การใช้ Mental Accounting

การใช้ Mental Accounting ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

บทนำ

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความรู้ด้านเทคนิคและการวิเคราะห์ตลาดเท่านั้น จิตวิทยาการเทรดมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของการเทรด และหนึ่งในแนวคิดทางจิตวิทยาที่ทรงพลังที่สุดที่เทรดเดอร์ควรเข้าใจ คือ “Mental Accounting” หรือ การบัญชีในใจ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เสนอโดย Daniel Kahneman และ Amos Tversky ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์

บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Mental Accounting ว่าคืออะไร มีผลต่อการตัดสินใจเทรดอย่างไร และเทรดเดอร์สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้อย่างไรบ้าง

Mental Accounting คืออะไร?

Mental Accounting คือ กระบวนการที่เราแบ่งเงินและสินทรัพย์ของเราออกเป็นบัญชีต่างๆ ในใจ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วเงินทุกบาททุกสตางค์มีความเท่าเทียมกัน แต่เรามักจะปฏิบัติต่อเงินในแต่ละบัญชีแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น เราอาจจะมองว่าเงินที่ได้จากโบนัสแตกต่างจากเงินเดือนประจำ และยินดีที่จะใช้จ่ายเงินโบนัสอย่างฟุ่มเฟือยมากกว่าเงินเดือน

การแบ่งบัญชีในใจนี้อาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น แหล่งที่มาของเงิน (เงินเดือน, โบนัส, เงินรางวัล), จุดประสงค์การใช้งาน (ค่าใช้จ่ายประจำ, การลงทุน, การท่องเที่ยว), หรือแม้กระทั่งลักษณะทางกายภาพของเงิน (เงินสด, บัตรเครดิต)

ผลกระทบของ Mental Accounting ต่อการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Mental Accounting สามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายประการ ดังนี้:

**การยอมรับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน:** เทรดเดอร์อาจจะยอมรับความเสี่ยงได้มากกว่าเมื่อใช้เงินที่มาจากแหล่งที่มาที่พวกเขาไม่รู้สึกผูกพันมากนัก เช่น เงินที่ได้จากการขายหุ้นที่เคยถือไว้ หรือเงินที่ได้จากโบนัส ซึ่งอาจนำไปสู่การเทรดที่ประมาทและขาดการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม
**การยึดติดกับผลขาดทุน (Loss Aversion):** ผู้คนมักจะรู้สึกเจ็บปวดจากผลขาดทุนมากกว่าความสุขที่ได้รับจากผลกำไรในจำนวนที่เท่ากัน (Loss Aversion) ทำให้เทรดเดอร์ที่ประสบกับผลขาดทุนมักจะพยายาม “แก้ตัว” โดยการเทรดเพิ่มเพื่อหวังผลกำไร ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนที่มากขึ้นได้ การใช้กลยุทธ์ Martingale เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของพฤติกรรมนี้
**ผลกระทบจาก “เงินที่ชนะ” (House Money Effect):** เมื่อเทรดเดอร์ได้กำไรจากการเทรด พวกเขาอาจจะรู้สึกว่ามี “เงินที่ชนะ” และกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้
**การแยกแยะผลกำไรและผลขาดทุน:** เทรดเดอร์อาจจะมองว่าผลกำไรจากการเทรดเป็น “เงินพิเศษ” และนำไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ในขณะที่ผลขาดทุนถูกมองว่าเป็น “เงินที่หายไป” และทำให้เกิดความเครียดและความกังวล
**การประเมินความเสี่ยงที่ไม่ถูกต้อง:** การแบ่งเงินในใจอาจทำให้เทรดเดอร์ประเมินความเสี่ยงของการเทรดแต่ละครั้งไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาพิจารณาผลตอบแทนที่คาดหวังโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

วิธีการประยุกต์ใช้ Mental Accounting เพื่อปรับปรุงการเทรด

การตระหนักถึงอิทธิพลของ Mental Accounting ต่อการตัดสินใจเทรดเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้:

