การใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement
- การใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นในการทำความเข้าใจและใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในการเทรด ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เครื่องมือนี้เป็นส่วนหนึ่งสำคัญของการ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และสามารถช่วยในการระบุจุดเข้าและออกจากตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น เราจะครอบคลุมตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของ Fibonacci ไปจนถึงวิธีการใช้งานจริงและกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติและความเป็นมาของ Fibonacci
ลำดับ Fibonacci ถูกค้นพบโดย Leonardo Pisano ซึ่งเป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 13 ลำดับนี้เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 และตัวเลขถัดไปคือผลรวมของสองตัวเลขก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144…) สิ่งที่น่าสนใจคือลำดับนี้ปรากฏในธรรมชาติมากมาย เช่น การจัดเรียงของกลีบดอกไม้ รูปทรงของเปลือกหอย และแม้แต่สัดส่วนของร่างกายมนุษย์
นักวิเคราะห์ทางเทคนิค Ralph Nelson Elliott ได้นำลำดับ Fibonacci มาประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ตลาดหุ้นในทศวรรษ 1930 เขาสังเกตว่าราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวในรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงกับอัตราส่วน Fibonacci ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราส่วน 61.8% และ 38.2% ซึ่งได้มาจากตัวเลขในลำดับ Fibonacci (เช่น 61.8 = 55/89 และ 38.2 = 34/89)
- Fibonacci Retracement คืออะไร?
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยอิงจากอัตราส่วน Fibonacci หลักๆ ได้แก่:
- **23.6%**
- **38.2%**
- **50%** (แม้จะไม่ใช่ตัวเลข Fibonacci โดยตรง แต่ก็ใช้กันอย่างแพร่หลาย)
- **61.8%** (อัตราส่วนทองคำ หรือ Golden Ratio)
- **78.6%** (บางครั้งใช้ร่วมด้วย)
เครื่องมือนี้จะวาดเส้นแนวนอนบนแผนภูมิ ณ ระดับต่างๆ เหล่านี้ เพื่อแสดงจุดที่ราคาอาจมีการปรับตัวกลับ (Retrace) ก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิม
- วิธีการวาด Fibonacci Retracement
ในการวาด Fibonacci Retracement คุณต้องระบุจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ของแนวโน้มที่สำคัญ จากนั้นเครื่องมือจะคำนวณและวาดเส้นระดับ Fibonacci ระหว่างสองจุดนั้น
1. **ระบุแนวโน้ม:** ตรวจสอบแผนภูมิเพื่อระบุแนวโน้มที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขึ้น (Uptrend) หรือแนวโน้มลง (Downtrend) 2. **หาจุดสูงสุดและต่ำสุด:** เลือกจุดสูงสุดและต่ำสุดที่สำคัญของแนวโน้มนั้น 3. **ใช้เครื่องมือ:** ในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณ ให้เลือกเครื่องมือ Fibonacci Retracement แล้วคลิกที่จุดต่ำสุดก่อน จากนั้นคลิกที่จุดสูงสุด (สำหรับแนวโน้มขึ้น) หรือคลิกที่จุดสูงสุดก่อนแล้วคลิกที่จุดต่ำสุด (สำหรับแนวโน้มลง)
| แนวโน้ม | จุดเริ่มต้น | จุดสิ้นสุด | |---|---|---| | แนวโน้มขึ้น | จุดต่ำสุด | จุดสูงสุด | | แนวโน้มลง | จุดสูงสุด | จุดต่ำสุด |
- การตีความระดับ Fibonacci Retracement
เมื่อวาด Fibonacci Retracement แล้ว คุณสามารถใช้ระดับต่างๆ เพื่อระบุโอกาสในการเทรดได้
- **แนวรับ (Support):** ในแนวโน้มขึ้น ระดับ Fibonacci จะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่คาดว่าจะมีการเด้งกลับของราคา ในทางกลับกัน ในแนวโน้มลง ระดับ Fibonacci จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่คาดว่าจะมีการกดดันราคา
- **แนวต้าน (Resistance):** ในแนวโน้มลง ระดับ Fibonacci จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่คาดว่าจะมีการกดดันราคา ในทางกลับกัน ในแนวโน้มขึ้น ระดับ Fibonacci จะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่คาดว่าจะมีการเด้งกลับของราคา
- **การทะลุ (Breakout):** หากราคาทะลุระดับ Fibonacci ที่สำคัญ อาจบ่งบอกถึงการดำเนินของแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง
- กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Fibonacci Retracement
มีกลยุทธ์มากมายที่สามารถใช้ร่วมกับ Fibonacci Retracement ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น นี่คือตัวอย่างบางส่วน
