การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

1. การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

การเทรด ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสทำกำไรได้สูงเช่นกัน หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจและมักถูกมองข้ามคือการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด หรือที่เรียกว่าการเทรดช่วงนอกเวลาทำการ (Out-of-Hours Trading - OOH) บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมถึงข้อดี ข้อเสีย กลยุทธ์ที่เหมาะสม และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

ความหมายของการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

โดยปกติแล้ว ตลาดการเงินต่างๆ เช่น ตลาดหุ้น ตลาดค่าเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ จะมีเวลาเปิดทำการและปิดทำการที่กำหนดไว้ การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดหมายถึงการเทรดที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากเวลาทำการปกติเหล่านี้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงเย็น คืน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับไบนารี่ออปชั่น การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดมักจะเกี่ยวข้องกับการเทรดคู่สกุลเงินที่ตลาดหลักของสกุลเงินนั้นปิดทำการแล้ว เช่น การเทรด EUR/USD ในช่วงที่ตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ

ทำไมถึงควรเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด?

การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดมีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ:

• สภาพคล่องที่ลดลง: แม้ว่าอาจฟังดูไม่ดี แต่สภาพคล่องที่ลดลงสามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรได้ เนื่องจากราคาอาจมีความผันผวนมากขึ้นและตอบสนองต่อข่าวสารหรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า
• ความผันผวนที่สูงขึ้น: เนื่องจากสภาพคล่องที่ลดลง ราคาอาจเกิดการเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้น ทำให้มีโอกาสทำกำไรจากความผันผวนนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความผันผวน เช่น กลยุทธ์ straddle หรือ กลยุทธ์ strangle
• โอกาสในการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร: หากมีข่าวสารสำคัญที่ออกมาในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ราคาอาจมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วเมื่อตลาดเปิดทำการ การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากข่าวสารนี้ได้ก่อนที่ตลาดหลักจะเปิดทำการ
• ลดการแทรกแซงจากตลาดหลัก: เมื่อตลาดหลักปิดทำการ การแทรกแซงจากนักลงทุนรายใหญ่หรือสถาบันการเงินจะลดลง ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริงมากขึ้น

ความเสี่ยงของการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

แม้ว่าการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดจะมีข้อดี แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาเช่นกัน:

• สภาพคล่องที่ต่ำ: สภาพคล่องที่ต่ำอาจทำให้การเข้าและออกจากตำแหน่งทำได้ยากขึ้น และอาจทำให้เกิดการ slippage หรือการได้รับราคาที่ไม่ดีเท่าที่คาดหวังไว้
• ส่วนต่างราคาที่กว้างขึ้น (Wider Spreads): เนื่องจากสภาพคล่องที่ต่ำ ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย (bid-ask spread) มักจะกว้างกว่าในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการ ทำให้ต้นทุนในการเทรดสูงขึ้น
• ความผันผวนที่สูง: แม้ว่าความผันผวนที่สูงขึ้นอาจเป็นโอกาสในการทำกำไร แต่ก็สามารถนำไปสู่การขาดทุนที่รวดเร็วได้เช่นกัน หากคุณไม่สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
• ความเสี่ยงจากข่าวสารที่ไม่คาดคิด: ข่าวสารที่ออกมาในช่วงเวลาที่ตลาดปิดอาจส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรุนแรง และอาจทำให้คุณขาดทุนได้หากคุณไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

กลยุทธ์การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากสภาพตลาดที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถนำมาใช้ได้:

• Breakout Trading: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการมองหาการทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญในช่วงเวลาที่ตลาดปิด โดยคาดหวังว่าการทะลุนี้จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงในทิศทางของการทะลุ การวิเคราะห์แนวรับแนวต้าน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์นี้
• Mean Reversion Trading: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการมองหาโอกาสที่ราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาที่ตลาดปิด โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวกลับสู่ระดับปกติเมื่อตลาดเปิดทำการ Bollinger Bands และ RSI เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในกลยุทธ์นี้
• News Trading: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเทรดโดยอิงตามข่าวสารที่ออกมาในช่วงเวลาที่ตลาดปิด โดยคาดหวังว่าข่าวสารนี้จะส่งผลกระทบต่อราคา ปฏิทินเศรษฐกิจ เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับกลยุทธ์นี้
• Trend Following: แม้ว่าสภาพคล่องจะต่ำ แต่หากมีแนวโน้มที่ชัดเจนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Trend Following เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มนั้นได้ Moving Averages เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในกลยุทธ์นี้
• Range Trading: หากราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ (range-bound) คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Range Trading เพื่อทำกำไรจากการเด้งตัวของราคาภายในช่วงดังกล่าว Support and Resistance levels เป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์นี้

เครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

การเลือกใช้เครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ต่อไปนี้เป็นเครื่องมือและตัวบ่งชี้บางส่วนที่สามารถนำมาใช้ได้:

• Bollinger Bands: ใช้เพื่อวัดความผันผวนและระบุโอกาสในการซื้อขายเมื่อราคาเข้าใกล้ขอบบนหรือขอบล่างของช่วง
• Relative Strength Index (RSI): ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold)
• Moving Averages: ใช้เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้านแบบไดนามิก
• Fibonacci Retracements: ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
• Pivot Points: ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
• Volume Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้มและยืนยันสัญญาณการซื้อขายได้ On Balance Volume (OBV) เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

การจัดการความเสี่ยงในการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางส่วนสำหรับการจัดการความเสี่ยง:

• ใช้ Stop-Loss Orders: กำหนด Stop-Loss Orders เพื่อจำกัดการขาดทุนของคุณในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดหวัง
• ใช้ Position Sizing ที่เหมาะสม: อย่าเสี่ยงเงินทุนมากเกินไปในแต่ละการเทรด โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดของคุณในการเทรดแต่ละครั้ง
• Diversify Your Portfolio: กระจายความเสี่ยงของคุณโดยการเทรดในคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่หลากหลาย
• Stay Disciplined: ปฏิบัติตามแผนการเทรดของคุณอย่างเคร่งครัด และอย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจของคุณ
• Be Aware of News Events: ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด

ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด

กลยุทธ์	คู่สกุลเงิน	เวลา	ตัวบ่งชี้	ความเสี่ยง
EUR/USD | 22:00 - 00:00 | Support & Resistance | สูง |
GBP/JPY | 00:00 - 04:00 | Bollinger Bands, RSI | ปานกลาง |
USD/JPY | ช่วงข่าวเศรษฐกิจ | ปฏิทินเศรษฐกิจ | สูงมาก |
AUD/USD | 20:00 - 24:00 | Moving Averages | ปานกลาง |
USD/CAD | 04:00 - 08:00 | Support & Resistance | ต่ำ |

สรุป

การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิดสามารถเป็นโอกาสในการทำกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเช่นกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของกลยุทธ์ที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดปิด อย่าลืมว่าการเทรดไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง และคุณควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถยอมรับการสูญเสียได้

การเทรดไบนารี่ออปชั่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์พื้นฐาน กลยุทธ์การเทรด การจัดการความเสี่ยง ปฏิทินเศรษฐกิจ Bollinger Bands RSI Moving Averages Fibonacci Retracements Pivot Points On Balance Volume (OBV) กลยุทธ์ straddle กลยุทธ์ strangle การวิเคราะห์แนวรับแนวต้าน การซื้อขายช่วงนอกเวลาทำการ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น