การหาปริมาณ

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การ หา ปริมาณ ใน ไบนารี่ ออปชั่น

การ หา ปริมาณ (Quantification) ใน ไบนารี่ ออปชั่น ไม่ได้หมายถึงการนับจำนวนออปชั่นที่ซื้อขาย แต่หมายถึงการใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ราคา, เวลา, ปริมาณการซื้อขาย และตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อพัฒนาระบบการซื้อขายที่สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ การหาปริมาณเป็นหัวใจสำคัญของการซื้อขายแบบเป็นระบบ (Systematic Trading) ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายตามความรู้สึก (Discretionary Trading) ที่อาศัยประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวเป็นหลัก บทความนี้จะอธิบายถึงหลักการพื้นฐาน, วิธีการ, เครื่องมือ และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น

      1. ทำไมต้องหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น?

การซื้อขายไบนารี่ ออปชั่น ที่อาศัยโชคหรือการคาดเดา มักนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน และอาจทำให้เกิดการขาดทุนอย่างรวดเร็ว การหาปริมาณช่วยลดอคติทางอารมณ์ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้:

  • **ความสม่ำเสมอ:** ระบบการซื้อขายที่ถูกออกแบบมาอย่างดี จะดำเนินการตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากอารมณ์
  • **การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting):** ข้อมูลในอดีตสามารถนำมาใช้เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ต่างๆ ก่อนที่จะนำไปใช้จริง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุน
  • **การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง:** ผลการซื้อขายจะถูกบันทึกและวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • **การจัดการความเสี่ยง:** การหาปริมาณช่วยในการกำหนดขนาดของการลงทุน (Position Sizing) ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • **การระบุโอกาส:** การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณช่วยในการระบุรูปแบบและแนวโน้มที่อาจไม่ชัดเจนจากการสังเกตด้วยตาเปล่า
      1. ขั้นตอนการหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น

การหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

1. **การรวบรวมข้อมูล:** รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อขาย เช่น ราคาในอดีต, ปริมาณการซื้อขาย, ข่าวสาร, และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ 2. **การวิเคราะห์ข้อมูล:** วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมา เพื่อค้นหารูปแบบ, แนวโน้ม, และความสัมพันธ์ที่อาจเป็นประโยชน์ในการซื้อขาย 3. **การพัฒนากลยุทธ์:** พัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่อิงกับผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับการเข้าและออกจากตลาด 4. **การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting):** ทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์โดยใช้ข้อมูลในอดีต เพื่อประเมินความสามารถในการทำกำไรและความเสี่ยง 5. **การปรับปรุงกลยุทธ์:** ปรับปรุงกลยุทธ์ตามผลการทดสอบย้อนหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง 6. **การใช้งานจริง (Live Trading):** นำกลยุทธ์ไปใช้ในการซื้อขายจริง โดยติดตามผลการซื้อขายอย่างใกล้ชิด และปรับปรุงกลยุทธ์ตามความเหมาะสม

      1. เครื่องมือที่ใช้ในการหาปริมาณ

มีเครื่องมือมากมายที่สามารถนำมาใช้ในการหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น ได้แก่:

  • **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** แพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่มักมีเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค และการแสดงผลข้อมูลเชิงปริมาณ
  • **โปรแกรมสเปรดชีต (Spreadsheet Software):** โปรแกรมเช่น Microsoft Excel หรือ Google Sheets สามารถใช้ในการจัดเก็บ, วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูล
  • **ภาษาโปรแกรม (Programming Languages):** ภาษาโปรแกรม เช่น Python หรือ R สามารถใช้ในการพัฒนาโปรแกรมสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล และการทดสอบกลยุทธ์
  • **ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง:** มีซอฟต์แวร์เฉพาะทางสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค และการพัฒนาระบบการซื้อขายแบบอัตโนมัติ (Automated Trading Systems)
      1. ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการหาปริมาณ

ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย ตัวอย่างตัวชี้วัดทางเทคนิคที่นิยมใช้ในการหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น ได้แก่:

