การศึกษาเกี่ยวกับ Fakeouts

1. การศึกษาเกี่ยวกับ Fakeouts

บทนำ

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์คือการแยกแยะระหว่างสัญญาณการซื้อขายที่แท้จริงกับ Fakeouts หรือสัญญาณหลอกลวง Fakeouts คือสถานการณ์ที่ราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวในทิศทางหนึ่งชั่วขณะหนึ่ง ทำให้ดูเหมือนว่าแนวโน้มจะเกิดขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตัวและเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม การเข้าใจและระบุ Fakeouts ได้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน บทความนี้จะเจาะลึกถึงลักษณะของ Fakeouts สาเหตุที่เกิดขึ้น วิธีการระบุ และกลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงหรือใช้ประโยชน์จากพวกมัน

Fakeouts คืออะไร?

Fakeouts เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์ทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ แต่การทะลุนี้ไม่ยั่งยืนและราคาจะกลับเข้าสู่ช่วงเดิมอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้อาจทำให้เทรดเดอร์ที่เชื่อว่าการทะลุเป็นสัญญาณจริงเข้าซื้อหรือขายตำแหน่งที่ผิดพลาด นำไปสู่การขาดทุนได้

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าราคาของคู่เงิน EUR/USD เคลื่อนที่ขึ้นและเข้าใกล้ระดับแนวต้านที่ 1.1000 เทรดเดอร์บางคนอาจคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุแนวต้านนี้และเปิดสถานะซื้อ (Call Option) อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุ 1.1000 เพียงเล็กน้อยแล้วกลับลดลงอย่างรวดเร็ว นี่คือ Fakeout และเทรดเดอร์ที่เปิดสถานะซื้อจะขาดทุน

สาเหตุของการเกิด Fakeouts

มีปัจจัยหลายประการที่สามารถทำให้เกิด Fakeouts ได้:

**สภาพคล่องต่ำ:** ในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องต่ำ การซื้อขายเพียงไม่กี่รายการก็สามารถทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญได้ ทำให้เกิดการทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่ผิดพลาด
**ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ:** การประกาศข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจสามารถทำให้เกิดความผันผวนของราคาอย่างมาก และอาจนำไปสู่ Fakeouts ได้
**การแทรกแซงของตลาด:** ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด (เช่น สถาบันการเงิน หรือ ธนาคารกลาง) อาจแทรกแซงตลาดเพื่อควบคุมราคา ซึ่งอาจทำให้เกิด Fakeouts ได้
**การล่า Stop-Loss:** เทรดเดอร์บางรายอาจจงใจสร้าง Fakeouts เพื่อกระตุ้นให้เทรดเดอร์รายอื่นที่ตั้ง Stop-Loss ไว้ใกล้กับระดับแนวรับหรือแนวต้านถูกบังคับให้ปิดสถานะของตน
**การปรับฐาน (Retracements) และการแก้ไข (Corrections):** ในตลาดที่มีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคาอาจมีการปรับฐานหรือแก้ไขชั่วคราว ซึ่งอาจดูเหมือน Fakeouts ได้

วิธีการระบุ Fakeouts

การระบุ Fakeouts ได้อย่างแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ต่อไปนี้คือวิธีการบางส่วนที่สามารถใช้ได้:

**ยืนยันด้วยตัวชี้วัดทางเทคนิค:** ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายตัวเพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากราคาทะลุแนวต้าน แต่ RSI (Relative Strength Index) ไม่ได้อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป อาจเป็นสัญญาณของ Fakeout
**สังเกตปริมาณการซื้อขาย:** การทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่แท้จริงมักจะมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง หากปริมาณการซื้อขายต่ำในช่วงที่ราคาทะลุ อาจเป็นสัญญาณของ Fakeout
**ใช้กรอบเวลาที่สูงขึ้น:** ตรวจสอบกรอบเวลาที่สูงขึ้นเพื่อดูภาพรวมของแนวโน้ม หากการทะลุในกรอบเวลาที่ต่ำกว่าไม่สอดคล้องกับแนวโน้มในกรอบเวลาที่สูงกว่า อาจเป็นสัญญาณของ Fakeout
**รอการยืนยัน:** อย่ารีบเปิดสถานะทันทีที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ให้รอการยืนยัน เช่น การที่ราคายังคงเคลื่อนที่ในทิศทางเดิมหลังจากทะลุแล้ว
**ใช้รูปแบบแท่งเทียน:** รูปแบบแท่งเทียนบางรูปแบบ เช่น Doji, Engulfing Pattern หรือ Hammer สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคาและอาจช่วยระบุ Fakeouts ได้
**พิจารณาแนวโน้มโดยรวม:** การเข้าใจ แนวโน้ม โดยรวมของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ หากการทะลุแนวรับหรือแนวต้านขัดแย้งกับแนวโน้มโดยรวม อาจเป็นสัญญาณของ Fakeout

กลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงหรือใช้ประโยชน์จาก Fakeouts

มีกลยุทธ์หลายอย่างที่เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อหลีกเลี่ยงหรือใช้ประโยชน์จาก Fakeouts:

**การรอการยืนยัน:** ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การรอการยืนยันเป็นวิธีที่ดีในการหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะที่ผิดพลาดเนื่องจาก Fakeouts
**การใช้ Stop-Loss:** ตั้งค่า Stop-Loss ที่ระดับที่เหมาะสมเพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์
**การใช้ Take-Profit:** ตั้งค่า Take-Profit ที่ระดับที่เหมาะสมเพื่อทำกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมายของคุณ
**การเทรดในช่วงพัก (Range Trading):** หากราคาเคลื่อนที่อยู่ในช่วงที่แคบและมีการเกิด Fakeouts บ่อยครั้ง การเทรดในช่วงพักอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม
**การเทรด Breakout ที่ล้มเหลว (Failed Breakout Trading):** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่สถานะตรงกันข้ามกับการทะลุที่ล้มเหลว ตัวอย่างเช่น หากราคาทะลุแนวต้าน แต่กลับลดลงอย่างรวดเร็ว คุณสามารถเปิดสถานะขาย (Put Option) ได้
**การใช้ Pin Bar:** Pin Bar เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคาและอาจช่วยระบุ Fakeouts ได้
**การใช้ Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement สามารถช่วยระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเป็นจุดกลับตัวของราคา
**การใช้ Moving Averages:** Moving Averages สามารถช่วยระบุแนวโน้มและอาจช่วยกรองสัญญาณ Fakeouts ได้
**การใช้ Bollinger Bands:** Bollinger Bands สามารถช่วยระบุภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป และอาจช่วยระบุ Fakeouts ได้
**การใช้ MACD:** MACD (Moving Average Convergence Divergence) เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่สามารถช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและอาจช่วยระบุ Fakeouts ได้
**การใช้ Ichimoku Cloud:** Ichimoku Cloud เป็นระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อนที่สามารถช่วยระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน และสัญญาณการซื้อขาย
**การใช้ Volume Spread Analysis (VSA):** Volume Spread Analysis เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายที่สามารถช่วยระบุการสะสมและการกระจายสินทรัพย์
**การใช้ Order Block:** Order Block คือช่วงราคาที่ผู้เล่นรายใหญ่สะสมหรือกระจายสินทรัพย์ การระบุ Order Block สามารถช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
**การใช้ Support and Resistance Zones:** Support and Resistance Zones คือพื้นที่ที่ราคามีแนวโน้มที่จะหยุดหรือกลับตัว การระบุ Support and Resistance Zones สามารถช่วยเทรดเดอร์ตัดสินใจว่าจะเข้าหรือออกจากตลาดเมื่อใด
**การใช้ Pivot Points:** Pivot Points เป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่คำนวณจากราคาของวันก่อนหน้า การใช้ Pivot Points สามารถช่วยเทรดเดอร์ระบุระดับราคาที่สำคัญ

ตัวอย่างสถานการณ์

สมมติว่าคุณกำลังซื้อขายคู่เงิน GBP/USD ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง คุณสังเกตเห็นว่าราคาได้ทะลุระดับแนวต้านที่ 1.2500 แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ และ RSI ไม่ได้อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป คุณตัดสินใจที่จะไม่เปิดสถานะซื้อทันที และรอการยืนยัน

หลังจากนั้นไม่นาน ราคาของ GBP/USD ก็ลดลงอย่างรวดเร็วและกลับเข้าสู่ช่วงเดิม นี่คือ Fakeout และคุณหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะที่ผิดพลาดได้

สรุป

Fakeouts เป็นความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจสาเหตุ วิธีการระบุ และกลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงหรือใช้ประโยชน์จากพวกมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการประสบความสำเร็จ การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค การสังเกตปริมาณการซื้อขาย และการรอการยืนยันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ดูเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น