การใช้ระดับ Fibonacci

1. การ ใช้ ระดับ Fibonacci

ไบนารี่ออปชั่น เป็นวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงิน เนื่องจากความเรียบง่ายและศักยภาพในการทำกำไรที่สูง อย่างไรก็ตาม การลงทุนในไบนารี่ออปชั่นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน และการใช้เครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้ หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ **ระดับ Fibonacci** บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ระดับ Fibonacci ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น

ประวัติและความเป็นมาของ Fibonacci

ลำดับ Fibonacci ถูกค้นพบโดย เลโอนาร์โด ฟิโบนักชี นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ในศตวรรษที่ 13 ลำดับนี้เริ่มต้นด้วย 0 และ 1 จากนั้นแต่ละจำนวนถัดไปคือผลรวมของสองจำนวนก่อนหน้า (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144…) แม้ว่าจะเป็นแนวคิดทางคณิตศาสตร์ แต่ลำดับ Fibonacci กลับปรากฏให้เห็นในธรรมชาติมากมาย เช่น การจัดเรียงตัวของกลีบดอกไม้ รูปแบบการเจริญเติบโตของต้นไม้ และสัดส่วนของร่างกายมนุษย์

ในโลกของการเงิน นักวิเคราะห์ทางเทคนิคสังเกตว่าระดับ Fibonacci สามารถนำมาใช้ในการทำนายแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคาได้ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ใช้ระดับ Fibonacci อย่างแพร่หลาย การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ

จากลำดับ Fibonacci เราสามารถคำนวณอัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ ซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้แก่:

**23.6%:** ได้จากการหารจำนวนหนึ่งในลำดับ Fibonacci ด้วยจำนวนถัดไป
**38.2%:** ได้จากการหารจำนวนหนึ่งในลำดับ Fibonacci ด้วยจำนวนถัดไป
**50%:** ไม่ใช่ระดับ Fibonacci จริงๆ แต่ถูกรวมเข้ามาเนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางของช่วงราคา
**61.8%:** หรือที่เรียกว่า “Golden Ratio” ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สำคัญที่สุดในลำดับ Fibonacci
**78.6%:** ได้จากการหารจำนวนหนึ่งในลำดับ Fibonacci ด้วยจำนวนถัดไป
**100%:** จุดเริ่มต้นของการวัด

ระดับเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการวาดเส้นระดับบนกราฟราคาเพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น แนวรับแนวต้าน

การวาดระดับ Fibonacci

การวาดระดับ Fibonacci ทำได้ง่าย โดยมีขั้นตอนดังนี้:

1. **ระบุจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ที่สำคัญ:** เลือกจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ชัดเจนบนกราฟราคา ซึ่งแสดงถึงช่วงราคาที่สำคัญ 2. **ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement:** เครื่องมือนี้มีอยู่ในแพลตฟอร์มการเทรดส่วนใหญ่ 3. **ลากเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (สำหรับแนวโน้มขาลง):** เครื่องมือจะวาดเส้นระดับ Fibonacci โดยอัตโนมัติ

การตีความระดับ Fibonacci

เมื่อได้วาดระดับ Fibonacci แล้ว เราสามารถนำมาตีความเพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาได้ดังนี้:

**แนวรับ:** ระดับ Fibonacci สามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับ เมื่อราคาลดลงมาถึงระดับเหล่านี้ อาจมีการเด้งกลับขึ้นไป
**แนวต้าน:** ระดับ Fibonacci สามารถทำหน้าที่เป็นแนวต้าน เมื่อราคาสูงขึ้นมาถึงระดับเหล่านี้ อาจมีการปรับตัวลงมา
**จุดกลับตัว:** ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น 61.8% มักถูกมองว่าเป็นจุดที่แนวโน้มราคามีโอกาสกลับตัว
**การยืนยัน:** การใช้ระดับ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แทรนด์ไลน์ Moving Average และ RSI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์

การใช้ระดับ Fibonacci ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

ระดับ Fibonacci สามารถนำมาใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:

**การซื้อ (Call Option):** หากราคาย่อตัวลงมาถึงระดับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น 38.2% หรือ 61.8% ในแนวโน้มขาขึ้น อาจพิจารณาซื้อ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาจะเด้งกลับขึ้นไป
**การขาย (Put Option):** หากราคาสูงขึ้นมาถึงระดับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น 38.2% หรือ 61.8% ในแนวโน้มขาลง อาจพิจารณาขาย Put Option โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลงมา
**การกำหนดเป้าหมายทำกำไร (Take Profit):** สามารถใช้ระดับ Fibonacci เพื่อกำหนดเป้าหมายทำกำไรได้ ตัวอย่างเช่น หากซื้อ Call Option ที่ระดับ 38.2% อาจตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 0% หรือ 23.6%
**การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss):** สามารถใช้ระดับ Fibonacci เพื่อตั้งจุดตัดขาดทุนได้ ตัวอย่างเช่น หากซื้อ Call Option ที่ระดับ 38.2% อาจตั้งจุดตัดขาดทุนที่ระดับ 61.8% เพื่อจำกัดความเสี่ยง

กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Fibonacci

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ระดับ Fibonacci:

**Fibonacci Pullback:** กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อราคาย่อตัวกลับ (Pullback) ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง รอให้ราคาย่อตัวลงมาถึงระดับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น 38.2% หรือ 61.8% แล้วเปิดสถานะตามแนวโน้มเดิม (Call Option สำหรับแนวโน้มขาขึ้น และ Put Option สำหรับแนวโน้มขาลง) กลยุทธ์ Fibonacci Pullback
**Fibonacci Confluence:** กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อระดับ Fibonacci หลายระดับมาบรรจบกันในบริเวณเดียวกัน บริเวณนี้มักจะเป็นจุดกลับตัวที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์ Fibonacci Confluence
**Fibonacci Fan:** ใช้เส้น Fibonacci Fan เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยลากเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (หรือกลับกัน) และสังเกตการตัดกันของเส้นกับราคา กลยุทธ์ Fibonacci Fan
**Fibonacci Extension:** ใช้เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคาในอนาคต หลังจากที่ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญ กลยุทธ์ Fibonacci Extension

ข้อควรระวังในการใช้ระดับ Fibonacci

**ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** ระดับ Fibonacci ไม่ได้แม่นยำเสมอไป และอาจเกิดสัญญาณหลอก (False Signal) ได้
**การยืนยัน:** ควรใช้ระดับ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ
**การจัดการความเสี่ยง:** ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อจำกัดความเสี่ยง
**บริบทของตลาด:** พิจารณาบริบทของตลาดโดยรวม เช่น ข่าวสารเศรษฐกิจ และเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคา
**การฝึกฝน:** การฝึกฝนและทำความเข้าใจการใช้ระดับ Fibonacci อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความเชี่ยวชาญและลดความผิดพลาดในการเทรด

การผสมผสาน Fibonacci กับเครื่องมืออื่นๆ

เพื่อให้การวิเคราะห์แม่นยำยิ่งขึ้น ควรผสมผสานระดับ Fibonacci กับเครื่องมืออื่นๆ เช่น:

**แนวโน้ม (Trends):** ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันแนวโน้มที่มีอยู่ หรือเพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม การระบุแนวโน้ม
**รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** มองหารูปแบบแท่งเทียนที่เกิดขึ้นบริเวณระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณ รูปแบบแท่งเทียน
**ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นบริเวณระดับ Fibonacci หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แสดงว่าระดับนั้นมีความสำคัญ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
**MACD:** ใช้ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จากระดับ Fibonacci MACD
**Bollinger Bands:** ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่ผันผวน และใช้ระดับ Fibonacci เพื่อหาจุดเข้าเทรดภายในช่วงราคา Bollinger Bands
**Stochastic Oscillator:** ใช้ Stochastic Oscillator เพื่อระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) และใช้ระดับ Fibonacci เพื่อหาจุดเข้าเทรด Stochastic Oscillator
**Ichimoku Cloud:** ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน และใช้ระดับ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณ Ichimoku Cloud
**Pivot Points:** ใช้ Pivot Points เพื่อหาแนวรับแนวต้านรายวัน และใช้ระดับ Fibonacci เพื่อหาจุดเข้าเทรดภายในช่วงราคา Pivot Points
**Elliott Wave:** ใช้ Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคา และใช้ระดับ Fibonacci เพื่อคาดการณ์เป้าหมายราคา Elliott Wave

สรุป

ระดับ Fibonacci เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น ช่วยในการระบุแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคา การทำความเข้าใจและการใช้ระดับ Fibonacci อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการลงทุน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าไม่มีเครื่องมือใดที่สมบูรณ์แบบ และการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรด

ตัวอย่างอัตราส่วน Fibonacci และการใช้งาน
ระดับ Fibonacci ! คำอธิบาย ! การใช้งานในไบนารี่ออปชั่น
23.6%	ระดับ Fibonacci ที่เล็กที่สุด มักใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้านระยะสั้น	พิจารณาซื้อ Call Option เมื่อราคาย่อตัวลงมาที่ระดับนี้ในแนวโน้มขาขึ้น
38.2%	ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ มักใช้เป็นจุดกลับตัวของแนวโน้ม	พิจารณาขาย Put Option เมื่อราคาสูงขึ้นมาที่ระดับนี้ในแนวโน้มขาลง
50%	จุดกึ่งกลางของช่วงราคา ไม่ใช่ระดับ Fibonacci จริงๆ แต่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย	ใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้านรอง
61.8%	“Golden Ratio” ระดับ Fibonacci ที่สำคัญที่สุด มักใช้เป็นจุดกลับตัวที่แข็งแกร่ง	พิจารณาซื้อ Call Option หรือขาย Put Option เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับนี้
78.6%	ระดับ Fibonacci ที่ใช้บ่อยน้อยกว่าระดับอื่นๆ แต่ยังคงมีความสำคัญ	ใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้านรอง
100%	จุดเริ่มต้นของการวัด	ใช้เป็นจุดอ้างอิงในการวัดระดับ Fibonacci อื่นๆ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น