การเทรดแบบ Futures Trading
- การเทรดแบบ Futures Trading สำหรับผู้เริ่มต้น
การเทรดแบบ Futures Trading หรือ การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดทุนโลก เป็นการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ทองคำ ข้าวโพด) ดัชนีหุ้น (S&P 500, Dow Jones) อัตราแลกเปลี่ยน หรือพันธบัตร โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ โดยตรง บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของการเทรด Futures Trading สำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน, ข้อดีข้อเสีย, กลไกการทำงาน, การบริหารความเสี่ยง, และกลยุทธ์การเทรดเบื้องต้น รวมถึงความเชื่อมโยงกับ ไบนารี่ออปชั่น ในแง่ของความเสี่ยงและการบริหารจัดการเงินทุน
- 1. Futures Trading คืออะไร?
Futures Contract หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คือ ข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ณ วันที่ในอนาคตที่กำหนด (Expiration Date หรือ วันหมดอายุสัญญา) ผู้ซื้อสัญญา Futures (Long Position) คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะสูงขึ้น ในขณะที่ผู้ขายสัญญา Futures (Short Position) คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง
- ตัวอย่าง:** สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะสูงขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า คุณสามารถซื้อสัญญา Futures น้ำมันดิบที่กำหนดส่งมอบในอีก 3 เดือนข้างหน้า หากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นจริงเมื่อถึงวันหมดอายุสัญญา คุณจะได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคา แต่หากราคาน้ำมันดิบลดลง คุณจะขาดทุน
- 2. ความแตกต่างระหว่าง Futures Trading กับ Spot Market
| คุณสมบัติ | Futures Trading | Spot Market | |---|---|---| | **การซื้อขาย** | ซื้อขายสัญญาเพื่อคาดการณ์ราคาในอนาคต | ซื้อขายสินทรัพย์จริงในราคาปัจจุบัน | | **การส่งมอบ** | ส่วนใหญ่จะทำการชำระส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) หรือส่งมอบสินทรัพย์จริง (Physical Delivery) | รับมอบสินทรัพย์จริงทันที | | **เลเวอเรจ** | มีเลเวอเรจสูง ทำให้สามารถควบคุมสัญญาที่มีมูลค่าสูงด้วยเงินทุนน้อย | ไม่มีเลเวอเรจ หรือมีน้อยมาก | | **ความเสี่ยง** | มีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากเลเวอเรจสูง | ความเสี่ยงต่ำกว่า | | **ระยะเวลา** | มีวันหมดอายุสัญญาที่กำหนด | ไม่จำกัด |
- 3. ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Futures Trading
- ข้อดี:**
- **เลเวอเรจ:** ช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่อาจได้รับ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
- **โอกาสในการทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง:** สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้น (Long) หรือขาลง (Short)
- **สภาพคล่องสูง:** ตลาด Futures Trading มีสภาพคล่องสูง ทำให้ง่ายต่อการเข้าและออกจากการซื้อขาย
- **ความโปร่งใส:** ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายมีความโปร่งใส
- **Hedging:** สามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา (เช่น ผู้ผลิตสินค้าเกษตรใช้เพื่อล็อคราคาขาย)
- ข้อเสีย:**
- **ความเสี่ยงสูง:** เลเวอเรจสูงทำให้สามารถขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว
- **ความซับซ้อน:** ต้องมีความเข้าใจในกลไกการทำงานของตลาด และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคา
- **Margin Calls:** หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ อาจต้องเติมเงินเพิ่ม (Margin Call)
- **ความผันผวน:** ราคาสินทรัพย์อ้างอิงอาจมีความผันผวนสูง
- 4. กลไกการทำงานของ Futures Trading
- **Exchange (ตลาดซื้อขาย):** การซื้อขาย Futures Trading จะเกิดขึ้นในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เช่น Chicago Mercantile Exchange (CME), Intercontinental Exchange (ICE)
- **Clearing House (ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์):** ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับประกันการซื้อขาย และบริหารจัดการความเสี่ยง
- **Margin (เงินประกัน):** ผู้เทรดจะต้องวางเงินประกัน (Initial Margin) เพื่อเปิดสถานะการซื้อขาย และอาจต้องเติมเงินเพิ่ม (Maintenance Margin) หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์
- **Mark-to-Market:** ราคาของสัญญา Futures จะถูกปรับปรุงตามราคาตลาดทุกวัน (Daily Settlement) และกำไรหรือขาดทุนจะถูกหักหรือเพิ่มจากบัญชี Margin ของผู้เทรด
- **Expiration Date (วันหมดอายุสัญญา):** เมื่อถึงวันหมดอายุสัญญา ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องชำระส่วนต่างของราคา หรือส่งมอบสินทรัพย์จริง (ขึ้นอยู่กับสัญญา)
- 5. การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Futures Trading
- **Stop-Loss Order:** ตั้งคำสั่งขายอัตโนมัติเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด เพื่อจำกัดการขาดทุน
- **Position Sizing:** กำหนดขนาดของการซื้อขายที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้
- **Diversification (การกระจายความเสี่ยง):** ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม
- **Risk/Reward Ratio:** ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังก่อนทำการซื้อขาย
- **Hedging:** ใช้สัญญา Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
- 6. กลยุทธ์การเทรด Futures Trading เบื้องต้น
- **Trend Following (ตามแนวโน้ม):** ซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง ใช้ร่วมกับ Moving Averages และ MACD เพื่อยืนยันแนวโน้ม
- **Breakout Trading (เทรดเมื่อราคาทะลุแนวต้าน/แนวรับ):** ซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้าน และขายเมื่อราคาทะลุแนวรับ
- **Range Trading (เทรดในกรอบราคา):** ซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ และขายเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน
- **Scalping (เก็งกำไรระยะสั้น):** ทำกำไรจากส่วนต่างของราคาเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ
- **Day Trading (เทรดรายวัน):** ปิดสถานะการซื้อขายทั้งหมดภายในวันเดียวกัน
- 7. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** ศึกษาข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีต เพื่อคาดการณ์ราคาในอนาคต ใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Chart Patterns, Fibonacci Retracements, Bollinger Bands, RSI
- **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** ศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ, การเมือง, และอุปสงค์อุปทานของสินทรัพย์อ้างอิง เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์
- 8. ความเชื่อมโยงกับไบนารี่ออปชั่น
แม้ว่า Futures Trading และ ไบนารี่ออปชั่น จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความเชื่อมโยงกันในแง่ของการบริหารความเสี่ยงและการคาดการณ์ทิศทางราคา ผู้เทรดทั้งสองประเภทจำเป็นต้องมีความเข้าใจในตลาด, การวิเคราะห์ทางเทคนิค, และการบริหารเงินทุนที่ดี การทำความเข้าใจ Futures Trading สามารถช่วยให้ผู้เทรดไบนารี่ออปชั่นเข้าใจถึงกลไกการกำหนดราคา และความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น
- 9. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- CME Group: [1](https://www.cmegroup.com/)
- ICE: [2](https://www.ice.com/)
- Investopedia: [3](https://www.investopedia.com/)
- 10. บทสรุป
การเทรด Futures Trading เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด, ทำความเข้าใจกลไกการทำงานของตลาด, และเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเริ่มต้นทำการซื้อขาย การเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) จะช่วยให้คุณฝึกฝนและทำความคุ้นเคยกับตลาดโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง การผสมผสานกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด Futures Trading
| สินทรัพย์อ้างอิง | สัญลักษณ์ | ตลาดซื้อขาย | |
|---|---|---|---|
| น้ำมันดิบ | CL | CME | |
| ทองคำ | GC | CME | |
| ข้าวโพด | C | CBOT | |
| ดัชนี S&P 500 | ES | CME | |
| พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี | US | CBOT |
การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต , Ichimoku Cloud, Parabolic SAR, Stochastic Oscillator, Volume Spread Analysis, การเทรดด้วย Price Action, การเทรดแบบ Algorithmic Trading, การบริหารเงินทุน (Money Management), Correlation Trading, Mean Reversion, Arbitrage, ข่าวสารและการวิเคราะห์ตลาด, การใช้ข่าวสารในการเทรด, การจัดการอารมณ์ในการเทรด, การเทรดตามฤดูกาล, การวิเคราะห์ Sentiment. (Category:Futures trading) - *หมวดหมู่หลักที่ตรงประเด็น*
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

