การวิเคราะห์ Pivot Point
- การวิเคราะห์ Pivot Point
การวิเคราะห์ Pivot Point เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงิน รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) ด้วย บทความนี้จะอธิบายถึงหลักการทำงาน การคำนวณ และการประยุกต์ใช้ Pivot Point สำหรับผู้เริ่มต้นอย่างละเอียด
Pivot Point คืออะไร?
Pivot Point คือระดับราคาที่สำคัญซึ่งถูกคำนวณจากราคาของวันก่อนหน้า (High, Low, Close) และถูกใช้เพื่อคาดการณ์แนวรับ (Support) แนวต้าน (Resistance) และจุดกลับตัวของราคาในวันปัจจุบัน แนวคิดเบื้องหลัง Pivot Point คือ ราคาในอดีตมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับราคาที่เคยมีนัยสำคัญในอดีต มักจะกลายเป็นจุดที่ราคาอาจหยุดหรือกลับตัว
การคำนวณ Pivot Point
การคำนวณ Pivot Point มีหลายวิธี แต่สูตรที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ:
- **Pivot Point (PP):** (High + Low + Close) / 3
- **Resistance Level 1 (R1):** (2 x PP) – Low
- **Resistance Level 2 (R2):** PP + (High – Low)
- **Support Level 1 (S1):** (2 x PP) – High
- **Support Level 2 (S2):** PP – (High – Low)
| ระดับราคา | สูตรการคำนวณ | |---|---| | Pivot Point (PP) | (High + Low + Close) / 3 | | Resistance Level 1 (R1) | (2 x PP) – Low | | Resistance Level 2 (R2) | PP + (High – Low) | | Support Level 1 (S1) | (2 x PP) – High | | Support Level 2 (S2) | PP – (High – Low) |
- ตัวอย่าง:**
สมมติว่าราคาของสินทรัพย์ในวันก่อนหน้าคือ:
- High: 1.1200
- Low: 1.1000
- Close: 1.1100
การคำนวณ Pivot Point จะเป็นดังนี้:
- PP: (1.1200 + 1.1000 + 1.1100) / 3 = 1.1100
- R1: (2 x 1.1100) – 1.1000 = 1.1200
- R2: 1.1100 + (1.1200 – 1.1000) = 1.1300
- S1: (2 x 1.1100) – 1.1200 = 1.1000
- S2: 1.1100 – (1.1200 – 1.1000) = 1.0900
การประยุกต์ใช้ Pivot Point ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น
Pivot Point สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:
1. **การระบุแนวรับและแนวต้าน:** ระดับ Pivot Point, R1, R2, S1, และ S2 สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้ หากราคาเข้าใกล้แนวรับ อาจพิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Call Option) และหากราคาเข้าใกล้แนวต้าน อาจพิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option) 2. **การยืนยันสัญญาณ:** Pivot Point สามารถใช้เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จาก เครื่องมือทางเทคนิค (Technical Indicators) อื่นๆ เช่น Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่), RSI (Relative Strength Index), หรือ MACD (Moving Average Convergence Divergence) 3. **การตั้งเป้าหมายทำกำไร:** ระดับ R1 และ R2 สามารถใช้เป็นเป้าหมายทำกำไรสำหรับการซื้อ (Call Option) ในขณะที่ระดับ S1 และ S2 สามารถใช้เป็นเป้าหมายทำกำไรสำหรับการขาย (Put Option) 4. **การตั้งจุดตัดขาดทุน:** ระดับ S1 และ R1 สามารถใช้เป็นจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรด 5. **การเทรด Breakout:** หากราคา Breakout (ทะลุ) ระดับแนวต้าน R2 อาจเป็นสัญญาณของการขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง และสามารถเปิดสถานะซื้อได้ ในทางกลับกัน หากราคา Breakout ระดับแนวรับ S2 อาจเป็นสัญญาณของการลงราคาอย่างต่อเนื่อง และสามารถเปิดสถานะขายได้ 6. **การผสมผสานกับรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การสังเกต รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) บริเวณระดับ Pivot Point จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด เช่น การเกิด Doji (โดจิ) หรือ Engulfing Pattern (เอ็นกัลฟิ่ง) ที่แนวรับ อาจเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้น
กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นโดยใช้ Pivot Point
- **Pivot Point Bounce Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ (Call Option) เมื่อราคาแตะหรือเข้าใกล้ระดับ Support และขาย (Put Option) เมื่อราคาแตะหรือเข้าใกล้ระดับ Resistance
- **Pivot Point Breakout Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อ (Call Option) เมื่อราคา Breakout ระดับ Resistance และขาย (Put Option) เมื่อราคา Breakout ระดับ Support
- **Pivot Point Confirmation Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ Pivot Point ร่วมกับ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis Tools) อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณเทรด
- **Pivot Point Reversal Strategy:** กลยุทธ์นี้มองหารูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของราคา บริเวณระดับ Pivot Point
- **Multiple Timeframe Pivot Point Strategy:** ใช้ Pivot Point จากหลายกรอบเวลา (Timeframe) เพื่อยืนยันสัญญาณเทรด ตัวอย่างเช่น การใช้ Pivot Point รายวันร่วมกับ Pivot Point รายชั่วโมง
ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Pivot Point
- ข้อดี:**
- **ใช้งานง่าย:** การคำนวณ Pivot Point ไม่ซับซ้อน และสามารถทำได้ง่าย
- **เป็นที่นิยม:** Pivot Point เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้มีข้อมูลและแหล่งอ้างอิงมากมาย
- **มีความแม่นยำ:** Pivot Point สามารถระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้อย่างแม่นยำ
- **สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** Pivot Point สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรด
- ข้อเสีย:**
- **อาจไม่แม่นยำเสมอไป:** Pivot Point ไม่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างถูกต้องเสมอไป
- **ความล่าช้า:** Pivot Point เป็นเครื่องมือที่อิงกับข้อมูลในอดีต อาจมีความล่าช้าในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
- **ต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ Pivot Point ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
การจัดการความเสี่ยง (Risk Management) เมื่อใช้ Pivot Point
- **Stop Loss:** ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ระดับ S1 หรือ R1 เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรด
- **Position Sizing:** กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ความเสี่ยงเกินกว่าที่รับได้
- **Risk/Reward Ratio:** พิจารณา Risk/Reward Ratio ก่อนเปิดสถานะเทรด ควรเลือกสถานะที่มี Risk/Reward Ratio ที่คุ้มค่า
- **Diversification:** กระจายความเสี่ยงโดยการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) ร่วมกับ Pivot Point
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Pivot Point ได้ ตัวอย่างเช่น:
- หากราคา Breakout ระดับ Resistance พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่อไป
- หากราคาแตะระดับ Support แต่ปริมาณการซื้อขายลดลง แสดงว่าแรงซื้ออาจไม่แข็งแกร่ง และราคาอาจไม่สามารถกลับตัวได้
การใช้ Pivot Point ร่วมกับ Indicators อื่นๆ
การใช้ Pivot Point ร่วมกับ Bollinger Bands, Fibonacci Retracement, Ichimoku Cloud, และ Parabolic SAR สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มราคาได้ การผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและสามารถตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนวโน้ม (Trends) และ Pivot Point
การระบุแนวโน้มของตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ Pivot Point อย่างมีประสิทธิภาพ หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ควรเน้นการซื้อ (Call Option) ที่ระดับ Support และมองหาโอกาสในการขาย (Put Option) ที่ระดับ Resistance ในทางกลับกัน หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ควรเน้นการขาย (Put Option) ที่ระดับ Resistance และมองหาโอกาสในการซื้อ (Call Option) ที่ระดับ Support
การปรับปรุงกลยุทธ์ Pivot Point
การปรับปรุงกลยุทธ์ Pivot Point อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ สามารถทำได้โดยการ:
- **Backtesting:** ทดสอบกลยุทธ์กับข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินประสิทธิภาพ
- **Forward Testing:** ทดสอบกลยุทธ์กับข้อมูลปัจจุบันเพื่อประเมินความแม่นยำ
- **ปรับพารามิเตอร์:** ปรับพารามิเตอร์ของ Pivot Point หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- **ติดตามผลลัพธ์:** ติดตามผลลัพธ์ของการเทรดและวิเคราะห์ข้อผิดพลาดเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์
สรุป
การวิเคราะห์ Pivot Point เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการเทรดไบนารี่ออปชั่น ช่วยในการระบุแนวรับ แนวต้าน และจุดกลับตัวของราคา อย่างไรก็ตาม การใช้ Pivot Point เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน การศึกษาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถใช้ Pivot Point ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไบนารี่ออปชั่น Moving Average RSI MACD รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) Doji Engulfing Pattern เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis Tools) Bollinger Bands Fibonacci Retracement Ichimoku Cloud Parabolic SAR การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) แนวโน้ม (Trends) กลยุทธ์การเทรด (Trading Strategies) การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)
กลยุทธ์ Pivot Point Bounce กลยุทธ์ Pivot Point Breakout กลยุทธ์ Pivot Point Confirmation กลยุทธ์ Pivot Point Reversal กลยุทธ์ Multiple Timeframe Pivot Point การอ่านกราฟราคา การวิเคราะห์ตลาด การกำหนดเป้าหมายกำไร การลดความเสี่ยงในการลงทุน การเลือกโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