1. **การเทรดตามการเด้งกลับ (Bounce Strategy):** รอให้ราคาปรับตัวกลับไปยังระดับ Fibonacci ที่สำคัญ (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) แล้วเปิดออปชั่น Call (ซื้อ) ในแนวโน้มขึ้น หรือออปชั่น Put (ขาย) ในแนวโน้มลง 2. **การเทรดตามการทะลุ (Breakout Strategy):** รอให้ราคาทะลุระดับ Fibonacci ที่สำคัญ (เช่น 61.8% หรือ 78.6%) แล้วเปิดออปชั่นตามทิศทางของการทะลุ 3. **การยืนยันด้วย Indicator อื่นๆ:** ใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับ Moving Averages หรือ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณการเทรด ตัวอย่างเช่น หากราคาเด้งกลับจากระดับ 61.8% และ RSI บ่งบอกว่าตลาดอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) นั่นจะเป็นสัญญาณการซื้อที่แข็งแกร่ง 4. **Fibonacci Confluence:** มองหาจุดที่ระดับ Fibonacci หลายระดับมาบรรจบกัน (เช่น 38.2% และ 50%) จุดเหล่านี้มักจะเป็นจุดที่แข็งแกร่งในการกลับตัวของราคา 5. **การใช้ Fibonacci Extension:** หลังจากที่ราคาเด้งกลับจากระดับ Fibonacci Retracement แล้ว คุณสามารถใช้ Fibonacci Extension เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคาต่อไปได้
| คำอธิบาย | ระดับ Fibonacci ที่ใช้ | เงื่อนไขการเข้าเทรด | |
| เทรดตามการเด้งกลับของราคาจากระดับ Fibonacci | 38.2%, 50%, 61.8% | ราคาเด้งกลับจากระดับ Fibonacci และมีสัญญาณยืนยันจาก Indicator อื่นๆ | |
| เทรดตามการทะลุของราคาผ่านระดับ Fibonacci | 61.8%, 78.6% | ราคาทะลุระดับ Fibonacci และมีปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) เพิ่มขึ้น | |
| เทรดเมื่อระดับ Fibonacci หลายระดับมาบรรจบกัน | 38.2%, 50%, 61.8% (หลายระดับ) | ระดับ Fibonacci หลายระดับมาบรรจบกัน และมีรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่บ่งบอกถึงการกลับตัว | |
- ข้อควรระวังและข้อจำกัดของ Fibonacci Retracement
แม้ว่า Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดที่ควรทราบ:
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100%:** ราคาอาจไม่เป็นไปตามระดับ Fibonacci เสมอไป
- **ความสำคัญของบริบท:** การใช้ Fibonacci Retracement ควรพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เช่น แนวโน้มของตลาด รูปแบบแท่งเทียน และข่าวสารเศรษฐกิจ
- **การเลือกจุดสูงสุดและต่ำสุด:** การเลือกจุดสูงสุดและต่ำสุดที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ หากเลือกจุดที่ไม่ถูกต้อง ระดับ Fibonacci ที่ได้อาจไม่แม่นยำ
- **การจัดการความเสี่ยง:** ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเสมอ เช่น การตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- การผสมผสาน Fibonacci Retracement กับเครื่องมืออื่นๆ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น:
- **Trend Lines:** ใช้ Trend Lines เพื่อยืนยันแนวโน้มและหาจุดเข้าเทรดที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- **Moving Averages:** ใช้ Moving Averages เพื่อกรองสัญญาณเทรดและยืนยันแนวโน้ม
- **RSI (Relative Strength Index):** ใช้ RSI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence):** ใช้ MACD เพื่อระบุสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
- **Volume Analysis:** การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) สามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา
- การประยุกต์ใช้ Fibonacci Retracement ในกรอบเวลาต่างๆ
Fibonacci Retracement สามารถใช้ได้ในทุกกรอบเวลา (Timeframe) ไม่ว่าจะเป็นกรอบเวลาสั้น (เช่น 5 นาที, 15 นาที) หรือกรอบเวลานาน (เช่น รายวัน, รายสัปดาห์) อย่างไรก็ตาม กรอบเวลาที่ยาวมักจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือมากกว่า
- **กรอบเวลาสั้น:** เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นและการเก็งกำไร
- **กรอบเวลาปานกลาง:** เหมาะสำหรับการเทรดระยะกลางและการลงทุน
- **กรอบเวลายาว:** เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวและการวิเคราะห์แนวโน้มหลัก
- สรุป
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและสามารถช่วยให้คุณระบุโอกาสในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้แม่นยำยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้เครื่องมือนี้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเสมอ การฝึกฝนและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสามารถใช้ Fibonacci Retracement ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการเทรด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง รูปแบบแท่งเทียน การจัดการความเสี่ยงในการเทรด กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์แนวโน้ม การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Moving Average Convergence Divergence (MACD) Relative Strength Index (RSI) Bollinger Bands Ichimoku Cloud Elliott Wave Theory Pivot Points Support and Resistance Candlestick Patterns Trading Psychology Money Management Risk Reward Ratio Binary Options Strategies Forex Trading Swing Trading
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