1. **รวมบัญชีทั้งหมดเข้าด้วยกัน:** มองว่าเงินทุนทั้งหมดของคุณเป็นกองทุนเดียว ไม่ว่าจะมีแหล่งที่มาอย่างไร หรือมีจุดประสงค์การใช้งานอย่างไร การทำเช่นนี้จะช่วยลดอิทธิพลของ Mental Accounting และทำให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างเป็นกลางมากขึ้น 2. **กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม:** กำหนดขนาด Position (จำนวนเงินที่ใช้ในการเทรดแต่ละครั้ง) ที่เหมาะสมกับขนาดของกองทุนทั้งหมดของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละครั้ง การใช้ Position Sizing ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ 3. **มีแผนการเทรดที่ชัดเจน:** พัฒนาแผนการเทรดที่ชัดเจน ซึ่งรวมถึงกฎเกณฑ์ในการเข้าและออกจากตลาด, การจัดการความเสี่ยง, และเป้าหมายในการทำกำไร การมีแผนการเทรดจะช่วยลดการตัดสินใจตามอารมณ์และสัญชาตญาณ 4. **บันทึกผลการเทรดอย่างละเอียด:** บันทึกผลการเทรดแต่ละครั้งอย่างละเอียด รวมถึงเหตุผลในการเข้าและออกจากตลาด, ผลกำไรหรือผลขาดทุน, และบทเรียนที่ได้รับ การวิเคราะห์บันทึกการเทรดจะช่วยให้คุณระบุรูปแบบพฤติกรรมที่ผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณ 5. **แยกผลกำไรและผลขาดทุนออกจากกัน:** แม้ว่าคุณควรจะรวมบัญชีทั้งหมดเข้าด้วยกัน แต่คุณควรจะแยกผลกำไรและผลขาดทุนออกจากกันในเชิงจิตใจ มองว่าผลกำไรเป็นผลมาจากการตัดสินใจที่ดี และผลขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณไม่ยึดติดกับผลขาดทุนมากเกินไป และไม่ประมาทเมื่อได้กำไร 6. **ใช้ Stop Loss อย่างสม่ำเสมอ:** การตั้งค่า Stop Loss เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการความเสี่ยง และช่วยป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนมากเกินไปในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้ 7. **หลีกเลี่ยงการ “แก้ตัว”:** เมื่อคุณประสบกับผลขาดทุน อย่าพยายาม “แก้ตัว” โดยการเทรดเพิ่มเพื่อหวังผลกำไร ให้ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน 8. **ฝึกสติ (Mindfulness):** การฝึกสติสามารถช่วยให้คุณตระหนักถึงความคิดและอารมณ์ของคุณ และลดอิทธิพลของอารมณ์ต่อการตัดสินใจเทรด

กลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง

การเข้าใจ Mental Accounting สามารถช่วยให้คุณใช้กลยุทธ์การเทรดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้:

**กลยุทธ์ Break Even:** ช่วยรักษาผลกำไรและลดความเสี่ยง
**กลยุทธ์ Hedging:** ลดความเสี่ยงโดยการเปิด Position ในทิศทางตรงกันข้าม
**กลยุทธ์ Trend Following:** เทรดตามแนวโน้มของตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
**กลยุทธ์ Range Trading:** เทรดในช่วงราคาที่ผันผวน
**กลยุทธ์ Scalping:** ทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น
**กลยุทธ์ Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุจุดเข้าและออกจากตลาด
**กลยุทธ์ Moving Average Crossover:** ใช้เส้น Moving Average เพื่อระบุแนวโน้มของตลาด
**กลยุทธ์ RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะ Overbought/Oversold
**กลยุทธ์ MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อ/ขาย
**กลยุทธ์ Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา
**กลยุทธ์ Japanese Candlestick Patterns:** ใช้รูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่นเพื่อระบุสัญญาณการซื้อ/ขาย
**กลยุทธ์ Elliott Wave:** ใช้ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคา
**กลยุทธ์ Price Action:** วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ใช้ Indicator
**กลยุทธ์ Harmonic Patterns:** ใช้รูปแบบ Harmonic เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา
**กลยุทธ์ News Trading:** เทรดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

การใช้ Mental Accounting ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเทรดได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น:

**การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis):** การระบุแนวโน้มของตลาดสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเทรดในทิศทางที่ถูกต้อง
**การวิเคราะห์ Support และ Resistance:** การระบุระดับ Support และ Resistance สามารถช่วยให้คุณกำหนดจุดเข้าและออกจากตลาด
**การวิเคราะห์ Volume:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัว
**การใช้ Indicators:** การใช้ Indicators เช่น RSI, MACD, และ Bollinger Bands สามารถช่วยให้คุณระบุสัญญาณการซื้อ/ขาย
**การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Pattern Analysis):** การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนสามารถช่วยให้คุณระบุสัญญาณการกลับตัวของราคา

สรุป

Mental Accounting เป็นแนวคิดทางจิตวิทยาที่ทรงพลังที่สามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้อย่างมีนัยสำคัญ การตระหนักถึงอิทธิพลของ Mental Accounting และการประยุกต์ใช้แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คุณปรับปรุงประสิทธิภาพในการเทรดและบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณได้ การผสมผสานความรู้ด้านเทคนิค การวิเคราะห์ตลาด และความเข้าใจในจิตวิทยาการเทรด จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในโลกของการเทรด ไบนารี่ออปชั่น

ตัวอย่าง Mental Accounting ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
! สถานการณ์	! พฤติกรรมที่เกิดจาก Mental Accounting	! ผลกระทบต่อการเทรด
ได้รับโบนัส	กล้าเสี่ยงมากขึ้น	การเทรดที่ประมาทและขาดการจัดการความเสี่ยง
ประสบผลขาดทุน	พยายาม “แก้ตัว” โดยเทรดเพิ่ม	การขาดทุนที่มากขึ้น
ได้กำไรจากการเทรด	ใช้เงินกำไรอย่างฟุ่มเฟือย	ไม่สามารถนำเงินกำไรไปลงทุนต่อเพื่อสร้างผลตอบแทน
เงินทุนส่วนตัว	ระมัดระวังในการเทรด	การพลาดโอกาสในการทำกำไร
เงินทุนจากแหล่งอื่น	ยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น	การเทรดที่ไม่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น