การใช้ Footprint Chart

1. 1. การใช้ Footprint Chart

Footprint Chart หรือที่เรียกกันว่า Market Profile Chart เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน แต่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้นักเทรดเข้าใจการกระจายตัวของปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) และราคาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ได้อย่างละเอียดกว่าการดูแค่แท่งเทียน (Candlestick) หรือกราฟเส้น (Line Chart) ทั่วไป บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงานของ Footprint Chart, วิธีการอ่านค่า, การนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น และกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Footprint Chart

1. 1. 1. ความเป็นมาและความสำคัญของ Footprint Chart

Footprint Chart ถูกพัฒนาขึ้นโดย James Dalton ในช่วงทศวรรษ 1980 โดยมีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ตลาดสินค้าเกษตร (Agricultural Commodities) ในช่วงแรก แต่ต่อมาได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับตลาดอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้น, ตลาด Forex และตลาด ไบนารี่ออปชั่น

ความสำคัญของ Footprint Chart อยู่ที่ความสามารถในการแสดงข้อมูลปริมาณการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับระดับราคาแต่ละระดับ ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถ:

• ระบุระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น (Value Area) ซึ่งบ่งบอกถึงจุดที่ตลาดให้ความสนใจ
• ค้นหารูปแบบการกระจายตัวของปริมาณการซื้อขายที่อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม (Trend)
• ประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มปัจจุบัน
• ระบุจุดกลับตัวของราคาที่อาจเกิดขึ้น

1. 1. 1. หลักการทำงานของ Footprint Chart

Footprint Chart จะแสดงข้อมูลปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับราคา โดยจะแบ่งช่วงราคาออกเป็น "TPOs" (Time Price Opportunities) ซึ่งแต่ละ TPO จะแสดงปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่ระดับราคานั้นๆ

สิ่งที่แตกต่างจากกราฟแบบดั้งเดิมคือ Footprint Chart ไม่ได้แสดงแค่ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และราคาปิด แต่จะแสดงปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับราคาด้วย

Footprint Chart ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้:

• **Point of Control (POC):** ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลาที่กำหนด บ่งบอกถึงระดับราคาที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุด
• **Value Area (VA):** ช่วงราคาที่รวมปริมาณการซื้อขายประมาณ 70% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด บ่งบอกถึงช่วงราคาที่ตลาดมองว่ามีมูลค่า
• **High Volume Node (HVN):** ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าระดับราคาโดยรอบ บ่งบอกถึงระดับราคาที่มีการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
• **Low Volume Node (LVN):** ระดับราคาที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าระดับราคาโดยรอบ บ่งบอกถึงระดับราคาที่ตลาดไม่ให้ความสนใจ
• **Initial Balance (IB):** ช่วงราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของช่วงเวลาที่กำหนด บ่งบอกถึงช่วงราคาที่ตลาดมีความผันผวนน้อยที่สุด

1. 1. 1. วิธีการอ่านค่า Footprint Chart

การอ่านค่า Footprint Chart ต้องอาศัยความเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และการสังเกตการกระจายตัวของปริมาณการซื้อขายในแต่ละระดับราคา

• **การระบุ Point of Control (POC):** มองหาระดับราคาที่มีแท่ง Footprint ที่สูงที่สุด บ่งบอกถึงระดับราคาที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุด หากราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้หรือทะลุ POC อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
• **การระบุ Value Area (VA):** มองหาช่วงราคาที่รวมปริมาณการซื้อขายประมาณ 70% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด บ่งบอกถึงช่วงราคาที่ตลาดมองว่ามีมูลค่า หากราคาเคลื่อนที่ออกจาก VA อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
• **การสังเกต High Volume Node (HVN) และ Low Volume Node (LVN):** HVN บ่งบอกถึงระดับราคาที่มีการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หากราคาไม่สามารถทะลุ HVN ได้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคา ในขณะที่ LVN บ่งบอกถึงระดับราคาที่ตลาดไม่ให้ความสนใจ
• **การสังเกต Initial Balance (IB):** IB บ่งบอกถึงช่วงราคาที่ตลาดมีความผันผวนน้อยที่สุด หากราคาเคลื่อนที่ออกจาก IB อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้ Footprint Chart ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Footprint Chart สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายรูปแบบ ดังนี้:

