การใช้ Fibonacci Retracement ในการหาจุดเข้าเทรด

ตัวอย่าง Fibonacci Retracement บนกราฟราคา

ตัวอย่าง Fibonacci Retracement บนกราฟราคา

การใช้ Fibonacci Retracement ในการหาจุดเข้าเทรด

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น หรือการลงทุนในตลาดการเงินใดๆ ล้วนต้องการเครื่องมือและกลยุทธ์ที่แม่นยำเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพอย่างมากคือ Fibonacci Retracement หรือ การถดถอยฟีโบนักชี ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นบนกราฟราคา บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Fibonacci Retracement ตั้งแต่พื้นฐาน แนวคิดการใช้งาน การประยุกต์ใช้ในไบนารี่ออปชั่น รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Fibonacci คืออะไร?

Fibonacci Retracement มีที่มาจากลำดับฟีโบนักชี (Fibonacci Sequence) ซึ่งเป็นลำดับของตัวเลขที่เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 โดยตัวเลขถัดไปในลำดับคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, …) นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ Leonardo Pisano หรือ Fibonacci ได้นำเสนอแนวคิดนี้ขึ้นมาในศตวรรษที่ 13

สิ่งที่น่าสนใจคืออัตราส่วนที่ได้จากการหารตัวเลขในลำดับฟีโบนักชีที่อยู่ติดกัน จะเข้าใกล้ค่าประมาณ 0.618 หรือที่เรียกว่า Golden Ratio (อัตราส่วนทองคำ) อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้อัตราส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น 0.382, 0.236, 0.50 และ 0.786 ก็มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเช่นกัน

Fibonacci Retracement คืออะไร และทำงานอย่างไร?

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น โดยอิงจากอัตราส่วนฟีโบนักชี โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะระบุจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ของแนวโน้ม (Trend) ที่ชัดเจน จากนั้นเครื่องมือจะสร้างเส้นระดับต่างๆ บนกราฟราคา โดยอิงตามอัตราส่วนฟีโบนักชีที่สำคัญ ได้แก่:

• 23.6%
• 38.2%
• 50%
• 61.8%
• 78.6%

เส้นระดับเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นแนวรับในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และแนวต้านในแนวโน้มขาลง (Downtrend) นักเทรดเชื่อว่าราคาจะมีการปรับตัวกลับ (Retrace) ไปยังระดับเหล่านี้ก่อนที่จะดำเนินแนวโน้มเดิมต่อไป

วิธีการใช้ Fibonacci Retracement ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

การใช้ Fibonacci Retracement ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนและตัวอย่างการใช้งาน:

1. ระบุแนวโน้ม: ขั้นตอนแรกคือการระบุแนวโน้มที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือแนวโน้มขาลง การใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Moving Average หรือ Trendline สามารถช่วยในการยืนยันแนวโน้มได้
2. ระบุ Swing High และ Swing Low: หาจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ที่สำคัญของแนวโน้มที่ระบุ
3. วาด Fibonacci Retracement: ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณ ลากจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุดในแนวโน้มขาขึ้น หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุดในแนวโน้มขาลง
4. ระบุระดับแนวรับ/แนวต้าน: สังเกตระดับ Fibonacci ที่ราคาอาจมีการปรับตัวกลับ โดยระดับ 38.2%, 50% และ 61.8% มักถูกพิจารณาว่าเป็นระดับที่สำคัญ
5. หาจุดเข้าเทรด: เมื่อราคาปรับตัวกลับไปยังระดับ Fibonacci ที่สำคัญ ให้พิจารณาเปิดออปชั่น โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับไปในทิศทางของแนวโน้มเดิม
6. กำหนดจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุน: กำหนดจุดทำกำไรที่ระดับถัดไปของ Fibonacci หรือที่ระดับแนวต้าน/แนวรับที่สำคัญอื่นๆ และกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ต่ำกว่าระดับ Fibonacci ที่ใช้เป็นจุดเข้าเทรดเล็กน้อย

ตัวอย่างการใช้งาน Fibonacci Retracement ในไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าคุณสังเกตเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนในกราฟราคาของสินทรัพย์ที่คุณสนใจ คุณระบุจุดต่ำสุดที่ 1.0000 และจุดสูงสุดที่ 1.1000 จากนั้นคุณวาด Fibonacci Retracement จาก 1.0000 ไปยัง 1.1000

