การเทรดแบบย้อนหลัง
- การเทรดแบบย้อนหลัง (Retracement Trading) ในไบนารี่ออปชั่น
การเทรดแบบย้อนหลัง หรือ Retracement Trading เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย กลยุทธ์นี้อาศัยการระบุช่วงเวลาที่ราคาของสินทรัพย์มีการปรับตัวย้อนกลับจากแนวโน้มหลักก่อนที่จะกลับไปเคลื่อนที่ในทิศทางเดิมอีกครั้ง บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเทรดแบบย้อนหลังสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน การระบุรูปแบบการย้อนหลัง การใช้เครื่องมือช่วย และกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง
- แนวคิดพื้นฐานของการเทรดแบบย้อนหลัง
ตลาดการเงินไม่ได้เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวตลอดเวลา แม้ว่าจะมีแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจน แต่ก็มักจะมีช่วงเวลาที่ราคาปรับตัวสวนทางกับแนวโน้มหลักชั่วคราว การปรับตัวสวนทางนี้เรียกว่าการ “ย้อนหลัง” (Retracement) ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น การพักตัวของตลาด การทำกำไรของผู้เทรด หรือข่าวสารที่ไม่คาดคิด
การเทรดแบบย้อนหลัง คือการคาดการณ์ว่าราคาจะย้อนกลับไปในทิศทางของแนวโน้มหลักหลังจากที่ปรับตัวย้อนหลังไปแล้ว ผู้เทรดจะเข้าซื้อ (Call Option) เมื่อคาดการณ์ว่าราคากำลังจะย้อนกลับขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น หรือเข้าขาย (Put Option) เมื่อคาดการณ์ว่าราคากำลังจะย้อนกลับลงในแนวโน้มขาลง
- ระดับการย้อนหลังของฟีโบนักชี (Fibonacci Retracement Levels)
เครื่องมือที่นิยมใช้ในการระบุระดับการย้อนหลังคือระดับการย้อนหลังของฟีโบนักชี (Fibonacci Retracement Levels) ซึ่งมาจากลำดับฟีโบนักชี (Fibonacci Sequence) ตัวเลขในลำดับฟีโบนักชีมีความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจ และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในตลาดการเงินเพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
ระดับการย้อนหลังของฟีโบนักชีที่สำคัญ ได้แก่:
- 23.6%
- 38.2%
- 50%
- 61.8%
- 78.6%
วิธีการใช้ระดับฟีโบนักชี:
1. **ระบุแนวโน้ม:** กำหนดแนวโน้มหลักของสินทรัพย์ (ขาขึ้น หรือ ขาลง) 2. **วาดเส้นฟีโบนักชี:** วาดเส้นจากจุดเริ่มต้นของแนวโน้มไปยังจุดสูงสุด (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือจุดต่ำสุด (ในแนวโน้มขาลง) 3. **ระบุระดับการย้อนหลัง:** โปรแกรมการเทรดส่วนใหญ่จะวาดระดับการย้อนหลังของฟีโบนักชีโดยอัตโนมัติ 4. **รอการยืนยัน:** รอให้ราคาทดสอบระดับการย้อนหลัง และมองหาสัญญาณยืนยันการกลับตัว (เช่น รูปแบบแท่งเทียน Candlestick Patterns หรือสัญญาณจาก Indicators อื่นๆ)
- รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ที่ใช้ยืนยันการย้อนหลัง
การใช้รูปแบบแท่งเทียนร่วมกับระดับฟีโบนักชีจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์การกลับตัวของราคา รูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญที่ใช้ยืนยันการย้อนหลัง ได้แก่:
- **Engulfing Pattern:** แท่งเทียนใบใหม่มีขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนก่อนหน้า และกลืนกินแท่งเทียนก่อนหน้าทั้งหมด
- **Hammer/Hanging Man:** แท่งเทียนมีลำตัวเล็ก และมีชนวนยาวด้านล่าง (Hammer ในแนวโน้มขาขึ้น, Hanging Man ในแนวโน้มขาลง)
- **Morning Star/Evening Star:** ชุดแท่งเทียนสามแท่งที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- **Doji:** แท่งเทียนที่มีราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกัน บ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของตลาด
- เครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้ในการระบุการย้อนหลัง
นอกเหนือจากระดับฟีโบนักชีและรูปแบบแท่งเทียนแล้ว ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถใช้ในการระบุการย้อนหลังได้:
- **Moving Averages:** เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถใช้ระบุแนวโน้ม และระดับการย้อนหลังได้
- **Trendlines:** เส้นแนวโน้มสามารถใช้ระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้
- **Support and Resistance Levels:** ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญสามารถใช้ระบุจุดที่ราคาอาจย้อนกลับ
- **Relative Strength Index (RSI):** RSI สามารถใช้ระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการย้อนหลัง
- **MACD:** MACD สามารถใช้ระบุการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการย้อนหลัง
- กลยุทธ์การเทรดแบบย้อนหลังในไบนารี่ออปชั่น
นี่คือตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดแบบย้อนหลังในไบนารี่ออปชั่น:
1. **ระบุแนวโน้ม:** วิเคราะห์กราฟราคาเพื่อระบุแนวโน้มหลัก (ขาขึ้น หรือ ขาลง) 2. **วาดเส้นฟีโบนักชี:** วาดเส้นฟีโบนักชีจากจุดเริ่มต้นของแนวโน้มไปยังจุดสูงสุด (ขาขึ้น) หรือจุดต่ำสุด (ขาลง) 3. **รอการทดสอบระดับ:** รอให้ราคาทดสอบระดับการย้อนหลังของฟีโบนักชี (เช่น 38.2% หรือ 61.8%) 4. **มองหาสัญญาณยืนยัน:** มองหารูปแบบแท่งเทียนหรือสัญญาณจาก Indicators อื่นๆ ที่ยืนยันการกลับตัวของราคา 5. **เข้าเทรด:**
* **แนวโน้มขาขึ้น:** หากราคาทดสอบระดับการย้อนหลัง และมีสัญญาณยืนยันการกลับตัว ให้เข้าซื้อ (Call Option) * **แนวโน้มขาลง:** หากราคาทดสอบระดับการย้อนหลัง และมีสัญญาณยืนยันการกลับตัว ให้เข้าขาย (Put Option)
6. **กำหนดระยะเวลา:** เลือก Expiration Time ที่เหมาะสมกับกรอบเวลาที่คุณคาดการณ์การกลับตัวของราคา 7. **จัดการความเสี่ยง:** กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสม และใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
- การจัดการความเสี่ยงในการเทรดแบบย้อนหลัง
การเทรดแบบย้อนหลังมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการเทรดรูปแบบอื่นๆ การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว:
- **กำหนดขนาดการลงทุน:** อย่าลงทุนเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในการเทรดแต่ละครั้ง
- **ใช้ Stop Loss:** กำหนด Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากการคาดการณ์ของคุณผิดพลาด
- **เลือกสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง:** สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงจะช่วยให้คุณเข้าและออกตลาดได้อย่างรวดเร็ว
- **หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงข่าวสำคัญ:** ข่าวสำคัญอาจทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรง และทำให้การคาดการณ์การย้อนหลังเป็นเรื่องยาก
- **ฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์:** ฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ของคุณด้วยบัญชี Demo ก่อนที่จะใช้เงินจริง
- กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง
- Trend Following – กลยุทธ์ที่ตามแนวโน้มหลักของตลาด
- Breakout Trading – กลยุทธ์ที่เทรดเมื่อราคา Breakout จากระดับแนวรับหรือแนวต้าน
- Range Trading – กลยุทธ์ที่เทรดภายในช่วงราคาที่กำหนด
- Scalping – กลยุทธ์ที่ทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยของราคา
- Day Trading – กลยุทธ์ที่เปิดและปิด Position ภายในวันเดียวกัน
- Swing Trading – กลยุทธ์ที่ถือ Position ไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์
- Arbitrage – กลยุทธ์ที่ทำกำไรจากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ
- News Trading – กลยุทธ์ที่เทรดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมือง
- Pattern Day Trading – กลยุทธ์ที่ใช้รูปแบบกราฟในการคาดการณ์ราคา
- Gap Trading – กลยุทธ์ที่เทรดเมื่อราคาเปิดด้วย Gap
- Head and Shoulders Pattern – รูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- Double Top/Bottom – รูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
- Triangles – รูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงการรวมตัวของราคา
- Flags and Pennants – รูปแบบกราฟต่อเนื่องของแนวโน้ม
- Elliott Wave Theory – ทฤษฎีที่อธิบายการเคลื่อนที่ของราคาเป็นคลื่น
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
การทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดแบบย้อนหลัง การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้คุณระบุแนวโน้ม รูปแบบกราฟ และระดับแนวรับ/แนวต้าน ส่วนการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายช่วยให้คุณประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและยืนยันสัญญาณการกลับตัว
- สรุป
การเทรดแบบย้อนหลังเป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่น อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความเข้าใจในแนวคิดพื้นฐาน การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ของคุณอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด
Binary Option Strategies Technical Indicators Risk Management Trading Psychology
| ระดับ ! คำอธิบาย ! การนำไปใช้ | ||
|---|---|---|
| 23.6% | การย้อนหลังเล็กน้อย มักใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการพิจารณาการกลับตัว | รอสัญญาณยืนยันอื่นๆ ก่อนเข้าเทรด |
| 38.2% | ระดับการย้อนหลังที่สำคัญ มักเป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัว | มองหารูปแบบแท่งเทียนหรือสัญญาณจาก Indicators |
| 50% | ระดับกึ่งกลางของแนวโน้ม มักเป็นจุดที่ราคามีการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ | ระวังการหลุดระดับนี้ อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแนวโน้ม |
| 61.8% | ระดับการย้อนหลังที่สำคัญอีกระดับ มักเป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวอย่างแข็งแกร่ง | มองหารูปแบบแท่งเทียนหรือสัญญาณจาก Indicators |
| 78.6% | ระดับการย้อนหลังที่ใกล้เคียงกับจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม มักเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่ราคาจะกลับตัว | ระวังการหลุดระดับนี้ อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแนวโน้ม |
(Category:Trading Strategies) (Category:Binary Options) (Category:Technical Analysis) (Category:Risk Management) (Category:Trading for Beginners)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

