การศึกษาเกี่ยวกับ Trailing Stop

1. 1. การศึกษาเกี่ยวกับ Trailing Stop

Trailing Stop เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่สำคัญและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ Trailing Stop ตั้งแต่หลักการทำงาน, วิธีการตั้งค่า, ข้อดีข้อเสีย, ไปจนถึงการนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การเทรดต่างๆ เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าใจและใช้งานเครื่องมือนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. 1. 1. Trailing Stop คืออะไร?

Trailing Stop เป็นประเภทหนึ่งของคำสั่ง Stop-Loss Order ที่ปรับเปลี่ยนตามราคาตลาดที่เคลื่อนไหวในทิศทางที่ต้องการ กล่าวคือ เมื่อราคาเคลื่อนที่ในทิศทางที่เอื้อประโยชน์ต่อการเทรด Trailing Stop จะเลื่อนตามขึ้นไปด้วย เพื่อล็อคผลกำไรที่เพิ่มขึ้น แต่หากราคาเคลื่อนที่กลับทิศทาง Trailing Stop จะยังคงอยู่ที่ระดับเดิม ทำให้คำสั่งขาย (หรือซื้อ) ถูกดำเนินการเมื่อราคาลดลง (หรือสูงขึ้น) ถึงระดับที่กำหนดไว้

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Trailing Stop กับ Stop-Loss Order แบบดั้งเดิมคือ Stop-Loss Order แบบดั้งเดิมจะถูกตั้งค่าไว้ที่ระดับราคาคงที่ ในขณะที่ Trailing Stop จะปรับเปลี่ยนตามราคา ทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า และสามารถช่วยให้คุณล็อคผลกำไรได้มากขึ้นในขณะที่จำกัดความเสี่ยง

1. 1. 1. หลักการทำงานของ Trailing Stop

Trailing Stop ทำงานโดยการกำหนดระยะห่าง (Trailing Amount) จากราคาปัจจุบัน ระยะห่างนี้สามารถกำหนดได้ทั้งในรูปแบบของจำนวนเงิน (เช่น 10 ดอลลาร์) หรือเปอร์เซ็นต์ (เช่น 5%)

• **Trailing Amount แบบจำนวนเงิน:** หากคุณตั้งค่า Trailing Stop ไว้ที่ 10 ดอลลาร์ใต้ราคาปัจจุบัน และราคาขึ้นไป 20 ดอลลาร์ Trailing Stop จะเลื่อนขึ้นตามไปด้วย 20 ดอลลาร์ และตั้งอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ใต้ราคาปัจจุบันใหม่
• **Trailing Amount แบบเปอร์เซ็นต์:** หากคุณตั้งค่า Trailing Stop ไว้ที่ 5% ใต้ราคาปัจจุบัน และราคาขึ้นไป 10% Trailing Stop จะเลื่อนขึ้นตามไปด้วย 10% และตั้งอยู่ที่ 5% ใต้ราคาปัจจุบันใหม่

เมื่อราคาเคลื่อนที่กลับทิศทางและลดลง (หรือสูงขึ้น) จนถึงระดับ Trailing Stop คำสั่งขาย (หรือซื้อ) จะถูกดำเนินการทันที

1. 1. 1. วิธีการตั้งค่า Trailing Stop ในไบนารี่ออปชั่น

การตั้งค่า Trailing Stop ในไบนารี่ออปชั่นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณใช้ อย่างไรก็ตาม หลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม:

1. **เลือกสินทรัพย์:** เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรด เช่น สกุลเงิน, ดัชนีหุ้น, หรือสินค้าโภคภัณฑ์ 2. **กำหนดทิศทางการเทรด:** ตัดสินใจว่าคุณต้องการซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) 3. **กำหนด Trailing Amount:** กำหนดระยะห่างระหว่าง Trailing Stop กับราคาปัจจุบัน ทั้งในรูปแบบของจำนวนเงินหรือเปอร์เซ็นต์ การเลือกค่าที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความผันผวนของสินทรัพย์ และระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ 4. **ยืนยันคำสั่ง:** ยืนยันคำสั่งของคุณ แพลตฟอร์มจะติดตามราคาและปรับเปลี่ยน Trailing Stop ตามหลักการที่อธิบายไว้

1. 1. 1. ข้อดีของการใช้ Trailing Stop

• **ล็อคผลกำไร:** Trailing Stop ช่วยให้คุณล็อคผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในขณะที่การเทรดยังคงดำเนินต่อไป
• **จำกัดความเสี่ยง:** Trailing Stop ช่วยจำกัดความเสี่ยงของคุณ โดยการขาย (หรือซื้อ) สินทรัพย์เมื่อราคาเคลื่อนที่กลับทิศทางถึงระดับที่กำหนดไว้
• **ลดความเครียด:** การใช้ Trailing Stop ช่วยลดความเครียดในการเฝ้าติดตามราคาตลอดเวลา
• **เพิ่มประสิทธิภาพการเทรด:** Trailing Stop สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดของคุณ โดยการช่วยให้คุณได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่ต้องการ

1. 1. 1. ข้อเสียของการใช้ Trailing Stop

• **อาจถูกเรียกใช้งานก่อนเวลาอันควร:** หากราคาเกิดการแกว่งตัวอย่างรุนแรง Trailing Stop อาจถูกเรียกใช้งานก่อนเวลาอันควร ทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไรเพิ่มเติม
• **ต้องมีการปรับตั้งค่า:** การตั้งค่า Trailing Amount ที่เหมาะสมอาจต้องใช้เวลาและการทดลอง
• **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Trailing Stop ไม่สามารถรับประกันผลกำไรได้ และยังคงมีความเสี่ยงในการเทรด

