การวิเคราะห์ Pivot Points
- การวิเคราะห์ Pivot Points
การวิเคราะห์ Pivot Points เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาดไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) ด้วย บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่ออธิบายแนวคิดพื้นฐาน การคำนวณ และวิธีการนำ Pivot Points ไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น
- Pivot Points คืออะไร?
Pivot Points คือระดับราคาที่คาดการณ์ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้ม (Trend) ของราคาในอนาคต โดยอิงจากข้อมูลราคาในอดีต จุดเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ราคาสูงสุด (High), ราคาต่ำสุด (Low) และราคาปิด (Close) ของช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน) นักเทรดใช้ Pivot Points เพื่อระบุแนวรับ (Support) แนวต้าน (Resistance) และจุดเข้า-ออก (Entry/Exit Points) ในการเทรด
- การคำนวณ Pivot Points
Pivot Points สามารถคำนวณได้โดยใช้สูตรดังต่อไปนี้:
- **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
- **Resistance Level 1 (R1):** (2 x PP) - Low
- **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High - Low)
- **Support Level 1 (S1):** (2 x PP) - High
- **Support Level 2 (S2):** PP - (High - Low)
- ตัวอย่าง:**
สมมติว่าราคาหุ้น XYZ ในวันนี้คือ:
- High: 105 บาท
- Low: 95 บาท
- Close: 100 บาท
ดังนั้น:
- PP = (105 + 95 + 100) / 3 = 100 บาท
- R1 = (2 x 100) - 95 = 105 บาท
- R2 = 100 + (105 - 95) = 110 บาท
- S1 = (2 x 100) - 105 = 95 บาท
- S2 = 100 - (105 - 95) = 90 บาท
- การนำ Pivot Points ไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
Pivot Points สามารถนำไปใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:
1. **การระบุแนวรับและแนวต้าน:** ระดับ Pivot Point, R1, R2, S1, และ S2 สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ นักเทรดสามารถคาดการณ์ว่าราคาจะเด้งกลับเมื่อเข้าใกล้ระดับเหล่านี้ หรือทะลุผ่านระดับเหล่านี้เพื่อไปยังระดับถัดไป การทำความเข้าใจ แนวรับแนวต้าน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ Pivot Points อย่างมีประสิทธิภาพ 2. **การกำหนดจุดเข้า-ออก:** เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Pivot Point นักเทรดสามารถพิจารณาเปิดออปชั่น โดยเลือก Call Option หากราคาคาดว่าจะทะลุแนวต้าน หรือ Put Option หากราคาคาดว่าจะทะลุแนวรับ การใช้ กลยุทธ์ Breakout ร่วมกับ Pivot Points สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ 3. **การยืนยันสัญญาณ:** Pivot Points สามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, RSI (Relative Strength Index), และ MACD (Moving Average Convergence Divergence) หากสัญญาณจากเครื่องมือเหล่านี้สอดคล้องกับระดับ Pivot Point จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณนั้น 4. **การตั้ง Stop Loss และ Take Profit:** นักเทรดสามารถใช้ระดับ Pivot Point เพื่อตั้ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อจำกัดความเสี่ยงและล็อคกำไร ตัวอย่างเช่น หากเปิด Call Option ที่ระดับ R1 สามารถตั้ง Stop Loss ที่ระดับ PP หรือ S1 และ Take Profit ที่ระดับ R2 5. **การเทรดในช่วงตลาด Sideways:** Pivot Points มีประโยชน์อย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน (Sideways Market) การเทรดระหว่างแนวรับและแนวต้านที่สร้างจาก Pivot Points สามารถสร้างผลกำไรได้สม่ำเสมอ การใช้ กลยุทธ์ Range Trading ร่วมกับ Pivot Points เหมาะสมอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้
- การปรับแต่ง Pivot Points
นอกเหนือจากการคำนวณ Pivot Points แบบมาตรฐานแล้ว นักเทรดสามารถปรับแต่ง Pivot Points ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์:
- **Pivot Points แบบ Fibonacci:** ใช้ระดับ Fibonacci Retracement เพื่อสร้างระดับ Pivot Point ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- **Pivot Points แบบ Woodie's:** ใช้สูตรที่แตกต่างกันเพื่อคำนวณ Pivot Points โดยเน้นที่การระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- **Pivot Points แบบ Multiple Timeframes:** วิเคราะห์ Pivot Points ในหลายช่วงเวลา (เช่น รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน) เพื่อยืนยันสัญญาณและระบุระดับสำคัญ
- ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Pivot Points
- ข้อดี:**
- **ใช้งานง่าย:** การคำนวณ Pivot Points ไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่าย
- **มีประสิทธิภาพ:** Pivot Points สามารถระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้อย่างแม่นยำ
- **ใช้งานได้หลากหลาย:** Pivot Points สามารถนำไปใช้ในการเทรดได้หลายรูปแบบ
- **เป็นเครื่องมือยืนยัน:** Pivot Points สามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
- ข้อเสีย:**
- **ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ:** Pivot Points ไม่สามารถคาดการณ์ราคาได้อย่างแม่นยำเสมอไป
- **อาจมีสัญญาณหลอก:** ราคาอาจทะลุผ่านระดับ Pivot Point แล้วกลับตัว ทำให้เกิดสัญญาณหลอก
- **ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** Pivot Points ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Pivot Points
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Pivot Points:
- กลยุทธ์ 1: การเทรด Breakout Pivot Point**
- **เงื่อนไข:** รอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ R1 หรือ S1
- **สัญญาณ:**
* หากราคาทะลุระดับ R1 ขึ้นไป ให้เปิด Call Option * หากราคาทะลุระดับ S1 ลงมา ให้เปิด Put Option
- **Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ที่ระดับ PP
- **Take Profit:** ตั้ง Take Profit ที่ระดับ R2 (สำหรับ Call Option) หรือ S2 (สำหรับ Put Option)
- กลยุทธ์ 2: การเทรด Reversal Pivot Point**
- **เงื่อนไข:** รอให้ราคาเข้าใกล้ระดับ R1 หรือ S1 แล้วเกิดการปฏิเสธ (Rejection)
- **สัญญาณ:**
* หากราคาเข้าใกล้ระดับ R1 แล้วเกิดการปฏิเสธ ให้เปิด Put Option * หากราคาเข้าใกล้ระดับ S1 แล้วเกิดการปฏิเสธ ให้เปิด Call Option
- **Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss ที่ระดับ R1 (สำหรับ Put Option) หรือ S1 (สำหรับ Call Option)
- **Take Profit:** ตั้ง Take Profit ที่ระดับ PP
- การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) ร่วมกับ Pivot Points
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) เป็นสิ่งสำคัญที่ควรนำมาใช้ร่วมกับ Pivot Points เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวรับและแนวต้าน หากมีการซื้อขายจำนวนมากเกิดขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ Pivot Point แสดงว่าระดับนั้นมีความสำคัญและมีโอกาสสูงที่ราคาจะเด้งกลับ หรือทะลุผ่านระดับนั้นไปได้ การใช้ Volume Weighted Average Price (VWAP) ร่วมกับ Pivot Points จะช่วยให้เข้าใจแรงซื้อขายในตลาดได้ดียิ่งขึ้น
- การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ในการเทรด Pivot Points
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม:
- **กำหนดขนาดการลงทุน:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
- **ใช้ Stop Loss:** ตั้ง Stop Loss เสมอเพื่อจำกัดความเสี่ยง
- **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนในออปชั่นเดียว
- **ทำความเข้าใจความเสี่ยง:** ทำความเข้าใจความเสี่ยงของไบนารี่ออปชั่นก่อนทำการลงทุน
- สรุป
การวิเคราะห์ Pivot Points เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดไบนารี่ออปชั่นทุกระดับ ด้วยความเข้าใจในหลักการคำนวณและการนำไปใช้ คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดได้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถคาดการณ์ราคาได้อย่างแม่นยำเสมอไป ดังนั้น การใช้ Pivot Points ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน กลยุทธ์การเทรด การบริหารความเสี่ยง ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร Moving Averages RSI (Relative Strength Index) MACD (Moving Average Convergence Divergence) Bollinger Bands Fibonacci Retracement กลยุทธ์ Breakout กลยุทธ์ Range Trading Candlestick Patterns Volume Weighted Average Price (VWAP) การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การเทรดในช่วงตลาด Sideways การยืนยันสัญญาณ การตั้ง Stop Loss และ Take Profit
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
