การใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักเทรด โดยเฉพาะในตลาด ไบนารี่ออปชั่น และตลาด Forex เครื่องมือนี้อาศัยหลักการของลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับตัวเลขที่พบได้บ่อยในธรรมชาติ และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการคาดการณ์ระดับแนวรับแนวต้านที่เป็นไปได้ในตลาดการเงิน บทความนี้จะอธิบายหลักการพื้นฐานของการใช้ Fibonacci Retracement อย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรด
- ความเป็นมาของ Fibonacci และลำดับ Fibonacci
ราวปี ค.ศ. 1202 Leonardo Pisano หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ได้นำเสนอแนวคิดของลำดับ Fibonacci ซึ่งเริ่มต้นด้วย 0 และ 1 จากนั้นตัวเลขถัดไปในลำดับจะเท่ากับผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า:
0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, ...
แม้ว่าจะเป็นเพียงลำดับตัวเลขธรรมดา แต่ความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์นี้กลับปรากฏให้เห็นในธรรมชาติมากมาย เช่น การเรียงตัวของกลีบดอกไม้ จำนวนเกลียวในเปลือกหอย หรือรูปแบบการเจริญเติบโตของกิ่งไม้ นักเทรดได้ค้นพบว่าลำดับ Fibonacci และอัตราส่วนที่ได้จากลำดับนี้ มีความสัมพันธ์กับความเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงิน
- อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ
อัตราส่วนที่ได้จากการหารตัวเลขในลำดับ Fibonacci ที่ต่อเนื่องกัน จะเข้าใกล้ค่าคงที่บางค่า ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค:
- **61.8% (Golden Ratio):** ได้จากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับด้วยตัวเลขถัดไป (เช่น 55/89 ≈ 0.618)
- **38.2%:** ได้จากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับด้วยตัวเลขที่อยู่สองตำแหน่งถัดไป (เช่น 34/89 ≈ 0.382)
- **23.6%:** ได้จากการหารตัวเลขใดๆ ในลำดับด้วยตัวเลขที่อยู่สามตำแหน่งถัดไป (เช่น 21/89 ≈ 0.236)
- **50%:** ไม่ใช่ค่าโดยตรงจากลำดับ Fibonacci แต่เป็นระดับที่นักเทรดนิยมใช้ เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางของการเคลื่อนไหวของราคา
- **78.6%:** ได้จากรากที่สองของ 61.8%
อัตราส่วนเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการสร้างระดับ Fibonacci Retracement ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- Fibonacci Retracement คืออะไร?
Fibonacci Retracement คือการวาดเส้นระดับบนกราฟราคา เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้านที่เป็นไปได้ โดยอิงจากอัตราส่วน Fibonacci ที่กล่าวมาข้างต้น โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะเลือกจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการเคลื่อนไหวของราคา (Swing High และ Swing Low) แล้วเครื่องมือจะวาดเส้นระดับที่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6% จากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเหล่านั้น
- วิธีการวาด Fibonacci Retracement
ขั้นตอนการวาด Fibonacci Retracement มีดังนี้:
1. **ระบุ Swing High และ Swing Low:** มองหากลุ่มราคาที่สร้างจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ที่ชัดเจนในการเคลื่อนไหวของราคา 2. **เลือกเครื่องมือ Fibonacci Retracement:** ในแพลตฟอร์มเทรดของคุณ ให้เลือกเครื่องมือ Fibonacci Retracement (โดยปกติจะอยู่ในเมนู Indicators หรือ Drawing Tools) 3. **ลากจาก Swing Low ไปยัง Swing High (หรือกลับกัน):**
* **แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend):** ลากจาก Swing Low ไปยัง Swing High * **แนวโน้มขาลง (Downtrend):** ลากจาก Swing High ไปยัง Swing Low
4. **สังเกตระดับ Fibonacci:** เมื่อวาดเสร็จแล้ว จะมีเส้นระดับ Fibonacci ปรากฏบนกราฟราคา ซึ่งแสดงถึงระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
- การตีความระดับ Fibonacci Retracement
ระดับ Fibonacci Retracement แต่ละระดับมีความสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา:
- **23.6%:** ระดับแรกที่ราคามีแนวโน้มที่จะปรับฐาน (Retrace) ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- **38.2%:** ระดับที่สำคัญและมักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อหรือขาย
- **50%:** ระดับที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัว (Reverse) หรือหยุดพัก
- **61.8%:** ระดับที่สำคัญที่สุดและมักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อหรือขายในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- **78.6%:** ระดับที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวอย่างรุนแรง
นักเทรดมักจะมองหาการยืนยัน (Confirmation) อื่นๆ เช่น รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) หรือ Indicator อื่นๆ เพื่อยืนยันว่าราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวที่ระดับ Fibonacci เหล่านี้
- การประยุกต์ใช้ Fibonacci Retracement ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
Fibonacci Retracement สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายวิธี:
