การใช้ Chaikin Oscillator

1. 1. การ ใช้ Chaikin Oscillator

Chaikin Oscillator เป็นเครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่ใช้ในการวัดแรงผลักดันของราคา (Price Momentum) โดยพิจารณาจากความสัมพันธ์ระหว่างราคาปิด (Closing Price) และปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) ถูกพัฒนาขึ้นโดย Marc Chaikin ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 และเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่ต้องการระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal) และสัญญาณการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้นในตลาด ตลาดทุน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. หลักการทำงานของ Chaikin Oscillator

Chaikin Oscillator คำนวณจาก Chaikin Money Flow (CMF) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่วัดการไหลของเงินทุนเข้าและออกจากสินทรัพย์ โดยพิจารณาจากตำแหน่งของราคาปิดภายในช่วงราคา (Price Range) และปริมาณการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากราคาปิดใกล้เคียงกับส่วนบนของช่วงราคาและมีปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และ CMF จะมีค่าเป็นบวก ในทางกลับกัน หากราคาปิดใกล้เคียงกับส่วนล่างของช่วงราคาและมีปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่ง และ CMF จะมีค่าเป็นลบ

Chaikin Oscillator คือผลต่างระหว่าง CMF ระยะเวลา 3 วัน และ CMF ระยะเวลา 10 วัน สูตรการคำนวณมีดังนี้:

Chaikin Oscillator = CMF (3 วัน) – CMF (10 วัน)

ค่าที่ได้จากการคำนวณจะถูกนำไปใช้ในการระบุสัญญาณการซื้อขายต่างๆ

1. 1. 1. การคำนวณ Chaikin Money Flow (CMF)

ก่อนที่จะเข้าใจ Chaikin Oscillator เราต้องเข้าใจวิธีการคำนวณ CMF ก่อน สูตรการคำนวณ CMF คือ:

CMF = [(Close - Median) * Volume] / Σ [(Close - Median) * Volume]

โดยที่:

• Close คือ ราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบัน
• Median คือ ค่ากลางของช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุด (High + Low) / 2
• Volume คือ ปริมาณการซื้อขายในปัจจุบัน
• Σ คือ ผลรวมของ [(Close - Median) * Volume] ในช่วงเวลาที่กำหนด (โดยปกติคือ 20 วัน)

CMF จะแสดงค่าเป็นช่วงตั้งแต่ -1 ถึง 1 โดยค่าที่สูงกว่า 0 บ่งบอกถึงแรงซื้อ และค่าที่ต่ำกว่า 0 บ่งบอกถึงแรงขาย

1. 1. 1. การตีความสัญญาณจาก Chaikin Oscillator

Chaikin Oscillator สามารถให้สัญญาณการซื้อขายได้หลายรูปแบบ ดังนี้:

• **การตัดเส้นศูนย์ (Zero Line Crossover):** เมื่อ Chaikin Oscillator ตัดขึ้นเหนือเส้นศูนย์ แสดงว่าเป็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal) และเมื่อตัดลงต่ำกว่าเส้นศูนย์ แสดงว่าเป็นสัญญาณขาย (Sell Signal) นี่เป็นสัญญาณที่สำคัญที่สุดในการใช้ Chaikin Oscillator
• **การเกิด Divergence:** การเกิด Divergence ระหว่าง Chaikin Oscillator กับราคาเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม ตัวอย่างเช่น หากราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ แต่ Chaikin Oscillator สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Bearish Divergence) แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังอ่อนแรงและอาจเกิดการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลง
• **การเกิด Overbought และ Oversold:** หาก Chaikin Oscillator มีค่าสูงเกินไป (Overbought) มักจะบ่งบอกถึงการปรับฐานราคา (Price Correction) และหากมีค่าต่ำเกินไป (Oversold) มักจะบ่งบอกถึงการดีดตัวของราคา (Price Bounce) อย่างไรก็ตาม สัญญาณ Overbought และ Oversold ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือ
• **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การรวม Chaikin Oscillator กับรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ เช่น รูปแบบ Doji หรือ รูปแบบ Engulfing สามารถช่วยยืนยันสัญญาณการซื้อขายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้ Chaikin Oscillator ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

Chaikin Oscillator สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายวิธี ดังนี้:

• **Call Option:** หาก Chaikin Oscillator ตัดขึ้นเหนือเส้นศูนย์และเกิด Bearish Divergence (ราคาขึ้นแต่ Oscillator ลง) อาจเป็นสัญญาณซื้อ Call Option
• **Put Option:** หาก Chaikin Oscillator ตัดลงต่ำกว่าเส้นศูนย์และเกิด Bullish Divergence (ราคลงแต่ Oscillator ขึ้น) อาจเป็นสัญญาณซื้อ Put Option
• **ระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time):** สำหรับไบนารี่ออปชั่น การเลือกระยะเวลาหมดอายุที่เหมาะสมมีความสำคัญ ขึ้นอยู่กับกรอบเวลา (Timeframe) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ หากใช้กรอบเวลา 15 นาที อาจเลือกระยะเวลาหมดอายุ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
• **การยืนยันด้วย Indicator อื่นๆ:** ควรใช้ Chaikin Oscillator ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average หรือ RSI (Relative Strength Index) เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย

1. 1. 1. ข้อดีและข้อเสียของ Chaikin Oscillator

| ข้อดี | ข้อเสีย | | ---------------------------------- | ---------------------------------- | | ช่วยระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม | สัญญาณอาจไม่แม่นยำในตลาด Sideways | | วัดแรงผลักดันของราคาได้อย่างแม่นยำ | อาจเกิดสัญญาณหลอก (False Signal) | | ใช้งานง่ายและเข้าใจได้ง่าย | ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพื่อยืนยัน | | สามารถใช้ได้กับหลากหลายตลาด | ไม่เหมาะกับการเทรดระยะสั้นมากเกินไป |

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้ Chaikin Oscillator ในการวิเคราะห์

สมมติว่าเรากำลังวิเคราะห์หุ้น AAPL ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง พบว่าราคา AAPL กำลังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ Chaikin Oscillator เริ่มแสดงสัญญาณ Bearish Divergence นั่นหมายความว่าแม้ว่าราคาจะยังคงปรับตัวขึ้น แต่แรงซื้อกำลังอ่อนแรงลง และอาจเกิดการปรับฐานราคาในอนาคต ในกรณีนี้ เราอาจพิจารณาซื้อ Put Option โดยเลือกระยะเวลาหมดอายุที่เหมาะสม เช่น 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง

• **Divergence Trading:** ใช้การเกิด Divergence ระหว่าง Chaikin Oscillator และราคาเพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม Divergence Trading
• **Momentum Trading:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อวัดแรงผลักดันของราคาและเข้าซื้อในทิศทางของแรงผลักดันนั้น Momentum Trading
• **Mean Reversion:** ใช้สัญญาณ Overbought และ Oversold เพื่อระบุโอกาสในการซื้อเมื่อราคาต่ำเกินไปและขายเมื่อราคาสูงเกินไป Mean Reversion
• **Breakout Trading:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันการ Breakout ของราคาเหนือแนวต้านหรือแนวรับ Breakout Trading
• **Scalping:** ใช้ Chaikin Oscillator ร่วมกับกรอบเวลาที่สั้นมาก (เช่น 1 นาที หรือ 5 นาที) เพื่อจับกำไรจากความผันผวนของราคา Scalping
• **Swing Trading:** ใช้ Chaikin Oscillator ในการระบุโอกาสในการเทรดระยะกลาง (เช่น หลายวัน หรือหลายสัปดาห์) Swing Trading
• **Trend Following:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันแนวโน้มและเข้าซื้อตามแนวโน้มนั้น Trend Following
• **Price Action Trading:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อเสริมการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนและ Price Action อื่นๆ Price Action Trading
• **Fibonacci Retracement:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ Fibonacci Retracement
• **Support and Resistance:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันแนวรับและแนวต้านที่แข็งแกร่ง Support and Resistance
• **Elliott Wave Theory:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันรูปแบบ Elliott Wave ที่เกิดขึ้น Elliott Wave Theory
• **Ichimoku Cloud:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันสัญญาณจาก Ichimoku Cloud Ichimoku Cloud
• **Bollinger Bands:** ใช้ Chaikin Oscillator เพื่อยืนยันสัญญาณ Overbought และ Oversold ใน Bollinger Bands Bollinger Bands
• **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** เปรียบเทียบสัญญาณจาก Chaikin Oscillator กับ MACD เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือ MACD
• **Volume Spread Analysis (VSA):** ใช้ Chaikin Oscillator ร่วมกับ VSA เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย Volume Spread Analysis

1. 1. 1. ข้อควรระวัง

• Chaikin Oscillator ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และอาจให้สัญญาณหลอกได้เสมอ
• ควรใช้ Chaikin Oscillator ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย
• การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เป็นสิ่งสำคัญในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ควรกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมและตั้ง Stop Loss เสมอ
• ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ของสินทรัพย์ที่เทรด เพื่อให้การวิเคราะห์มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

1. 1. 1. สรุป

Chaikin Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการวัดแรงผลักดันของราคาและระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม การทำความเข้าใจหลักการทำงาน การตีความสัญญาณ และการประยุกต์ใช้ Chaikin Oscillator ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ Chaikin Oscillator อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น