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้ Trailing Stop กับกลยุทธ์การเทรด

Trailing Stop สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การเทรดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น:

• **Trend Following:** ใช้ Trailing Stop เพื่อล็อคผลกำไรจากการเทรดตามแนวโน้ม (Trend) ของราคา
• **Breakout Trading:** ใช้ Trailing Stop เพื่อป้องกันความเสี่ยงเมื่อราคา breakout ผ่านระดับแนวต้านหรือแนวรับ
• **Reversal Trading:** ใช้ Trailing Stop เพื่อจำกัดความเสี่ยงเมื่อคาดการณ์การกลับตัวของราคา
• **Scalping:** ใช้ Trailing Stop เพื่อล็อคผลกำไรเล็กน้อยจากการเทรดระยะสั้นๆ

1. 1. 1. การเลือก Trailing Amount ที่เหมาะสม

การเลือก Trailing Amount ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการใช้ Trailing Stop

• **ความผันผวนของสินทรัพย์:** สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงควรใช้ Trailing Amount ที่กว้างกว่าสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
• **กรอบเวลา (Timeframe):** การเทรดในกรอบเวลาที่สั้นกว่าควรใช้ Trailing Amount ที่แคบกว่าการเทรดในกรอบเวลาที่ยาวกว่า
• **ความเสี่ยงที่ยอมรับได้:** หากคุณมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ต่ำ ควรใช้ Trailing Amount ที่แคบกว่า
• **การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting):** ควรทดสอบย้อนหลังด้วย Trailing Amount ที่แตกต่างกัน เพื่อหาค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

1. 1. 1. ตัวอย่างการใช้ Trailing Stop ในไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น และคุณตัดสินใจซื้อ Call Option ที่ราคา 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คุณสามารถตั้งค่า Trailing Stop ไว้ที่ 10 ดอลลาร์ใต้ราคาปัจจุบัน

• หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็น 1,820 ดอลลาร์ Trailing Stop จะเลื่อนขึ้นตามไปด้วย และตั้งอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์
• หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็น 1,850 ดอลลาร์ Trailing Stop จะเลื่อนขึ้นตามไปด้วย และตั้งอยู่ที่ 1,840 ดอลลาร์
• หากราคาทองคำปรับตัวลดลงและลดลงมาที่ 1,810 ดอลลาร์ คำสั่งขาย Call Option จะถูกดำเนินการทันที เพื่อล็อคผลกำไรที่ 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

1. 1. 1. เทคนิคเพิ่มเติมในการใช้ Trailing Stop

• **ใช้ร่วมกับ Indicators:** ใช้ Trailing Stop ร่วมกับ Indicators ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, RSI, หรือ MACD เพื่อช่วยยืนยันทิศทางของราคา และปรับปรุงความแม่นยำในการตั้งค่า Trailing Amount
• **ปรับ Trailing Amount ตามสถานการณ์:** อย่ากลัวที่จะปรับ Trailing Amount ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น หากความผันผวนของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น คุณอาจจำเป็นต้องปรับ Trailing Amount ให้กว้างขึ้น
• **พิจารณาค่า Commission:** พิจารณาค่า Commission ที่คุณต้องจ่ายเมื่อทำการซื้อขาย เพราะค่า Commission อาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของคุณ
• **ฝึกฝนและทดสอบ:** ฝึกฝนและทดสอบการใช้ Trailing Stop ในบัญชี Demo ก่อนที่จะนำไปใช้จริงในบัญชีจริง

1. 1. 1. ความสัมพันธ์กับแนวคิดอื่นๆ ในการเทรด

• **Risk Management:** Trailing Stop เป็นเครื่องมือสำคัญในการ Risk Management เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรด
• **Position Sizing:** การกำหนดขนาด Position (จำนวนเงินที่คุณลงทุนในแต่ละการเทรด) ร่วมกับ Trailing Stop จะช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• **Technical Analysis:** การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น การระบุแนวโน้ม (Trends) และระดับแนวรับแนวต้าน จะช่วยให้คุณตั้งค่า Trailing Stop ได้อย่างเหมาะสม
• **Volatility:** การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความผันผวน (Volatility) ของสินทรัพย์ จะช่วยให้คุณเลือก Trailing Amount ที่เหมาะสม

1. 1. 1. สรุป

Trailing Stop เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่น ช่วยให้คุณล็อคผลกำไรและจำกัดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจหลักการทำงาน วิธีการตั้งค่า และการประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การเทรดต่างๆ จะช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

1. 1. 1. ลิงก์เพิ่มเติม

• ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร
• Stop-Loss Order
• Risk Management
• Technical Analysis
• Volatility
• Moving Averages
• RSI
• MACD
• Trend Following
• Breakout Trading
• Reversal Trading
• Scalping
• Position Sizing
• การวิเคราะห์เชิงปริมาณ
• การจัดการเงินทุน (Financial trading) - เป็นหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเงินทั้งหมด รวมถึงการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) - หมวดหมู่เฉพาะสำหรับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Trading Tools) - หมวดหมู่สำหรับเครื่องมือที่นักเทรดใช้ในการวิเคราะห์และดำเนินการซื้อขาย (Risk Management) - หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคและกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงในการเทรด (Trading Strategies) - หมวดหมู่สำหรับกลยุทธ์ต่างๆ ที่นักเทรดใช้ในการทำกำไร

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น