  • **ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages):** ใช้ในการระบุแนวโน้มของราคา
  • **ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI):** ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
  • **เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Converging Exponential Moving Average (MACD):** ใช้ในการระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม และสัญญาณการซื้อขาย
  • **แบนด์ของ Bollinger (Bollinger Bands):** ใช้ในการวัดความผันผวนของราคา และระบุโอกาสในการซื้อขาย
  • **Fibonacci Retracement:** ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
      1. กลยุทธ์การซื้อขายที่อิงกับการหาปริมาณ

มีกลยุทธ์การซื้อขายมากมายที่อิงกับการหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น ตัวอย่างกลยุทธ์ที่นิยมใช้ ได้แก่:

  • **กลยุทธ์การตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Crossover Strategy):** ซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาวขึ้น และขายเมื่อตัดลง
  • **กลยุทธ์ RSI Overbought/Oversold:** ซื้อเมื่อ RSI ต่ำกว่าระดับ Oversold และขายเมื่อ RSI สูงกว่าระดับ Overbought
  • **กลยุทธ์ MACD Divergence:** ซื้อเมื่อเกิด Divergence ระหว่างราคาและ MACD และขายเมื่อเกิด Divergence ในทิศทางตรงกันข้าม
  • **กลยุทธ์ Breakout:** ซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้าน และขายเมื่อราคาทะลุแนวรับ
  • **กลยุทธ์ Price Action:** วิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย
      1. การจัดการความเสี่ยงในการหาปริมาณ

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการหาปริมาณในไบนารี่ ออปชั่น เนื่องจากมีความเสี่ยงในการขาดทุนเสมอ แม้ว่าจะใช้ระบบการซื้อขายที่ได้ผลดีก็ตาม หลักการสำคัญในการจัดการความเสี่ยง ได้แก่:

  • **กำหนดขนาดของการลงทุน (Position Sizing):** กำหนดขนาดของการลงทุนในแต่ละออปชั่น โดยพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • **กำหนด Stop-Loss:** กำหนดระดับราคาที่ยอมรับได้สำหรับการขาดทุน และปิดออปชั่นเมื่อราคาถึงระดับนั้น
  • **กระจายความเสี่ยง (Diversification):** กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อลดความเสี่ยง
  • **ติดตามผลการซื้อขาย:** ติดตามผลการซื้อขายอย่างใกล้ชิด และปรับปรุงกลยุทธ์ตามความเหมาะสม
      1. ข้อควรระวังในการหาปริมาณ
  • **Overfitting:** การปรับปรุงกลยุทธ์ให้เข้ากับข้อมูลในอดีตมากเกินไป อาจทำให้กลยุทธ์ไม่สามารถทำงานได้ดีในอนาคต
  • **เปลี่ยนแปลงของตลาด:** ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นกลยุทธ์ที่เคยได้ผลดีในอดีต อาจไม่สามารถทำงานได้ดีในอนาคต
  • **ค่าธรรมเนียมและ Spread:** ค่าธรรมเนียมและ Spread สามารถส่งผลกระทบต่อผลกำไร ดังนั้นควรพิจารณาค่าใช้จ่ายเหล่านี้ด้วย
  • **ความเข้าใจในพื้นฐาน:** การหาปริมาณไม่ใช่ทางลัดสู่ความสำเร็จ จำเป็นต้องมีความเข้าใจในพื้นฐานของการซื้อขายไบนารี่ ออปชั่น และการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ตัวอย่างกลยุทธ์การหาปริมาณแบบง่าย
กลยุทธ์ ตัวชี้วัด กฎการซื้อขาย
Moving Average Crossover เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (SMA 5) และ ระยะยาว (SMA 20) ซื้อเมื่อ SMA 5 ตัด SMA 20 ขึ้น, ขายเมื่อ SMA 5 ตัด SMA 20 ลง
RSI Overbought/Oversold RSI (14) ซื้อเมื่อ RSI < 30, ขายเมื่อ RSI > 70
MACD Crossover MACD (12, 26, 9) ซื้อเมื่อ MACD ตัด Signal Line ขึ้น, ขายเมื่อ MACD ตัด Signal Line ลง
      1. ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер