การเทรด Scalping

1. 1. การ เทรด Scalping ใน ไบนารี่ออปชั่น: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

การเทรดไบนารี่ออปชั่นเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความเรียบง่ายและความสามารถในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การทำกำไรอย่างสม่ำเสมอในตลาดไบนารี่ออปชั่นจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและวินัยในการเทรด หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมคือ **Scalping** ซึ่งบทความนี้จะอธิบายรายละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น

1. 1. 1. Scalping คืออะไร?

Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายที่จะทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยของราคาในระยะเวลาอันสั้นมาก โดยทั่วไป Scalper จะเปิดและปิดสถานะ (Position) ภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที โดยมุ่งหวังที่จะทำกำไรเล็กน้อยในแต่ละเทรด แต่รวมๆ กันแล้วจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ

Scalping เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีความอดทนสูง สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และมีสมาธิในการเฝ้าดูตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Scalping เกี่ยวข้องกับการทำเทรดจำนวนมากในแต่ละวัน จึงจำเป็นต้องมีค่าธรรมเนียมในการเทรดที่ต่ำ และแพลตฟอร์มการเทรดที่มีความเสถียรและรวดเร็ว

1. 1. 1. ทำไมต้อง Scalping ใน ไบนารี่ออปชั่น?

การ Scalping ในไบนารี่ออปชั่นมีข้อดีหลายประการ:

• **โอกาสในการทำกำไรสูง:** แม้กำไรต่อเทรดจะน้อย แต่การทำเทรดจำนวนมากสามารถนำไปสู่ผลตอบแทนรวมที่น่าพอใจ
• **ความเสี่ยงต่ำต่อเทรด:** เนื่องจากเป้าหมายกำไรต่อเทรดมีขนาดเล็ก ความเสี่ยงในแต่ละเทรดจึงต่ำ
• **ลดผลกระทบจากข่าวสาร:** Scalping สามารถช่วยลดผลกระทบจากข่าวสารสำคัญที่อาจทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรงได้ เนื่องจากเทรดเดอร์จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยในระยะสั้น
• **เรียนรู้ตลาดอย่างรวดเร็ว:** การ Scalping ช่วยให้เทรดเดอร์เรียนรู้การเคลื่อนไหวของราคาและพฤติกรรมของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม Scalping ก็มีข้อเสียเช่นกัน:

• **ความเครียดสูง:** การ Scalping ต้องใช้สมาธิและความรวดเร็วในการตัดสินใจอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดได้
• **ค่าธรรมเนียมในการเทรด:** ค่าธรรมเนียมในการเทรดอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรโดยรวม หากค่าธรรมเนียมสูงเกินไป
• **ความเสี่ยงจาก Slippage:** Slippage คือความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ทำการซื้อขายจริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในตลาดที่มีความผันผวนสูง
• **ต้องใช้เวลา:** แม้ว่าแต่ละเทรดจะใช้เวลาสั้น แต่การ Scalping ต้องใช้เวลาในการเฝ้าดูตลาดและวิเคราะห์กราฟราคา

1. 1. 1. เครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการ Scalping

การ Scalping ที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีเครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ตลาด ต่อไปนี้เป็นเครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่นิยมใช้:

• **กราฟราคา:** การวิเคราะห์กราฟราคาเป็นพื้นฐานของการ Scalping เทรดเดอร์ควรเรียนรู้การอ่านและตีความรูปแบบกราฟราคาต่างๆ เช่น รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) และ แนวโน้ม (Trends)
• **Moving Averages (MA):** เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุแนวโน้มของราคาและจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการระบุแนวโน้มและความแรงของแนวโน้ม
• **Relative Strength Index (RSI):** RSI เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) RSI Divergence สามารถใช้เพื่อคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม
• **Bollinger Bands:** Bollinger Bands เป็นตัวบ่งชี้ความผันผวนที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุช่วงราคาที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขาย Bollinger Bands Squeeze สามารถใช้เพื่อระบุช่วงเวลาที่ความผันผวนต่ำและอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง
• **Support and Resistance Levels:** ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นระดับราคาที่คาดว่าจะมีการหยุดพักหรือกลับตัวของแนวโน้ม การระบุระดับเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์วางแผนการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• **Pivot Points:** Pivot Points เป็นระดับราคาที่คำนวณจากราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของช่วงเวลาก่อนหน้า ซึ่งใช้เป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ

1. 1. 1. กลยุทธ์ Scalping ใน ไบนารี่ออปชั่น

มีกลยุทธ์ Scalping หลายรูปแบบที่เทรดเดอร์สามารถนำไปใช้ได้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง:

