การใช้ Copy Trading
- การ ใช้ Copy Trading
การซื้อขาย เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง และการทำความเข้าใจกลไกของตลาด ไบนารี่ออปชั่น นั้นต้องใช้เวลาและการเรียนรู้อย่างมาก สำหรับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ไม่มีเวลามากพอในการวิเคราะห์ตลาดด้วยตนเอง “Copy Trading” หรือการคัดลอกการซื้อขาย เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการเริ่มต้นและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Copy Trading ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น ตั้งแต่ข้อดีข้อเสีย กลไกการทำงาน วิธีการเลือกเทรดเดอร์ที่น่าเชื่อถือ ไปจนถึงการบริหารความเสี่ยง
- Copy Trading คืออะไร?
Copy Trading คือรูปแบบการซื้อขายที่ช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่สามารถคัดลอกการซื้อขายของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ (เรียกว่า “ผู้ให้บริการสัญญาณ” หรือ “Master Trader”) ได้แบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ เมื่อ Master Trader เปิดออเดอร์ ระบบจะทำการคัดลอกออเดอร์นั้นไปยังบัญชีของ Copy Trader โดยอัตโนมัติ หรือ Copy Trader อาจเลือกที่จะคัดลอกเฉพาะบางออเดอร์ที่ต้องการ
ในบริบทของ ไบนารี่ออปชั่น Copy Trading หมายถึง การคัดลอกการตัดสินใจในการซื้อ “Call” หรือ “Put” ของ Master Trader โดยระบบจะทำการเปิดออเดอร์ในบัญชีของคุณด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน หรือตามสัดส่วนที่คุณกำหนด
- ทำไมต้องใช้ Copy Trading?
มีหลายเหตุผลที่ทำให้ Copy Trading เป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้เริ่มต้น:
- **เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ:** Copy Trading เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเรียนรู้กลยุทธ์การซื้อขายจากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ คุณสามารถสังเกตและวิเคราะห์การตัดสินใจของพวกเขาเพื่อพัฒนาทักษะของตนเอง
- **ประหยัดเวลา:** ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการวิเคราะห์ตลาดด้วยตนเอง ระบบจะทำการคัดลอกการซื้อขายให้คุณโดยอัตโนมัติ
- **กระจายความเสี่ยง:** การคัดลอกการซื้อขายของหลายๆ Master Trader สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงได้
- **เริ่มต้นง่าย:** ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์ในการซื้อขายมากนัก คุณสามารถเริ่มต้น Copy Trading ได้ทันที
- **โอกาสในการทำกำไร:** หากคุณเลือก Master Trader ที่มีผลงานดี Copy Trading สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
- กลไกการทำงานของ Copy Trading
โดยทั่วไปแล้วแพลตฟอร์ม Copy Trading จะทำงานดังนี้:
1. **เลือกแพลตฟอร์ม:** เลือกแพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่นที่รองรับ Copy Trading (ตัวอย่างเช่น Deriv, IQ Option, Binary.com) 2. **ค้นหา Master Trader:** แพลตฟอร์มจะแสดงรายชื่อ Master Trader พร้อมกับข้อมูลต่างๆ เช่น อัตราการชนะ (Win Rate), ผลตอบแทนโดยรวม (Total Return), จำนวนผู้ติดตาม (Number of Copiers) และความเสี่ยง (Risk Score) 3. **เลือก Master Trader:** เลือก Master Trader ที่ตรงกับความต้องการและระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ 4. **กำหนดจำนวนเงิน:** กำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการให้ระบบคัดลอกการซื้อขายแต่ละครั้ง (เช่น 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออเดอร์) หรือกำหนดเป็นสัดส่วนของเงินทุนทั้งหมดในบัญชี 5. **เริ่ม Copy Trading:** เมื่อคุณเลือก Master Trader และกำหนดจำนวนเงินแล้ว ระบบจะเริ่มคัดลอกการซื้อขายของ Master Trader โดยอัตโนมัติ
- การเลือก Master Trader ที่น่าเชื่อถือ
การเลือก Master Trader ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Copy Trading ให้ประสบความสำเร็จ ต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณา:
- **ผลงานในอดีต:** ตรวจสอบผลงานของ Master Trader ในอดีตอย่างละเอียด ดูอัตราการชนะ ผลตอบแทนโดยรวม และระยะเวลาที่พวกเขาทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
- **ความเสี่ยง:** ประเมินระดับความเสี่ยงของ Master Trader Master Trader ที่มีความเสี่ยงสูงอาจมีโอกาสทำกำไรได้มาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูงเช่นกัน
- **จำนวนผู้ติดตาม:** จำนวนผู้ติดตามที่มากอาจบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของ Master Trader แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะทำกำไรได้เสมอไป
- **สไตล์การซื้อขาย:** ทำความเข้าใจสไตล์การซื้อขายของ Master Trader พวกเขาใช้กลยุทธ์อะไร? พวกเขาซื้อขายในสินทรัพย์ใดบ้าง? สไตล์การซื้อขายของพวกเขาตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่
