การใช้ Fakeout

1. 1. การใช้ Fakeout ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. บทนำ

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่รวดเร็วได้เช่นกัน หนึ่งในกลยุทธ์ที่นักเทรดหลายคนใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรคือการใช้ประโยชน์จากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Fakeout” หรือ “การหลอก” ซึ่งเป็นสัญญาณหลอกลวงที่ทำให้เทรดเดอร์หลายคนตัดสินใจผิดพลาด แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจกลไกนี้ จะสามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้ บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Fakeout ในบริบทของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่ความหมาย รูปแบบ วิธีการระบุ และวิธีการใช้ Fakeout เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

1. 1. 1. Fakeout คืออะไร?

Fakeout คือสถานการณ์ที่ราคาของสินทรัพย์เคลื่อนที่ทะลุระดับแนวรับ (Support) หรือแนวต้าน (Resistance) แต่การทะลุนั้นเป็นเพียงชั่วคราว และราคาจะกลับตัวอย่างรวดเร็วในทิศทางตรงกันข้าม ทำให้เทรดเดอร์ที่เข้าเทรดตามการทะลุนั้นขาดทุนได้ Fakeout มักเกิดขึ้นเพื่อหลอกล่อเทรดเดอร์ให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับทิศทางของราคา และมักเกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและรวดเร็ว หรือจากข่าวสารที่ไม่คาดคิด

1. 1. 1. รูปแบบของ Fakeout

Fakeout สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วจะสามารถจำแนกออกได้ดังนี้:

• **Fakeout ที่แนวรับ:** ราคาเคลื่อนที่ลงทะลุแนวรับ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็กลับตัวขึ้นเหนือแนวรับเดิม
• **Fakeout ที่แนวต้าน:** ราคาเคลื่อนที่ขึ้นทะลุแนวต้าน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็กลับตัวลงต่ำกว่าแนวต้านเดิม
• **Fakeout ที่แนวเทรนด์:** ราคาเคลื่อนที่ทะลุแนวเทรนด์ (Trendline) แต่หลังจากนั้นไม่นานก็กลับตัวไปตามแนวเทรนด์เดิม
• **Fakeout ที่รูปแบบกราฟ:** ราคาเคลื่อนที่ทะลุเส้นคอ (Neckline) ของรูปแบบกราฟ เช่น Head and Shoulders หรือ Double Top/Bottom แต่หลังจากนั้นไม่นานก็กลับตัว

1. 1. 1. ทำไม Fakeout ถึงเกิดขึ้น?

มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิด Fakeout ได้แก่:

• **สภาพคล่องต่ำ:** ในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ การซื้อขายเพียงไม่กี่ออเดอร์ก็สามารถทำให้ราคาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและสร้าง Fakeout ได้
• **ข่าวสาร:** ข่าวสารที่ไม่คาดคิดสามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและสร้าง Fakeout ได้
• **การปั่นราคา (Market Manipulation):** ผู้เล่นรายใหญ่บางรายอาจจงใจปั่นราคาเพื่อหลอกล่อเทรดเดอร์รายย่อยให้เข้าเทรดผิดพลาด
• **การหยุดพัก (Pullback) หรือการปรับฐาน (Retracement):** ในระหว่างแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคาอาจมีการหยุดพักหรือปรับฐานชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้เกิด Fakeout ได้
• **คำสั่งซื้อขายจำนวนมาก (Large Orders):** คำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่สามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดปกติและสร้าง Fakeout ได้

1. 1. 1. วิธีการระบุ Fakeout

การระบุ Fakeout เป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่มีสัญญาณหลายอย่างที่สามารถช่วยให้คุณระบุ Fakeout ได้มากขึ้น:

1. **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** Fakeout มักเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ต่ำ หากการทะลุแนวรับหรือแนวต้านเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ต่ำ แสดงว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น Fakeout 2. **แท่งเทียน (Candlestick Patterns):** รูปแบบแท่งเทียนบางรูปแบบ เช่น Doji, Hammer, หรือ Hanging Man อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคาและอาจเป็นสัญญาณของ Fakeout ได้ การศึกษา รูปแบบแท่งเทียน อย่างละเอียดจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการระบุ Fakeout 3. **การยืนยันด้วยตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators):** ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น MACD, RSI, หรือ Stochastic Oscillator เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัวของราคา ตัวอย่างเช่น หาก MACD แสดงสัญญาณ Divergence ในขณะที่ราคาทะลุแนวต้าน อาจเป็นสัญญาณของ Fakeout 4. **การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis):** พิจารณาแนวโน้มของราคา หากการทะลุแนวรับหรือแนวต้านเกิดขึ้นในขณะที่แนวโน้มยังคงแข็งแกร่ง แสดงว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่จะเป็น Fakeout 5. **การใช้กรอบเวลาที่สูงขึ้น (Higher Timeframes):** ตรวจสอบกรอบเวลาที่สูงขึ้นเพื่อดูภาพรวมของแนวโน้ม หากแนวโน้มในกรอบเวลาที่สูงขึ้นยังคงเป็นไปในทิศทางเดิม อาจเป็นสัญญาณว่าการทะลุในกรอบเวลาที่ต่ำกว่าเป็นเพียง Fakeout

1. 1. 1. วิธีการใช้ Fakeout ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

เมื่อคุณสามารถระบุ Fakeout ได้แล้ว คุณสามารถใช้มันเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ดังนี้:

• **การเทรดสวนทาง (Counter-Trend Trading):** หากคุณระบุ Fakeout ที่แนวรับได้ คุณสามารถเปิด Position "Call" (ซื้อ) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวขึ้น หากคุณระบุ Fakeout ที่แนวต้านได้ คุณสามารถเปิด Position "Put" (ขาย) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวลง
• **การตั้งค่า Stop-Loss:** ควรตั้งค่า Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากการคาดการณ์ของคุณผิดพลาด Stop-Loss จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนมากเกินไป
• **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
• **การใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่น ๆ:** การใช้ Fakeout ร่วมกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่น ๆ เช่น Price Action, Fibonacci Retracement, หรือ Elliott Wave สามารถเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขาย

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้ Fakeout

สมมติว่าราคาของ EUR/USD กำลังเคลื่อนที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และราคาได้เข้าใกล้แนวต้านที่ 1.1000 เมื่อราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปที่ 1.1010 แต่ปริมาณการซื้อขายต่ำ และ MACD แสดงสัญญาณ Divergence คุณอาจระบุได้ว่านี่คือ Fakeout และเปิด Position "Put" (ขาย) โดยคาดหวังว่าราคาจะกลับตัวลง

1. 1. 1. ข้อควรระวังในการใช้ Fakeout

แม้ว่าการใช้ Fakeout จะสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่ก็มีข้อควรระวังที่คุณควรคำนึงถึง:

• **Fakeout ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป:** ไม่ใช่ทุกครั้งที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านจะเป็น Fakeout บางครั้งการทะลุนั้นเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่แท้จริง
• **ความล่าช้าในการระบุ:** การระบุ Fakeout อาจต้องใช้เวลา และคุณอาจพลาดโอกาสในการทำกำไรหากคุณรอสัญญาณยืนยันนานเกินไป
• **ความเสี่ยงสูง:** การเทรดสวนทางกับแนวโน้มมีความเสี่ยงสูง และคุณอาจขาดทุนหากการคาดการณ์ของคุณผิดพลาด
• **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจทำให้การระบุ Fakeout เป็นเรื่องยาก

1. 1. 1. กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

• **Pin Bar Strategy:** ใช้แท่ง Pin Bar เพื่อระบุการกลับตัวของราคาและ Fakeout
• **Inside Bar Strategy:** ใช้ Inside Bar เพื่อระบุการพักตัวของแนวโน้มและ Fakeout
• **Breakout Strategy:** ระบุการทะลุที่แท้จริงและหลีกเลี่ยง Fakeout
• **Retracement Strategy:** ใช้การปรับฐานเพื่อเข้าเทรดในทิศทางของแนวโน้มหลัก
• **Support and Resistance Strategy:** ใช้แนวรับและแนวต้านเพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา
• **Trend Following Strategy:** เทรดตามแนวโน้มหลักเพื่อหลีกเลี่ยง Fakeout
• **Mean Reversion Strategy:** เทรดโดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
• **Momentum Trading Strategy:** เทรดตามแรงโมเมนตัมของราคา
• **Scalping Strategy:** ทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น
• **Day Trading Strategy:** เปิดและปิด Position ภายในวันเดียว
• **Swing Trading Strategy:** ถือ Position ไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์
• **Position Trading Strategy:** ถือ Position ไว้หลายเดือนหรือหลายปี
• **Fibonacci Trading Strategy:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา
• **Elliott Wave Trading Strategy:** ใช้ Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคา
• **Harmonic Pattern Trading Strategy:** ใช้ Harmonic Pattern เพื่อระบุโอกาสในการเทรด

1. 1. 1. บทสรุป

Fakeout เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจกลไกของ Fakeout และวิธีการระบุสัญญาณของมันสามารถช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ Fakeout ต้องใช้ความระมัดระวังและการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การฝึกฝนและประสบการณ์จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในการระบุและใช้ประโยชน์จาก Fakeout ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น