การวิเคราะห์ Binomial Tree Model
การวิเคราะห์ Binomial Tree Model
Binomial Tree Model หรือแบบจำลองทวินาม เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินมูลค่าของ ออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์ Binomial Tree Model อย่างละเอียด สำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่หลักการพื้นฐาน ไปจนถึงการประยุกต์ใช้และการคำนวณตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจที่ชัดเจนและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และการซื้อขายจริงได้
บทนำ
การประเมินมูลค่าของออปชั่นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เนื่องจากมูลค่าของออปชั่นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ (Time to Expiration) ความผันผวน (Volatility) และอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) แบบจำลอง Binomial Tree Model เป็นวิธีที่ช่วยให้เราสามารถประเมินมูลค่าของออปชั่นได้อย่างเป็นระบบและเข้าใจง่าย โดยการแบ่งช่วงเวลาจนถึงวันหมดอายุออกเป็นช่วงย่อยๆ และพิจารณาความเป็นไปได้ของราคาในแต่ละช่วงเวลา
หลักการพื้นฐานของ Binomial Tree Model
Binomial Tree Model ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสามารถเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงได้เพียงสองทิศทางในแต่ละช่วงเวลา (ขึ้นหรือลง) ซึ่งเป็นเหตุผลที่เรียกว่า "ทวินาม" (Binomial) หรือสองสถานะ
- ช่วงเวลา (Time Step): ระยะเวลาที่ใช้แบ่งช่วงเวลาทั้งหมดจนถึงวันหมดอายุของออปชั่น ยิ่งช่วงเวลาสั้นลงเท่าไร ความแม่นยำของแบบจำลองก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
- การเคลื่อนไหวของราคา (Price Movement): ในแต่ละช่วงเวลา ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะสามารถเคลื่อนไหวขึ้น (Up) หรือลง (Down) ได้
- อัตราการขึ้น (Up Factor - u): อัตราส่วนที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของราคาในแต่ละช่วงเวลา คำนวณได้จาก: u = eσ√Δt โดยที่ σ คือความผันผวน และ Δt คือระยะเวลาของแต่ละช่วงเวลา
- อัตราการลง (Down Factor - d): อัตราส่วนที่แสดงถึงการลดลงของราคาในแต่ละช่วงเวลา คำนวณได้จาก: d = 1/u หรือ d = e-σ√Δt
- อัตราความเสี่ยงเป็นกลาง (Risk-Neutral Rate - r): อัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในการคำนวณราคาออปชั่นภายใต้สมมติฐานว่านักลงทุนมีความเสี่ยงเป็นกลาง (Risk Neutral)
การสร้าง Binomial Tree
การสร้าง Binomial Tree เริ่มต้นจากการกำหนดราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง (S0) และจากนั้นคำนวณราคาของสินทรัพย์ในแต่ละช่วงเวลา โดยใช้ อัตราการขึ้น (u) และ อัตราการลง (d)
- ช่วงเวลาที่ 1:
* ราคาขึ้น: S1,up = S0 * u * ราคาลง: S1,down = S0 * d
- ช่วงเวลาที่ 2:
* ราคาขึ้นทั้งสองช่วงเวลา: S2,up,up = S1,up * u = S0 * u2 * ราคาขึ้นแล้วลง: S2,up,down = S1,up * d = S0 * u * d * ราคาลงแล้วขึ้น: S2,down,up = S1,down * u = S0 * d * u * ราคาลงทั้งสองช่วงเวลา: S2,down,down = S1,down * d = S0 * d2
เราสามารถทำซ้ำขั้นตอนนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงวันหมดอายุของออปชั่น ทำให้ได้โครงสร้างต้นไม้ที่แสดงถึงความเป็นไปได้ของราคาในแต่ละช่วงเวลา
การคำนวณมูลค่าออปชั่น ณ วันหมดอายุ
เมื่อถึงวันหมดอายุของออปชั่น เราสามารถคำนวณมูลค่าของออปชั่นได้โดยพิจารณาจากราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันนั้น และเงื่อนไขของออปชั่น
- Call Option: C = max(ST - K, 0) โดยที่ ST คือราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันหมดอายุ และ K คือราคาใช้สิทธิ (Strike Price)
- Put Option: P = max(K - ST, 0)
การคำนวณมูลค่าออปชั่นย้อนกลับ (Backward Induction)
หลังจากคำนวณมูลค่าของออปชั่น ณ วันหมดอายุแล้ว เราสามารถคำนวณมูลค่าของออปชั่นในแต่ละช่วงเวลาก่อนหน้านี้ได้ โดยใช้หลักการของ Dynamic Programming หรือการคำนวณย้อนกลับ (Backward Induction)
มูลค่าของออปชั่นในแต่ละช่วงเวลา สามารถคำนวณได้โดยการหาค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของมูลค่าออปชั่นในสองช่วงเวลาถัดไป โดยใช้ความน่าจะเป็นของแต่ละสถานการณ์ (การขึ้นหรือลง)
- Ct = e-rΔt [pCt+1,up + (1-p)Ct+1,down] สำหรับ Call Option
- Pt = e-rΔt [pPt+1,up + (1-p)Pt+1,down] สำหรับ Put Option
โดยที่:
- Ct และ Pt คือมูลค่าของ Call Option และ Put Option ในช่วงเวลา t
- Ct+1,up และ Ct+1,down คือมูลค่าของ Call Option ในช่วงเวลา t+1 ภายใต้สถานการณ์ราคาขึ้นและราคาลง
- Pt+1,up และ Pt+1,down คือมูลค่าของ Put Option ในช่วงเวลา t+1 ภายใต้สถานการณ์ราคาขึ้นและราคาลง
- p คือความน่าจะเป็นที่ราคาจะขึ้น ซึ่งสามารถคำนวณได้จาก p = (erΔt - d) / (u - d)
- r คืออัตราความเสี่ยงเป็นกลาง (Risk-Neutral Rate)
- Δt คือระยะเวลาของแต่ละช่วงเวลา
ตัวอย่างการคำนวณมูลค่าออปชั่นด้วย Binomial Tree Model
สมมติว่าเรามีออปชั่น Call Option ที่มีเงื่อนไขดังนี้:
- ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง (S0): 100 บาท
- ราคาใช้สิทธิ (K): 105 บาท
- ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ (T): 1 ปี