- **Call Option (ซื้อ):** หากราคามีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงมาที่ระดับ Fibonacci (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) ในแนวโน้มขาขึ้น และมีการยืนยันการกลับตัว นักเทรดอาจเปิด Call Option
- **Put Option (ขาย):** หากราคามีแนวโน้มที่จะปรับฐานขึ้นมาที่ระดับ Fibonacci (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) ในแนวโน้มขาลง และมีการยืนยันการกลับตัว นักเทรดอาจเปิด Put Option
- **การกำหนดเป้าหมายราคา (Target Price):** นักเทรดสามารถใช้ระดับ Fibonacci Extension เพื่อกำหนดเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้หลังจากที่ราคาทะลุระดับ Fibonacci Retracement
- **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อกำหนดจุด Stop-Loss และ Take-Profit
- ข้อควรระวังในการใช้ Fibonacci Retracement
แม้ว่า Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่นักเทรดควรทราบ:
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100%:** Fibonacci Retracement เป็นเพียงเครื่องมือคาดการณ์ ไม่สามารถรับประกันผลกำไรได้
- **การเลือก Swing High และ Swing Low ที่ถูกต้อง:** การเลือกจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ หากเลือกผิดพลาด ระดับ Fibonacci ที่วาดออกมาอาจไม่ถูกต้อง
- **การยืนยันด้วยเครื่องมืออื่นๆ:** ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวโน้ม (Trend Lines), Moving Averages, RSI หรือ MACD เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์
- **ความผันผวนของตลาด (Market Volatility):** ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ระดับ Fibonacci อาจไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กลยุทธ์การเทรดที่ใช้ร่วมกับ Fibonacci Retracement
- **Fibonacci Retracement และ Moving Averages:** ใช้ระดับ Fibonacci ร่วมกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เพื่อยืนยันแนวรับแนวต้านและทิศทางของแนวโน้ม
- **Fibonacci Retracement และ Candlestick Patterns:** มองหารูปแบบแท่งเทียน (เช่น Engulfing Pattern, Hammer, Shooting Star) ที่ระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันการกลับตัวของราคา
- **Fibonacci Retracement และ RSI:** ใช้ RSI เพื่อยืนยันว่าราคามีภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ที่ระดับ Fibonacci
- **Fibonacci Retracement และ Volume Analysis:** สังเกตปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่ระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของการกลับตัว
- **Fibonacci Retracement และ Trend Lines:** ใช้เส้นแนวโน้ม (Trend Lines) ร่วมกับ Fibonacci Retracement เพื่อยืนยันแนวรับแนวต้านและทิศทางของแนวโน้ม
- ตัวอย่างการใช้งาน Fibonacci Retracement
สมมติว่าราคามีแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน และนักเทรดต้องการหาจุดเข้าซื้อที่ดีที่สุด เมื่อวาด Fibonacci Retracement จาก Swing Low ไปยัง Swing High พบว่าราคาปรับฐานลงมาที่ระดับ 61.8% ซึ่งเป็นระดับที่สำคัญ หากนักเทรดสังเกตเห็นรูปแบบแท่งเทียนที่เป็นสัญญาณการกลับตัว (เช่น Hammer) ที่ระดับ 61.8% และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น นี่อาจเป็นสัญญาณที่ดีในการเปิด Call Option
- สรุป
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยให้นักเทรดคาดการณ์ระดับแนวรับแนวต้านที่เป็นไปได้ในการเคลื่อนไหวของราคา การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานและการประยุกต์ใช้ Fibonacci Retracement อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น และตลาดการเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดเสมอ
| ระดับ Fibonacci ! คำอธิบาย ! แนวทางการใช้งาน | ||
|---|---|---|
| 23.6% | ระดับแรกที่ราคามีแนวโน้มปรับฐาน มักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อ/ขายในระยะสั้น | มองหาการยืนยันด้วย Indicator อื่นๆ |
| 38.2% | ระดับที่สำคัญ มักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อ/ขาย | ใช้ร่วมกับรูปแบบแท่งเทียนเพื่อยืนยันการกลับตัว |
| 50% | ระดับกึ่งกลาง มักใช้เป็นจุดพัก หรือการกลับตัว | ระวังการทะลุผ่านระดับนี้ |
| 61.8% | ระดับที่สำคัญที่สุด มักใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อ/ขายในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง | ใช้ร่วมกับ Volume Analysis เพื่อยืนยันความแข็งแกร่ง |
| 78.6% | ระดับที่ราคามีแนวโน้มกลับตัวอย่างรุนแรง | ระมัดระวังการเทรดในระดับนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง |
การวิเคราะห์ทางเทคนิค | แนวโน้ม | Support and Resistance | Candlestick Patterns | Moving Averages | RSI | MACD | Volume Analysis | Swing High | Swing Low | Binary Options Trading Strategies | Risk Management | Technical Indicators | Forex Trading | Trend Lines | Fibonacci Extension | Harmonic Patterns | Elliott Wave Theory | Gap Analysis | Chart Patterns
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
