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป	ปานกลาง
Moving Averages	ระบุแนวโน้มของราคา	ปานกลาง

1. 1. 1. สรุป

การเจรจาต่อรองในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประเมินความเสี่ยง การเลือกสินทรัพย์ การเลือกเวลาหมดอายุ การจัดการขนาดตำแหน่ง และการปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานของไบนารี่ออปชั่น การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม การจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และการควบคุมจิตใจของคุณ คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์พื้นฐาน | การบริหารเงินทุน | จิตวิทยาการซื้อขาย | กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น | โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น | ความเสี่ยงในการซื้อขาย | การลงทุน | ตลาดการเงิน | Forex | หุ้น | ดัชนี | สินค้าโภคภัณฑ์ | ข่าวสารเศรษฐกิจ | ปฏิทินเศรษฐกิจ | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | Bollinger Bands | Moving Averages | RSI | MACD | Fibonacci Retracements | Candlestick Patterns

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น