การเทรดด้วย Stochastics

1. 1. การ เทรด ด้วย Stochastics ใน ไบนารี่ ออปชั่น สำหรับ ผู้เริ่มต้น

Stochastic Oscillator หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “Stochastics” เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา และสามารถระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงานของ Stochastics, วิธีการใช้งาน, การตั้งค่าที่เหมาะสม, และกลยุทธ์การเทรดที่ใช้กับ Stochastics ในตลาดไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น

1. 1. 1. 1. หลักการทำงานของ Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator พัฒนาขึ้นโดย Dr. George Lane ในทศวรรษ 1950 โดยมีแนวคิดพื้นฐานคือ การเปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันของสินทรัพย์กับช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยเชื่อว่าในช่วงตลาดที่มีแนวโน้ม (Trend) ราคาปิดมักจะปิดใกล้กับส่วนบนหรือส่วนล่างของช่วงราคาเสมอ

Stochastic Oscillator ประกอบด้วยสองเส้นหลัก:

• **%K:** เป็นเส้นหลักที่คำนวณจากสูตร: %K = ((ราคาปิดปัจจุบัน – ราคต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด) / (ราคาสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด – ราคต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด)) * 100
• **%D:** เป็นเส้นสัญญาณที่คำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ของ %K โดยทั่วไปจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ 3 ช่วงเวลา (%D = SMA(3) ของ %K)

ค่าของ %K และ %D จะอยู่ในช่วง 0 ถึง 100 โดย:

• ค่าที่สูงกว่า 80 มักถูกมองว่าเป็นสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)
• ค่าที่ต่ำกว่า 20 มักถูกมองว่าเป็นสภาวะขายมากเกินไป (Oversold)

1. 1. 1. 2. การตั้งค่า Stochastic Oscillator

การตั้งค่าค่าเริ่มต้นของ Stochastics มักจะเป็น 14 ช่วงเวลา (Periods) สำหรับทั้ง %K และ %D แต่การตั้งค่าที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เทรด, กรอบเวลา (Timeframe) ที่ใช้, และสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคล

• **ช่วงเวลา (Periods):** การตั้งค่าช่วงเวลาที่สั้น (เช่น 5 หรือ 9) จะทำให้ Stochastics มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากขึ้น และสร้างสัญญาณที่บ่อยขึ้น แต่ก็อาจมีสัญญาณหลอก (False Signals) มากขึ้น ในขณะที่การตั้งค่าช่วงเวลาที่ยาว (เช่น 21 หรือ 28) จะทำให้ Stochastics มีความเสถียรมากขึ้น และสร้างสัญญาณที่น้อยลง แต่ก็อาจล่าช้าในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
• **การปรับค่า Smooth (%D):** การปรับค่า Smooth สำหรับ %D จะช่วยลดสัญญาณรบกวนและทำให้เส้นสัญญาณมีความราบรื่นมากขึ้น
• **ระดับ Overbought และ Oversold:** สามารถปรับระดับ Overbought และ Oversold ได้ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปจะใช้ 80 และ 20 ตามลำดับ แต่บางครั้งอาจปรับเป็น 70 และ 30 หรือ 90 และ 10 ก็ได้

การทดลองและปรับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดและสินทรัพย์ที่เทรดเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งาน Stochastics อย่างมีประสิทธิภาพ

1. 1. 1. 3. การอ่านสัญญาณจาก Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator สร้างสัญญาณหลายประเภทที่นักเทรดสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเทรดได้

• **Crossovers:** สัญญาณที่พบบ่อยที่สุดคือการตัดกันของเส้น %K และ %D

   *   **Bullish Crossover:** เมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ขึ้นไปเหนือระดับ 20 ถือเป็นสัญญาณซื้อ
   *   **Bearish Crossover:** เมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D ลงมาต่ำกว่าระดับ 80 ถือเป็นสัญญาณขาย

• **Overbought และ Oversold:** เมื่อค่า Stochastics อยู่ในระดับ Overbought (สูงกว่า 80) อาจบ่งบอกถึงโอกาสในการขาย (Short) และเมื่อค่า Stochastics อยู่ในระดับ Oversold (ต่ำกว่า 20) อาจบ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อ (Long)
• **Divergence:** การเบี่ยงเบน (Divergence) เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม

   *   **Bullish Divergence:** เมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ Stochastics ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ ถือเป็นสัญญาณซื้อ
   *   **Bearish Divergence:** เมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Stochastics ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ ถือเป็นสัญญาณขาย

• **Centerline Crossover:** การตัดกันของเส้น %K และ %D กับระดับ 50 สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม

1. 1. 1. 4. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วย Stochastics

ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Stochastics Oscillator:

• **กลยุทธ์ Crossover:** รอให้เกิด Bullish Crossover ในโซน Oversold หรือ Bearish Crossover ในโซน Overbought แล้วเปิด Position ในทิศทางที่สัญญาณบ่งบอก
• **กลยุทธ์ Divergence:** รอให้เกิด Bullish Divergence แล้วเปิด Position ซื้อ (Call Option) หรือรอให้เกิด Bearish Divergence แล้วเปิด Position ขาย (Put Option)
• **กลยุทธ์ Overbought/Oversold กับแนวรับ/แนวต้าน:** ใช้ Stochastics เพื่อยืนยันสัญญาณ Overbought/Oversold ร่วมกับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) หาก Stochastics อยู่ในโซน Overbought และราคาเข้าใกล้แนวต้าน อาจเป็นสัญญาณขายที่ดี
• **กลยุทธ์ Stochastics กับ Trend:** ใช้ Stochastics เพื่อยืนยันแนวโน้ม หากแนวโน้มเป็นขาขึ้น ให้มองหาสัญญาณซื้อเมื่อ Stochastics อยู่ในโซน Oversold และหลีกเลี่ยงสัญญาณขาย หากแนวโน้มเป็นขาลง ให้มองหาสัญญาณขายเมื่อ Stochastics อยู่ในโซน Overbought และหลีกเลี่ยงสัญญาณซื้อ

ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรด Stochastics ในไบนารี่ออปชั่น

! สัญญาณ	! การดำเนินการ	! กรอบเวลาที่แนะนำ
Bullish Crossover ในโซน Oversold	เปิด Position ซื้อ (Call Option)	5 นาที, 15 นาที
Bearish Crossover ในโซน Overbought	เปิด Position ขาย (Put Option)	5 นาที, 15 นาที
Bullish Divergence	เปิด Position ซื้อ (Call Option)	15 นาที, 30 นาที
Bearish Divergence	เปิด Position ขาย (Put Option)	15 นาที, 30 นาที
Stochastics Oversold + แนวรับ	เปิด Position ซื้อ (Call Option)	15 นาที, 30 นาที
Stochastics Overbought + แนวต้าน	เปิด Position ขาย (Put Option)	15 นาที, 30 นาที

1. 1. 1. 5. ข้อควรระวังและเคล็ดลับเพิ่มเติม

• **การยืนยันสัญญาณ:** ไม่ควรใช้ Stochastics เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเทรด ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, MACD, Fibonacci Retracements, Bollinger Bands, RSI - Relative Strength Index, Ichimoku Cloud, Pivot Points, Candlestick Patterns, และ Volume Analysis เพื่อยืนยันสัญญาณ
• **การจัดการความเสี่ยง (Risk Management):** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมและใช้ Stop-Loss เสมอเพื่อจำกัดความเสี่ยง
• **Backtesting:** ทดสอบกลยุทธ์การเทรดด้วย Stochastics บนข้อมูลย้อนหลัง (Historical Data) เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสี่ยงก่อนนำไปใช้ในการเทรดจริง
• **การปรับตัว:** ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นควรปรับกลยุทธ์การเทรดและค่าการตั้งค่า Stochastics ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
• **ความเข้าใจใน ตลาดไบนารี่ออปชั่น :** ทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของตลาดไบนารี่ออปชั่น เช่น การจ่ายผลตอบแทนและระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time)
• **การวิเคราะห์ แนวโน้ม :** การระบุแนวโน้มของตลาดจะช่วยให้คุณเทรดไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มหลัก ซึ่งเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
• **การใช้ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย :** ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จาก Stochastics
• **กลยุทธ์ Straddle :** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
• **กลยุทธ์ Butterfly :** กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงที่ตลาดคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ
• **กลยุทธ์ Martingale :** กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูง แต่สามารถทำกำไรได้หากใช้ด้วยความระมัดระวัง
• **กลยุทธ์ Anti-Martingale :** กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า Martingale แต่ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่า
• **กลยุทธ์ Pin Bar :** กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบแท่งเทียน Pin Bar เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้ม
• **กลยุทธ์ Engulfing :** กลยุทธ์นี้ใช้รูปแบบแท่งเทียน Engulfing เพื่อระบุการกลับตัวของแนวโน้ม

1. 1. 1. สรุป

Stochastic Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ทางเทคนิค และสามารถนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Stochastics อย่างประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการทำงาน, การตั้งค่าที่เหมาะสม, การอ่านสัญญาณที่ถูกต้อง, และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การใช้ Stochastics ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่น

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น