• **กลยุทธ์ Moving Average Crossover:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้นที่มีระยะเวลาที่แตกต่างกัน เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวขึ้นด้านบน จะเป็นสัญญาณซื้อ เมื่อตัดผ่านลงด้านล่าง จะเป็นสัญญาณขาย EMA Crossover เป็นรูปแบบหนึ่งของกลยุทธ์นี้
• **กลยุทธ์ RSI Overbought/Oversold:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อเมื่อ RSI ต่ำกว่าระดับ 30 (Oversold) และขายเมื่อ RSI สูงกว่าระดับ 70 (Overbought)
• **กลยุทธ์ Bollinger Bands Bounce:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อเมื่อราคาแตะขอบล่างของ Bollinger Bands และขายเมื่อราคาแตะขอบบนของ Bollinger Bands
• **กลยุทธ์ News Scalping:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเทรดในช่วงเวลาที่มีข่าวสารเศรษฐกิจสำคัญ Economic Calendar เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการติดตามข่าวสาร
• **กลยุทธ์ Pin Bar:** Pin Bar เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม เทรดเดอร์สามารถใช้ Pin Bar เพื่อเปิดสถานะการซื้อขายในทิศทางที่คาดหวัง
• **กลยุทธ์ Inside Bar:** Inside Bar เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่สัญญาณถึงการรวมตัวของราคา เทรดเดอร์สามารถใช้ Inside Bar เพื่อเปิดสถานะการซื้อขายเมื่อราคา breakout จาก Inside Bar
• **กลยุทธ์ Breakout:** Breakout Strategy คือการเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ
• **กลยุทธ์ Double Top/Bottom:** Double Top/Bottom เป็นรูปแบบกราฟราคาที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Head and Shoulders:** Head and Shoulders เป็นรูปแบบกราฟราคาที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Three White Soldiers/Black Crows:** Three White Soldiers/Black Crows เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Engulfing:** Engulfing Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Harami:** Harami Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Doji:** Doji Candlestick เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของตลาด
• **กลยุทธ์ Evening Star/Morning Star:** Evening Star/Morning Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Flag and Pennant:** Flag and Pennant เป็นรูปแบบกราฟราคาที่บ่งบอกถึงการพักตัวของแนวโน้มก่อนที่จะเคลื่อนที่ต่อ

1. 1. 1. การบริหารความเสี่ยงในการ Scalping

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการ Scalping เนื่องจากเทรดเดอร์จะเปิดสถานะจำนวนมากในแต่ละวัน ต่อไปนี้เป็นหลักการบริหารความเสี่ยงที่ควรปฏิบัติตาม:

• **กำหนด Stop Loss:** กำหนดระดับ Stop Loss สำหรับทุกเทรด เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่คาดคิด
• **กำหนด Take Profit:** กำหนดระดับ Take Profit สำหรับทุกเทรด เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ
• **ขนาด Position:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม โดยไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละเทรด
• **อัตราส่วน Risk/Reward:** เลือกเทรดที่มีอัตราส่วน Risk/Reward ที่เหมาะสม โดยทั่วไปควรมีอัตราส่วนอย่างน้อย 1:2
• **หลีกเลี่ยงการ Overtrading:** อย่าเปิดสถานะมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเครียดและตัดสินใจผิดพลาดได้
• **บันทึกการเทรด:** บันทึกการเทรดทั้งหมด เพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงานและปรับปรุงกลยุทธ์

1. 1. 1. ข้อควรจำสำหรับ Scalping ใน ไบนารี่ออปชั่น

• **เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ แพลตฟอร์มที่เสถียร และการบริการลูกค้าที่ดี
• **ฝึกฝนการเทรด:** ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง
• **มีวินัย:** ปฏิบัติตามกลยุทธ์และหลักการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
• **เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง:** ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดและกลยุทธ์การเทรดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

1. 1. 1. สรุป

Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ท้าทาย แต่สามารถทำกำไรได้อย่างมากหากทำได้อย่างถูกต้อง เทรดเดอร์ที่สนใจ Scalping ควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือ ตัวบ่งชี้ กลยุทธ์ และหลักการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด การฝึกฝนและวินัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการประสบความสำเร็จในการ Scalping

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน การจัดการเงินทุน จิตวิทยาการเทรด ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร รูปแบบแท่งเทียน แนวโน้ม Moving Average MACD RSI Bollinger Bands Support and Resistance Pivot Points Economic Calendar Stop Loss Take Profit Risk/Reward Ratio

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น