• **การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following):** หากแนวโน้มเป็นขาขึ้น ให้มองหา POC และ VA ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และทำการเปิด Position ในทิศทางเดียวกับแนวโน้ม หากแนวโน้มเป็นขาลง ให้มองหา POC และ VA ที่ต่ำลงเรื่อยๆ และทำการเปิด Position ในทิศทางเดียวกับแนวโน้ม
• **การเทรดเมื่อราคาเข้าใกล้ POC:** หากราคาเข้าใกล้ POC อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคา หรือการพักตัวของแนวโน้ม นักเทรดสามารถเปิด Position ในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มเดิม หรือรอให้ราคา Breakout จาก POC แล้วจึงเปิด Position ตามแนวโน้มใหม่
• **การเทรดเมื่อราคาออกจาก VA:** หากราคาเคลื่อนที่ออกจาก VA อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม นักเทรดสามารถเปิด Position ในทิศทางเดียวกับแนวโน้มใหม่
• **การเทรดตาม HVN และ LVN:** หากราคาไม่สามารถทะลุ HVN ได้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคา นักเทรดสามารถเปิด Position ในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มเดิม ในขณะที่ LVN อาจเป็นระดับราคาที่ราคาจะทะลุผ่านไปได้ง่าย นักเทรดสามารถเปิด Position ตามแนวโน้มเดิมเมื่อราคาเข้าใกล้ LVN
• **การใช้ Footprint Chart ร่วมกับ Indicator อื่นๆ:** Footprint Chart สามารถใช้ร่วมกับ Indicator ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, MACD, RSI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Footprint Chart

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรด ไบนารี่ออปชั่น ที่ใช้ Footprint Chart:

• • 1. POC Breakout Strategy:**

• **เงื่อนไข:** ราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้ POC และเกิดการ Breakout จาก POC
• **การเปิด Position:** เปิด Position ในทิศทางเดียวกับการ Breakout
• **ระยะเวลา:** เลือกระยะเวลาที่เหมาะสมกับ Timeframe ที่ใช้ เช่น 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที
• **การจัดการความเสี่ยง:** ตั้ง Stop Loss ที่ระดับราคาต่ำกว่า POC หากราคา Breakout ขึ้น หรือสูงกว่า POC หากราคา Breakout ลง

• • 2. Value Area Rejection Strategy:**

• **เงื่อนไข:** ราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้ขอบบนหรือขอบล่างของ VA และเกิดการ Reject (ราคาไม่สามารถทะลุผ่าน VA)
• **การเปิด Position:** เปิด Position ในทิศทางตรงกันข้ามกับการ Reject
• **ระยะเวลา:** เลือกระยะเวลาที่เหมาะสมกับ Timeframe ที่ใช้ เช่น 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที
• **การจัดการความเสี่ยง:** ตั้ง Stop Loss ที่ระดับราคาเหนือขอบบนของ VA หากเกิดการ Reject ที่ขอบล่าง หรือต่ำกว่าขอบล่างของ VA หากเกิดการ Reject ที่ขอบบน

• • 3. High Volume Node Bounce Strategy:**

• **เงื่อนไข:** ราคาเคลื่อนที่เข้าใกล้ HVN และเกิดการ Bounce (ราคาเด้งกลับจาก HVN)
• **การเปิด Position:** เปิด Position ในทิศทางเดียวกับการ Bounce
• **ระยะเวลา:** เลือกระยะเวลาที่เหมาะสมกับ Timeframe ที่ใช้ เช่น 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที
• **การจัดการความเสี่ยง:** ตั้ง Stop Loss ที่ระดับราคาต่ำกว่า HVN หากเกิดการ Bounce ขึ้น หรือสูงกว่า HVN หากเกิดการ Bounce ลง

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของ Footprint Chart

• • ข้อดี:**

• ให้ข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับระดับราคา
• ช่วยให้นักเทรดเข้าใจการกระจายตัวของปริมาณการซื้อขายและความสนใจของตลาด
• สามารถใช้ในการระบุระดับราคาที่สำคัญและจุดกลับตัวของราคา
• สามารถใช้ร่วมกับ Indicator อื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด

• • ข้อเสีย:**

• เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
• อาจต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากในการวิเคราะห์
• อาจไม่เหมาะกับนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

1. 1. 1. สรุป

Footprint Chart เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรด ไบนารี่ออปชั่น ที่ต้องการเข้าใจการกระจายตัวของปริมาณการซื้อขายและความสนใจของตลาดอย่างละเอียด การเรียนรู้การอ่านค่าและประยุกต์ใช้ Footprint Chart อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น

ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดด้วย Footprint Chart

กลยุทธ์	เงื่อนไข	การเปิด Position	ระยะเวลา	การจัดการความเสี่ยง
POC Breakout	ราคา Breakout จาก POC	ทิศทาง Breakout	5-30 นาที	Stop Loss ที่เหนือ/ใต้ POC
Value Area Rejection	ราคา Reject ที่ VA	ทิศทางตรงข้าม Reject	5-30 นาที	Stop Loss ที่เหนือ/ใต้ VA
HVN Bounce	ราคา Bounce จาก HVN	ทิศทาง Bounce	5-30 นาที	Stop Loss ที่เหนือ/ใต้ HVN

การวิเคราะห์ทางเทคนิค | รูปแบบราคา | ปริมาณการซื้อขาย | Moving Average | MACD | RSI | แนวโน้ม | กลยุทธ์การเทรด | ไบนารี่ออปชั่น | Point of Control | Value Area | High Volume Node | Low Volume Node | Initial Balance | การจัดการความเสี่ยง | การเทรดตามแนวโน้ม | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | เทรดเดอร์ | กราฟแท่งเทียน | กราฟเส้น | Timeframe | Indicator | Stop Loss | Breakout | Rejection | Bounce

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น