- **การสื่อสาร:** Master Trader ที่ดีจะสื่อสารกับผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ อธิบายเหตุผลในการตัดสินใจซื้อขาย และตอบคำถามต่างๆ
- ข้อควรระวัง:** ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- การบริหารความเสี่ยงในการ Copy Trading
แม้ว่า Copy Trading จะช่วยลดความยุ่งยากในการซื้อขายได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการบริหารความเสี่ยง:
- **อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้:** Copy Trading เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณ
- **กระจายความเสี่ยง:** คัดลอกการซื้อขายของหลายๆ Master Trader เพื่อกระจายความเสี่ยง
- **กำหนด Stop Loss:** กำหนด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากการซื้อขายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- **ตรวจสอบ Copy Trading อย่างสม่ำเสมอ:** ตรวจสอบการซื้อขายที่ถูกคัดลอกอย่างสม่ำเสมอ หากคุณไม่พอใจกับผลการดำเนินงานของ Master Trader คุณสามารถยกเลิกการคัดลอกได้ตลอดเวลา
- **เรียนรู้จาก Master Trader:** ใช้ Copy Trading เป็นโอกาสในการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์การตัดสินใจของพวกเขา และพัฒนาทักษะของตนเอง
- กลยุทธ์การซื้อขายที่ Master Trader อาจใช้
Master Trader ที่ประสบความสำเร็จมักจะใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลาย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง:
- **Trend Following:** การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา Trend Following
- **Breakout Trading:** การซื้อขายเมื่อราคา突破 (Breakout) ระดับแนวต้านหรือแนวรับ Breakout Trading
- **Range Trading:** การซื้อขายเมื่อราคาเคลื่อนที่อยู่ในช่วงแคบๆ Range Trading
- **Scalping:** การทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย Scalping
- **Martingale:** การเพิ่มขนาดการซื้อขายหลังจากขาดทุน (ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง) Martingale Strategy
- **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อคาดการณ์แนวรับและแนวต้าน Fibonacci Retracement
- **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา Bollinger Bands
- **Moving Averages:** การใช้ Moving Averages เพื่อระบุแนวโน้มของราคา Moving Averages
- **Relative Strength Index (RSI):** การใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม RSI Indicator
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** การใช้ MACD เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม MACD Indicator
- **เข็มขัด (Belt Hold):** รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Candlestick Patterns
- **ดาวตก (Shooting Star):** รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Candlestick Patterns
- **กลืนกิน (Engulfing):** รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Candlestick Patterns
- **Hammer:** รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Candlestick Patterns
- **Inverted Hammer:** รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Candlestick Patterns
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน
Master Trader ที่เก่งกาจมักจะใช้ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** คือการศึกษาประวัติราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** คือการศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และอุตสาหกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อราคา การวิเคราะห์พื้นฐาน
- ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume)
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ปริมาณการซื้อขาย ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมักจะบ่งบอกถึงความสนใจที่มากขึ้นในสินทรัพย์นั้นๆ
- ข้อดีและข้อเสียของ Copy Trading
| **ข้อดี** | **ข้อเสีย** |
| เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ | ความเสี่ยงจากการตัดสินใจของ Master Trader |
| ประหยัดเวลา | ค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น |
| กระจายความเสี่ยง | ไม่สามารถควบคุมการซื้อขายได้โดยตรง |
| เริ่มต้นง่าย | อาจมี Master Trader ที่ไม่น่าเชื่อถือ |
| โอกาสในการทำกำไร | ผลการดำเนินงานในอดีตไม่รับประกันผลในอนาคต |
- สรุป
Copy Trading เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือก Master Trader ที่น่าเชื่อถือ บริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะของตนเอง การทำความเข้าใจหลักการของ การซื้อขาย การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์พื้นฐาน จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการ Copy Trading ได้มากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
ความเสี่ยงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