- อัตราดอกเบี้ย (r): 5% ต่อปี
- ความผันผวน (σ): 20% ต่อปี
- จำนวนช่วงเวลา (n): 3
ขั้นตอนการคำนวณ:
1. คำนวณ u และ d:
* Δt = T/n = 1/3 * u = e0.20√(1/3) ≈ 1.1225 * d = e-0.20√(1/3) ≈ 0.8909
2. สร้าง Binomial Tree:
* S1,up = 100 * 1.1225 = 112.25 * S1,down = 100 * 0.8909 = 89.09 * S2,up,up = 112.25 * 1.1225 = 126.04 * S2,up,down = 112.25 * 0.8909 = 100.00 * S2,down,up = 89.09 * 1.1225 = 100.00 * S2,down,down = 89.09 * 0.8909 = 79.37
3. คำนวณมูลค่าออปชั่น ณ วันหมดอายุ:
* C2,up,up = max(126.04 - 105, 0) = 21.04 * C2,up,down = max(100.00 - 105, 0) = 0 * C2,down,up = max(100.00 - 105, 0) = 0 * C2,down,down = max(79.37 - 105, 0) = 0
4. คำนวณ p:
* p = (e0.05(1/3) - 0.8909) / (1.1225 - 0.8909) ≈ 0.6667
5. คำนวณมูลค่าออปชั่นย้อนกลับ:
* C1,up = e-0.05(1/3) [0.6667 * 21.04 + (1-0.6667) * 0] = 14.02 * C1,down = e-0.05(1/3) [0.6667 * 0 + (1-0.6667) * 0] = 0 * C0 = e-0.05(1/3) [0.6667 * 14.02 + (1-0.6667) * 0] = 9.35
ดังนั้น มูลค่าของ Call Option ณ ปัจจุบันคือประมาณ 9.35 บาท
ข้อดีและข้อเสียของ Binomial Tree Model
ข้อดี:
- เข้าใจง่าย: หลักการของแบบจำลองค่อนข้างง่ายและสามารถเข้าใจได้ง่าย
- ยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนจำนวนช่วงเวลาได้ เพื่อให้ได้ความแม่นยำที่แตกต่างกัน
- สามารถใช้กับออปชั่นที่ซับซ้อน: สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับออปชั่นที่ซับซ้อน เช่น American Option ได้
- สามารถใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง: ช่วยให้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับออปชั่นได้
ข้อเสีย:
- ความแม่นยำ: ความแม่นยำของแบบจำลองขึ้นอยู่กับจำนวนช่วงเวลา ยิ่งจำนวนช่วงเวลามาก ความแม่นยำก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ก็จะทำให้การคำนวณซับซ้อนมากขึ้น
- สมมติฐาน: แบบจำลองตั้งอยู่บนสมมติฐานที่อาจไม่เป็นจริงในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น การเคลื่อนไหวของราคาเป็นแบบทวินาม
- การคำนวณ: การคำนวณด้วยมืออาจซับซ้อนสำหรับจำนวนช่วงเวลาที่มาก
การประยุกต์ใช้ Binomial Tree Model ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
Binomial Tree Model สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้ดังนี้:
- การประเมินมูลค่าที่เหมาะสม: ช่วยให้ทราบว่าราคาของไบนารี่ออปชั่นนั้นเหมาะสมหรือไม่
- การตัดสินใจในการซื้อขาย: ช่วยในการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายไบนารี่ออปชั่น
- การบริหารความเสี่ยง: ช่วยในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง
- Straddle: การซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง
- Strangle: คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Call Option และ Put Option ที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน
- Butterfly Spread: กลยุทธ์ที่ใช้ Call Option หรือ Put Option หลายตัว เพื่อจำกัดความเสี่ยงและทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางราคาที่แม่นยำ
- Covered Call: การขาย Call Option ในขณะที่มีสินทรัพย์อ้างอิงอยู่แล้ว เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
- Protective Put: การซื้อ Put Option ในขณะที่มีสินทรัพย์อ้างอิงอยู่แล้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคา
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
การใช้ Binomial Tree Model ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ราคาและตัดสินใจในการซื้อขายได้
- Moving Averages: ใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคา
- Relative Strength Index (RSI): ใช้เพื่อวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- MACD: ใช้เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย
- Volume Analysis: ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา
- Fibonacci Retracement: ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
แนวโน้มและข้อควรระวัง
การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง และควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนทำการซื้อขาย ควรเริ่มต้นด้วยการใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนและทำความเข้าใจกับตลาด
สรุป
Binomial Tree Model เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการประเมินมูลค่าของออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจหลักการและวิธีการใช้งานของแบบจำลองนี้ จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
การประเมินความเสี่ยง การบริหารเงินทุน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์เชิงปริมาณ การซื้อขายแบบอัลกอริทึม การกระจายความเสี่ยง Hedging Option Greeks Volatility Trading Time Decay Strike Price Expiration Date Binary Option Strategies Technical Indicators Trading Volume Market Trends (Category:Financial Modeling) - เป็น
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
