การวิเคราะห์ Correlation ระหว่าง Forex และ Stock Market

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การวิเคราะห์ Correlation ระหว่าง Forex และ Stock Market

การลงทุนในตลาดการเงินนั้นมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ต่างๆ หนึ่งในแนวคิดสำคัญที่นักลงทุนและเทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าใจคือ “Correlation” หรือความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างตลาด Forex (Foreign Exchange) และตลาด Stock Market (ตลาดหุ้น) บทความนี้จะอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองตลาดนี้อย่างละเอียด โดยเน้นที่ประโยชน์ของการวิเคราะห์ Correlation สำหรับเทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรด

      1. ความหมายของ Correlation

Correlation หรือความสัมพันธ์ คือ สถิติที่ใช้วัดความเคลื่อนไหวร่วมกันของสินทรัพย์สองชนิด หรือมากกว่านั้น ค่า Correlation จะอยู่ระหว่าง -1 ถึง +1:

  • **+1:** หมายถึงสินทรัพย์ทั้งสองเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อสินทรัพย์หนึ่งขึ้น อีกสินทรัพย์หนึ่งก็จะขึ้นด้วย
  • **0:** หมายถึงไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ทั้งสอง การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หนึ่งไม่มีผลต่ออีกสินทรัพย์หนึ่ง
  • **-1:** หมายถึงสินทรัพย์ทั้งสองเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อสินทรัพย์หนึ่งขึ้น อีกสินทรัพย์หนึ่งก็จะลงด้วย

ในโลกแห่งความเป็นจริง การหา Correlation ที่สมบูรณ์แบบ (+1 หรือ -1) เป็นเรื่องยากมาก ส่วนใหญ่เราจะพบค่า Correlation ที่อยู่ระหว่างค่าเหล่านี้

      1. ความสัมพันธ์ระหว่าง Forex และ Stock Market

ความสัมพันธ์ระหว่าง Forex และ Stock Market ไม่ได้เป็นเส้นตรงเสมอไป และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะตลาดและปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ อย่างไรก็ตาม มีความสัมพันธ์บางอย่างที่สามารถสังเกตได้:

  • **Dollar Index (DXY) และ Stock Market:** โดยทั่วไปแล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีความสัมพันธ์แบบผกผัน (Negative Correlation) กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ (เช่น S&P 500, Dow Jones) เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น มักจะส่งผลให้บริษัทข้ามชาติในสหรัฐฯ มีกำไรลดลง เนื่องจากรายได้จากต่างประเทศเมื่อแปลงกลับมาเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีมูลค่าน้อยลง ทำให้หุ้นของบริษัทเหล่านี้ปรับตัวลง
  • **Commodity Currencies และราคาสินค้าโภคภัณฑ์:** สกุลเงินบางสกุล เช่น AUD (Australian Dollar), CAD (Canadian Dollar), NZD (New Zealand Dollar) มีความสัมพันธ์กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมันดิบ เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ เมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น สกุลเงินของประเทศเหล่านี้ก็จะแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นของประเทศเหล่านั้นด้วย
  • **Emerging Market Currencies และ Risk Sentiment:** สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) มักจะมีความสัมพันธ์กับความเชื่อมั่นของนักลงทุน (Risk Sentiment) เมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นสูง (Risk-On) พวกเขามักจะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นในตลาดเกิดใหม่ ทำให้สกุลเงินของประเทศเหล่านี้แข็งค่าขึ้น ในทางตรงกันข้าม เมื่อนักลงทุนมีความกังวล (Risk-Off) พวกเขามักจะหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเยนญี่ปุ่น ทำให้สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลง
      1. ปัจจัยที่มีผลต่อ Correlation

มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง Forex และ Stock Market ได้แก่:

  • **นโยบายการเงิน:** การตัดสินใจของธนาคารกลาง (เช่น การปรับขึ้นหรือลดลงของอัตราดอกเบี้ย) สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งตลาด Forex และ Stock Market ได้
  • **ตัวเลขเศรษฐกิจ:** การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ (เช่น GDP, อัตราการว่างงาน, อัตราเงินเฟ้อ) สามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลต่อทั้งสองตลาด
  • **เหตุการณ์ทางการเมือง:** เหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่คาดฝัน (เช่น การเลือกตั้ง, สงคราม, การเปลี่ยนแปลงนโยบาย) สามารถสร้างความผันผวนในตลาด และส่งผลต่อ Correlation
  • **Risk Sentiment:** ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการไหลของเงินทุนระหว่างตลาด Forex และ Stock Market
      1. การวิเคราะห์ Correlation สำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น

การวิเคราะห์ Correlation สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายวิธี:

  • **Diversification:** การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกระจายความเสี่ยง (Diversification) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่มี Correlation ต่ำ หรือเป็นลบ
  • **Hedging:** การใช้ Correlation เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์มีสถานะ Long ในหุ้นสหรัฐฯ พวกเขาสามารถเปิดสถานะ Short ในดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน
  • **Identifying Trading Opportunities:** การเปลี่ยนแปลงของ Correlation สามารถบ่งบอกถึงโอกาสในการเทรดได้ ตัวอย่างเช่น หากค่า Correlation ระหว่างดอลลาร์สหรัฐฯ และ S&P 500 เริ่มเปลี่ยนไปจากค่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มของตลาดกำลังจะเปลี่ยน
  • **Confirming Signals:** การใช้ Correlation เพื่อยืนยันสัญญาณจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Average, MACD, RSI
      1. ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Correlation ในการเทรดไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าเทรดเดอร์สังเกตเห็นว่าค่า Correlation ระหว่าง USD/JPY และ Nikkei 225 (ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น) มีค่าเป็นบวกค่อนข้างสูง (เช่น 0.7) ซึ่งหมายความว่าเมื่อค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลง ดัชนี Nikkei 225 มักจะปรับตัวขึ้นด้วย เทรดเดอร์สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้ดังนี้:

  • **Scenario 1: USD/JPY ขึ้น:** หากเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า USD/JPY จะปรับตัวขึ้น พวกเขาสามารถเปิดสถานะ Call ใน USD/JPY และสถานะ Call ใน Nikkei 225 ได้พร้อมกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
  • **Scenario 2: USD/JPY ลง:** หากเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า USD/JPY จะปรับตัวลง พวกเขาสามารถเปิดสถานะ Put ใน USD/JPY และสถานะ Put ใน Nikkei 225 ได้พร้อมกัน
      1. เครื่องมือและแหล่งข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ Correlation

มีเครื่องมือและแหล่งข้อมูลมากมายที่เทรดเดอร์สามารถใช้ในการวิเคราะห์ Correlation ได้:

  • **Trading Platforms:** แพลตฟอร์มเทรดหลายแห่ง (เช่น MetaTrader 4/5) มีเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ Correlation ในตัว
  • **Financial Websites:** เว็บไซต์ทางการเงินหลายแห่ง (เช่น Bloomberg, Reuters, Yahoo Finance) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Correlation ของสินทรัพย์ต่างๆ
  • **Statistical Software:** โปรแกรมสถิติ (เช่น Excel, R, Python) สามารถใช้ในการคำนวณ Correlation ได้ด้วยตนเอง
  • **Correlation Matrices:** ตาราง Correlation (Correlation Matrix) แสดงค่า Correlation ระหว่างสินทรัพย์หลายชนิดในรูปแบบตาราง ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์
      1. ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ Correlation

แม้ว่าการวิเคราะห์ Correlation จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่เทรดเดอร์ควรทราบ:

  • **Correlation is not Causation:** ความสัมพันธ์ไม่ได้หมายถึงความเป็นเหตุเป็นผล เพียงเพราะสินทรัพย์สองชนิดมีความสัมพันธ์กัน ไม่ได้หมายความว่าสินทรัพย์หนึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอีกสินทรัพย์หนึ่ง
  • **Correlation Can Change:** ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะตลาดและปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ
  • **Spurious Correlation:** บางครั้งอาจเกิดความสัมพันธ์ที่ผิดพลาด (Spurious Correlation) ซึ่งเกิดจากความบังเอิญหรือปัจจัยภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง
  • **Past Performance is Not Indicative of Future Results:** ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต
      1. กลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง
  • **Pairs Trading:** กลยุทธ์การเทรดที่ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์สองชนิดที่มี Correlation สูง
  • **Mean Reversion:** กลยุทธ์ที่คาดการณ์ว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
  • **Trend Following:** กลยุทธ์ที่ตามแนวโน้มของราคา
  • **Breakout Trading:** กลยุทธ์ที่เทรดเมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้าน
  • **Scalping:** กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรเล็กน้อยจากความผันผวนของราคา
  • **News Trading:** กลยุทธ์การเทรดที่ใช้ประโยชน์จากการประกาศข่าวสารทางเศรษฐกิจ
  • **Fibonacci Retracement:** การใช้ระดับ Fibonacci เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน
  • **Elliott Wave Theory:** การวิเคราะห์รูปแบบของคลื่นราคาเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม
  • **Bollinger Bands:** การใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวน
  • **Ichimoku Cloud:** การใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน
  • **Harmonic Patterns:** การระบุรูปแบบ Harmonic เพื่อคาดการณ์การกลับตัวของราคา
  • **Volume Spread Analysis (VSA):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อทำความเข้าใจแรงกดดันของตลาด
  • **Order Flow Analysis:** การวิเคราะห์การไหลของคำสั่งซื้อขายเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของตลาด
  • **Support and Resistance Levels:** การระบุระดับแนวรับและแนวต้านเพื่อคาดการณ์การกลับตัวของราคา
  • **Candlestick Patterns:** การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม
      1. สรุป

การวิเคราะห์ Correlation ระหว่าง Forex และ Stock Market เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับเทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น และนักลงทุน การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกระจายความเสี่ยง ป้องกันความเสี่ยง และระบุโอกาสในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Correlation ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

ตัวอย่าง Correlation ระหว่างสินทรัพย์
สินทรัพย์ 1 สินทรัพย์ 2 ค่า Correlation (โดยประมาณ) หมายเหตุ
USD/JPY Nikkei 225 0.7 Positive correlation, often move together
EUR/USD S&P 500 -0.3 Negative correlation, often move in opposite directions
ทองคำ USD -0.5 Negative correlation, often move in opposite directions
น้ำมันดิบ CAD 0.8 Positive correlation, Canada is a major oil exporter
AUD/USD ราคาทองแดง 0.6 Positive correlation, Australia is a major copper exporter

การบริหารความเสี่ยง | การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | กลยุทธ์การเทรด | ตลาดการเงิน | ไบนารี่ออปชั่น | Forex | หุ้น | สินทรัพย์ | การลงทุน | Risk Management | Diversification | Hedging | Economic Indicators | Political Events

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер