การเทรดด้วย Pivot Points

1. การเทรดด้วย Pivot Points

Pivot Points หรือ จุดแกนสำคัญ เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย จุดแกนสำคัญถูกใช้เพื่อระบุระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจเปิดและปิดสถานะการเทรด บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Pivot Points ตั้งแต่การคำนวณ การใช้งาน ไปจนถึงกลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้เริ่มต้น

หลักการพื้นฐานของ Pivot Points

แนวคิดพื้นฐานของ Pivot Points คือการใช้ข้อมูลราคาจากช่วงเวลาที่ผ่านมา (โดยทั่วไปคือวันก่อนหน้า) เพื่อคาดการณ์ระดับราคาที่อาจมีความสำคัญในวันปัจจุบัน นักเทรดเชื่อว่าระดับเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต เนื่องจากเป็นระดับที่นักเทรดจำนวนมากให้ความสนใจและอาจมีการทำคำสั่งซื้อขายจำนวนมากบริเวณเหล่านี้

การคำนวณ Pivot Points

การคำนวณ Pivot Points เป็นเรื่องง่าย และสามารถทำได้ด้วยสูตรดังต่อไปนี้:

Pivot Point (PP) = (High + Low + Close) / 3
Resistance Level 1 (R1) = (2 x PP) – Low
Resistance Level 2 (R2) = PP + (High – Low)
Support Level 1 (S1) = (2 x PP) – High
Support Level 2 (S2) = PP – (High – Low)

โดยที่:

High คือ ราคาสูงสุดของวันก่อนหน้า
Low คือ ราคาต่ำสุดของวันก่อนหน้า
Close คือ ราคาปิดของวันก่อนหน้า

ตัวอย่าง: หากราคาสูงสุดของวันก่อนหน้าคือ 1.2500, ราคาต่ำสุดคือ 1.2000 และราคาปิดคือ 1.2300 การคำนวณจะเป็นดังนี้:

PP = (1.2500 + 1.2000 + 1.2300) / 3 = 1.2267
R1 = (2 x 1.2267) – 1.2000 = 1.2534
R2 = 1.2267 + (1.2500 – 1.2000) = 1.2767
S1 = (2 x 1.2267) – 1.2500 = 1.2034
S2 = 1.2267 – (1.2500 – 1.2000) = 1.1767

การใช้งาน Pivot Points ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

เมื่อได้ระดับ Pivot Points แล้ว นักเทรดสามารถนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:

1. การซื้อ (Call Option) เมื่อราคา Breakout เหนือแนวต้าน (Resistance) หากราคาปัจจุบันทะลุแนวต้าน R1 หรือ R2 ขึ้นไป นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป 2. การขาย (Put Option) เมื่อราคา Breakout ต่ำกว่าแนวรับ (Support) หากราคาปัจจุบันทะลุแนวรับ S1 หรือ S2 ลงมา นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option) โดยคาดหวังว่าราคาจะยังคงปรับตัวลงต่อไป 3. การเทรดเมื่อราคาเด้งกลับ (Bounce) จากแนวรับและแนวต้าน หากราคาเข้าใกล้แนวรับ S1 หรือ S2 แล้วเด้งกลับขึ้นไป นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) ในทำนองเดียวกัน หากราคาเข้าใกล้แนวต้าน R1 หรือ R2 แล้วปรับตัวลงมา นักเทรดอาจพิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option) 4. ใช้ Pivot Points ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ Pivot Points สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, RSI (Relative Strength Index), MACD (Moving Average Convergence Divergence), และ Bollinger Bands เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด

กลยุทธ์การเทรดด้วย Pivot Points

ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์การเทรดด้วย Pivot Points ที่นิยมใช้กัน:

1. Pivot Point Bounce Strategy กลยุทธ์นี้เน้นการเทรดเมื่อราคาเด้งกลับจากแนวรับและแนวต้าน โดยนักเทรดจะรอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ Pivot Point และสังเกตการเกิดสัญญาณการกลับตัว เช่น Candlestick Patterns ก่อนที่จะเปิดสถานะ 2. Pivot Point Breakout Strategy กลยุทธ์นี้เน้นการเทรดเมื่อราคา Breakout เหนือแนวต้านหรือต่ำกว่าแนวรับ โดยนักเทรดจะรอให้ราคาทะลุระดับ Pivot Point และยืนยันการ Breakout ด้วยปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) ที่เพิ่มขึ้นก่อนที่จะเปิดสถานะ 3. Pivot Point Confluence Strategy กลยุทธ์นี้เน้นการใช้ Pivot Points ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อหาจุดที่ระดับต่างๆ มาบรรจบกัน (Confluence) เช่น การที่แนวรับของ Pivot Point ตรงกับเส้น Moving Average หรือระดับ Fibonacci Retracement จุดที่เกิด Confluence มักจะเป็นจุดที่สำคัญและมีโอกาสในการเทรดสูง 4. Multiple Time Frame Pivot Point Analysis วิเคราะห์ Pivot Points ในหลายกรอบเวลา (Time Frames) เช่น รายวัน รายชั่วโมง และราย 15 นาที เพื่อยืนยันแนวโน้มและระดับสำคัญที่สอดคล้องกัน

การปรับปรุงความแม่นยำของ Pivot Points

แม้ว่า Pivot Points จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำ 100% เสมอไป นักเทรดสามารถปรับปรุงความแม่นยำของ Pivot Points ได้โดย:

การใช้ Pivot Points แบบต่างๆ นอกจาก Pivot Points แบบมาตรฐานแล้ว ยังมี Pivot Points แบบอื่นๆ อีก เช่น Fibonacci Pivot Points, Woodward Pivot Points, และ Pivot Points ที่ใช้ข้อมูลราคาจากหลายช่วงเวลา
การปรับค่าตัวคูณ (Multiplier) นักเทรดสามารถปรับค่าตัวคูณที่ใช้ในการคำนวณระดับ Resistance และ Support เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและความผันผวนของตลาด
การพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เช่น ข่าวเศรษฐกิจ เหตุการณ์สำคัญ และการประกาศผลประกอบการของบริษัท สามารถช่วยให้นักเทรดเข้าใจบริบทของตลาดและตัดสินใจเทรดได้ดีขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ Pivot Points

Pivot Points ไม่ใช่สัญญาณตายตัว Pivot Points เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์เท่านั้น ไม่สามารถรับประกันผลกำไรได้ นักเทรดควรใช้ Pivot Points ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
Pivot Points อาจไม่แม่นยำในตลาดที่มีความผันผวนสูง ในตลาดที่มีความผันผวนสูง ราคาอาจทะลุระดับ Pivot Point อย่างรวดเร็วและไม่ย้อนกลับมาทดสอบอีก ทำให้สัญญาณ Pivot Point ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
Pivot Points เป็นเครื่องมือที่ล่าช้า (Lagging Indicator) Pivot Points คำนวณจากข้อมูลราคาในอดีต ดังนั้นจึงอาจไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาในปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที

สรุป

Pivot Points เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรด ไบนารี่ออปชั่น ช่วยในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น และสามารถนำไปใช้ในการพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรเข้าใจหลักการทำงานของ Pivot Points และใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ รวมถึงบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ตัวอย่างการคำนวณ Pivot Points
High \| Low \| Close \|
1.2500 \| 1.2000 \| 1.2300 \|
1.2267 \| \| \|
1.2534 \| \| \|
1.2767 \| \| \|
1.2034 \| \| \|
1.1767 \| \| \|

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น