การใช้ Day Trading
- การ ใช้ Day Trading
การซื้อขายรายวัน หรือ Day Trading คือ กลยุทธ์การซื้อขายทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินภายในวันเดียวกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้นๆ Day Trading เป็นรูปแบบการซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงได้เช่นกัน บทความนี้จะให้ภาพรวมอย่างละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายรายวันสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงแนวคิดพื้นฐาน กลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วไป การบริหารความเสี่ยง และข้อควรพิจารณาสำคัญอื่นๆ
แนวคิดพื้นฐานของการซื้อขายรายวัน
Day Trader จะไม่ถือครองตำแหน่งข้ามคืน นั่นหมายความว่าทุกธุรกรรมจะถูกปิดก่อนตลาดปิดในวันนั้น สิ่งนี้แตกต่างจากการลงทุนระยะยาว ซึ่งนักลงทุนอาจถือครองสินทรัพย์เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี Day Trading อาศัยความสามารถในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นๆ และดำเนินการซื้อขายอย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไร
- **ตลาดที่เหมาะสม:** Day Trading สามารถทำได้ในตลาดต่างๆ รวมถึง ตลาดหุ้น, ตลาดฟอเร็กซ์, ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี แต่ละตลาดมีความผันผวนและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
- **สินทรัพย์ที่ซื้อขาย:** สินทรัพย์ที่นิยมซื้อขายรายวัน ได้แก่ หุ้นที่มีสภาพคล่องสูง คู่สกุลเงินหลัก สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำและน้ำมัน รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีที่มีปริมาณการซื้อขายสูง
- **เครื่องมือและแพลตฟอร์ม:** Day Trader จำเป็นต้องมีเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเพื่อติดตามราคาแบบเรียลไทม์ วิเคราะห์กราฟ และดำเนินการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ส่วนใหญ่มีเครื่องมือที่จำเป็นเหล่านี้
- **ความเข้าใจเรื่องเลเวอเรจ:** เลเวอเรจ ช่วยให้ Day Trader สามารถควบคุมตำแหน่งที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนที่มีอยู่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจยังเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน
- **ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น:** Day Trader ต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย เนื่องจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถลดผลกำไรได้อย่างมาก
กลยุทธ์ Day Trading ที่นิยมใช้
มีกลยุทธ์ Day Trading มากมายที่นักเทรดสามารถใช้ได้ กลยุทธ์แต่ละอย่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขาย ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความรู้ความเข้าใจของนักเทรด
- **Scalping:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยหลายๆ ครั้งตลอดทั้งวัน Scalper จะถือครองตำแหน่งเป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาทีหรือนาที และมุ่งเน้นไปที่การสะสมกำไรเล็กๆ น้อยๆ
- **Momentum Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์ที่กำลังอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และขายสินทรัพย์ที่กำลังอยู่ในแนวโน้มที่อ่อนแอ Momentum Trader จะพยายามที่จะขี่คลื่นของแนวโน้มและทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว
- **Breakout Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ Breakout Trader เชื่อว่าเมื่อราคาทะลุระดับสำคัญ จะมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางนั้นต่อไป
- **Reversal Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวรับที่สำคัญ และขายสินทรัพย์เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวต้านที่สำคัญ Reversal Trader เชื่อว่าราคาจะกลับตัวจากระดับเหล่านี้
- **News Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์ News Trader จะพยายามที่จะคาดการณ์ว่าข่าวสารจะส่งผลกระทบต่อราคาอย่างไร และดำเนินการซื้อขายตามนั้น
- **Gap and Go:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากช่องว่างราคา (Gap) ที่เกิดขึ้นเมื่อตลาดเปิด หรือเมื่อมีข่าวสำคัญออกมา โดยจะเข้าซื้อเมื่อราคาเปิดเหนือ Gap ขึ้น หรือขายเมื่อราคาเปิดต่ำกว่า Gap ลง
- **Fibonacci Retracement:** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุจุดเข้าซื้อและขายที่เป็นไปได้ โดยคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวกลับไปยังระดับ Fibonacci ก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อ
- **Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา และระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold)
- **Moving Average Crossover:** ใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย โดยดูจากการตัดกันของเส้น MACD และเส้น Signal
- **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแรงของแนวโน้ม และระบุสภาวะซื้อมากเกินไป และขายมากเกินไป
- **Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน และสัญญาณการซื้อขาย
- **Elliott Wave Theory:** ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อระบุรูปแบบคลื่นราคา และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
- **Harmonic Patterns:** ใช้รูปแบบ Harmonic เพื่อระบุจุดเข้าซื้อและขายที่เป็นไปได้ โดยอิงตามสัดส่วน Fibonacci