คุณสังเกตเห็นว่าราคาปรับตัวลงมาที่ระดับ 61.8% Fibonacci ซึ่งอยู่ที่ 1.0382 คุณเชื่อว่านี่คือจุดที่ดีในการเปิดออปชั่น Call (ซื้อ) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับไปขึ้นต่อ

คุณกำหนดจุดทำกำไรที่ระดับ 1.0800 (ใกล้กับระดับ 38.2% Fibonacci) และกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 1.0300 (ต่ำกว่าระดับ 61.8% Fibonacci เล็กน้อย)

หากราคากลับไปขึ้นตามที่คุณคาดการณ์ คุณจะได้รับผลกำไรจากออปชั่น Call ที่คุณเปิดไว้

การผสมผสาน Fibonacci Retracement กับเครื่องมืออื่นๆ

เพื่อให้การวิเคราะห์มีความแม่นยำยิ่งขึ้น ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือและตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:

• Support and Resistance (แนวรับและแนวต้าน): ใช้เพื่อยืนยันระดับ Fibonacci ที่สำคัญ
• Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่): ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและหาจุดตัดที่อาจเป็นสัญญาณซื้อขาย
• RSI (Relative Strength Index) (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์): ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและหาภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
• MACD (Moving Average Convergence Divergence) (การบรรจบกันของการเคลื่อนที่ของค่าเฉลี่ย): ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
• Candlestick Patterns (รูปแบบแท่งเทียน): ใช้เพื่อหาสัญญาณกลับตัวของราคาที่ระดับ Fibonacci

ข้อควรระวังในการใช้ Fibonacci Retracement

แม้ว่า Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรคำนึงถึง:

• ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100%: Fibonacci Retracement ไม่สามารถคาดการณ์ราคาได้อย่างแม่นยำเสมอไป ราคาอาจทะลุผ่านระดับ Fibonacci ได้
• การระบุ Swing High และ Swing Low ที่ถูกต้อง: การระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ หากระบุผิดพลาด จะทำให้การวิเคราะห์ผิดพลาดตามไปด้วย
• การยืนยันด้วยเครื่องมืออื่นๆ: ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือและตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
• การจัดการความเสี่ยง: ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเสมอ เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรด

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Fibonacci Retracement

มีกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นมากมายที่ใช้ Fibonacci Retracement เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน:

• Fibonacci Retracement Reversal Strategy: เปิดออปชั่นเมื่อราคาปรับตัวกลับไปยังระดับ Fibonacci ที่สำคัญ และมีสัญญาณกลับตัวของราคา เช่น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว
• Fibonacci Retracement Breakout Strategy: เปิดออปชั่นเมื่อราคาทะลุผ่านระดับ Fibonacci ที่สำคัญในทิศทางของแนวโน้ม
• Fibonacci Retracement Confirmation Strategy: ใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณก่อนเปิดออปชั่น
• Pin Bar Strategy with Fibonacci: ใช้ Pin Bar ร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว
• Engulfing Pattern Strategy with Fibonacci: ใช้ Engulfing Pattern ร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว
• Morning Star and Evening Star Patterns with Fibonacci: ใช้รูปแบบ Morning Star และ Evening Star ร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว
• Three White Soldiers and Three Black Crows Patterns with Fibonacci: ใช้รูปแบบ Three White Soldiers และ Three Black Crows ร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว
• Doji Candlestick Pattern with Fibonacci: ใช้ Doji Candlestick ร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว
• Hammer and Hanging Man Patterns with Fibonacci: ใช้ Hammer และ Hanging Man ร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว
• Fibonacci and Volume Analysis: วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายร่วมกับระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณ
• Bollinger Bands and Fibonacci: ใช้ Bollinger Bands ร่วมกับ Fibonacci เพื่อระบุช่วงราคาที่อาจมีการปรับตัวกลับ
• Ichimoku Cloud and Fibonacci: ใช้ Ichimoku Cloud ร่วมกับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับแนวต้านที่แข็งแกร่ง
• Pivot Points and Fibonacci: ใช้ Pivot Points ร่วมกับ Fibonacci เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
• Fibonacci and Elliott Wave Theory: ใช้ Fibonacci ร่วมกับ Elliott Wave Theory เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
• Heikin Ashi Candles with Fibonacci: ใช้ Heikin Ashi Candles ร่วมกับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัว

สรุป

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้เครื่องมือนี้ร่วมกับเครื่องมือและตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด [[Categor

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น