- **Volume Spread Analysis (VSA):** ใช้ VSA เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อทำความเข้าใจแรงกดดันของตลาด
การบริหารความเสี่ยงในการซื้อขายรายวัน
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายรายวัน เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง และการสูญเสียสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- **Stop-Loss Orders:** การตั้ง Stop-Loss Orders เป็นวิธีที่สำคัญในการจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุน Stop-Loss Order จะปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- **Position Sizing:** การกำหนดขนาดตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมความเสี่ยง ไม่ควรเสี่ยงเงินทุนมากเกินไปในธุรกรรมเดียว โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการซื้อขาย
- **Risk-Reward Ratio:** การประเมิน Risk-Reward Ratio ก่อนที่จะเข้าซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญ Risk-Reward Ratio คือ อัตราส่วนระหว่างผลกำไรที่คาดหวังกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ควรเลือกธุรกรรมที่มี Risk-Reward Ratio ที่เป็นที่น่าพอใจ เช่น 2:1 หรือ 3:1
- **Diversification:** การกระจายความเสี่ยงโดยการซื้อขายในสินทรัพย์ที่หลากหลายสามารถช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอของคุณได้
- **Emotional Control:** การควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายรายวัน การตัดสินใจซื้อขายที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลเนื่องจากอารมณ์ เช่น ความกลัวหรือความโลภ สามารถนำไปสู่การขาดทุนได้
ข้อควรพิจารณาอื่นๆ
- **เวลา:** Day Trading ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทอย่างมาก คุณจะต้องสามารถติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดและดำเนินการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
- **เงินทุน:** Day Trading ต้องการเงินทุนที่เพียงพอเพื่อครอบคลุมค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น และเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- **วินัย:** Day Trading ต้องการวินัยอย่างมาก คุณจะต้องสามารถยึดมั่นในแผนการซื้อขายของคุณและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่น
- **การศึกษา:** Day Trading ต้องการความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดและกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ คุณควรศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาทักษะของคุณ
- **การฝึกฝน:** การฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะ Day Trading คุณสามารถใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนกลยุทธ์ของคุณโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนจริง
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การใช้เครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟแท่งเทียน, แนวรับแนวต้าน, และ รูปแบบกราฟ เป็นสิ่งสำคัญในการระบุโอกาสในการซื้อขาย
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:** การทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์ เช่น รายงานผลประกอบการ, ตัวเลขเศรษฐกิจ, และ เหตุการณ์ทางการเมือง สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูล
สรุป
การซื้อขายรายวันเป็นรูปแบบการซื้อขายที่ท้าทาย แต่ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงได้หากทำอย่างถูกต้อง การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน กลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วไป การบริหารความเสี่ยง และข้อควรพิจารณาอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น Day Trading การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายรายวัน
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนระยะสั้นที่อาจมีความเหมาะสมกับผู้เริ่มต้น แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย | ระดับความเสี่ยง | เหมาะสำหรับ |
|---|---|---|---|
| Scalping | ทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อย | สูง | เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ |
| Momentum Trading | ขี่คลื่นแนวโน้ม | ปานกลาง | เทรดเดอร์ที่เข้าใจแนวโน้ม |
| Breakout Trading | ซื้อเมื่อราคาทะลุแนวรับ/ต้าน | ปานกลาง | เทรดเดอร์ที่เข้าใจการวิเคราะห์ทางเทคนิค |
| Reversal Trading | ซื้อ/ขายเมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ/ต้าน | สูง | เทรดเดอร์ที่เข้าใจการกลับตัวของราคา |
| News Trading | ซื้อขายตามข่าวสาร | สูง | เทรดเดอร์ที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด |
การจัดการเงินทุน และ จิตวิทยาการเทรด ก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องเรียนรู้ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์ต่างๆ
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
- การซื้อขายรายวัน
- การลงทุน
- ตลาดการเงิน
- กลยุทธ์การเทรด
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การบริหารความเสี่ยง
- การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
- ตลาดหุ้น
- ตลาดฟอเร็กซ์
- ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
- ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- กราฟแท่งเทียน
- แนวรับแนวต้าน
- รูปแบบกราฟ
- รายงานผลประกอบการ
- ตัวเลขเศรษฐกิจ
- เหตุการณ์ทางการเมือง
- การจัดการเงินทุน
- จิตวิทยาการเทรด