การลงทุน Credit Default Swaps (CDS)
- การลงทุน Credit Default Swaps (CDS)
- บทนำ**
Credit Default Swaps (CDS) หรือ สัญญาแลกเปลี่ยนความผิดนัดชำระหนี้ เป็นเครื่องมือทางการเงินอนุพันธ์ (Derivative) ที่ซับซ้อน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงินโลก แม้ว่า CDS จะถูกมองว่าเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) แต่ก็สามารถนำมาใช้ในการเก็งกำไร (Speculation) ได้เช่นกัน บทความนี้จะอธิบายถึง CDS อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงกลไกการทำงาน ความเสี่ยง และโอกาสในการลงทุน โดยจะเชื่อมโยงกับแนวคิดพื้นฐานทางการเงินอื่นๆ เช่น พันธบัตร และ ความเสี่ยงด้านเครดิต
- CDS คืออะไร?**
CDS เป็นสัญญาที่ฝ่ายหนึ่ง (ผู้ซื้อ CDS) จ่ายค่าพรีเมียม (Premium) เป็นระยะๆ ให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง (ผู้ขาย CDS) เพื่อแลกกับการคุ้มครองความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ผู้ออกตราสารหนี้ (Reference Entity) เกิดความผิดนัดชำระหนี้ (Default) พูดง่ายๆ คือ เป็นเหมือน "ประกันภัย" สำหรับพันธบัตรหรือสินเชื่อ
- กลไกการทำงานของ CDS**
ลองพิจารณาตัวอย่าง: นักลงทุนรายหนึ่งถือครองพันธบัตรของบริษัท ABC มูลค่า 1 ล้านบาท นักลงทุนกังวลว่าบริษัท ABC อาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นนักลงทุนจึงซื้อ CDS จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง โดยตกลงจ่ายพรีเมียม 1% ต่อปีของมูลค่าพันธบัตร (10,000 บาทต่อปี)
- **กรณีที่บริษัท ABC ไม่ผิดนัดชำระหนี้:** นักลงทุนจะจ่ายพรีเมียม 10,000 บาทต่อปีให้กับสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง และสัญญาสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนด
- **กรณีที่บริษัท ABC ผิดนัดชำระหนี้:** สถาบันการเงิน (ผู้ขาย CDS) จะชดเชยความเสียหายให้นักลงทุน โดยอาจจะจ่ายเงินสดเท่ากับมูลค่าพันธบัตร (1 ล้านบาท) หรือซื้อพันธบัตรที่ตกต่ำราคาจากนักลงทุน
- องค์ประกอบสำคัญของ CDS**
- **Reference Entity:** ผู้ออกตราสารหนี้ที่ CDS อ้างอิงถึง (เช่น บริษัท ABC ในตัวอย่างข้างต้น)
- **Reference Obligation:** ตราสารหนี้ที่ CDS อ้างอิงถึง (เช่น พันธบัตรของบริษัท ABC)
- **Notional Amount:** มูลค่าหน้าตระกูลของตราสารหนี้ที่ CDS คุ้มครอง (เช่น 1 ล้านบาท)
- **Premium:** ค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อ CDS จ่ายให้กับผู้ขาย CDS
- **Credit Event:** เหตุการณ์ที่ถือว่าผู้ออกตราสารหนี้ผิดนัดชำระหนี้ (เช่น การไม่จ่ายดอกเบี้ย หรือการปรับโครงสร้างหนี้)
- **Settlement:** วิธีการชดเชยความเสียหายเมื่อเกิด Credit Event (เช่น การจ่ายเงินสด หรือการส่งมอบตราสารหนี้)
- ประเภทของ CDS**
- **Single-Name CDS:** คุ้มครองความเสี่ยงจากความผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้รายเดียว (เช่น บริษัท ABC)
- **Index CDS:** คุ้มครองความเสี่ยงจากความผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มผู้ออกตราสารหนี้ (เช่น ดัชนีพันธบัตรองค์กร)
- **Basket CDS:** คุ้มครองความเสี่ยงจากความผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มผู้ออกตราสารหนี้ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- การประเมินมูลค่า CDS**
การประเมินมูลค่า CDS ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- **ความน่าจะเป็นของการผิดนัดชำระหนี้ (Probability of Default):** ยิ่งความน่าจะเป็นสูง พรีเมียม CDS ก็จะสูงขึ้น
- **Recovery Rate:** สัดส่วนของเงินที่คาดว่าจะได้รับคืนเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้ ยิ่ง Recovery Rate ต่ำ พรีเมียม CDS ก็จะสูงขึ้น
- **Credit Spread:** ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตสูง กับพันธบัตรที่ไม่มีความเสี่ยง (เช่น พันธบัตรรัฐบาล)
- **ระยะเวลาของสัญญา (Maturity):** สัญญาที่ยาวนานกว่ามักจะมีพรีเมียมสูงกว่า
- ความเสี่ยงในการลงทุน CDS**
- **Counterparty Risk:** ความเสี่ยงที่ผู้ขาย CDS จะไม่สามารถชดเชยความเสียหายได้เมื่อเกิด Credit Event โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ขาย CDS เป็นสถาบันการเงินที่มีปัญหาทางการเงิน
- **Basis Risk:** ความเสี่ยงที่การเคลื่อนไหวของราคา CDS จะไม่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคาตราสารหนี้อ้างอิง
- **Liquidity Risk:** ความเสี่ยงที่อาจไม่สามารถซื้อหรือขาย CDS ได้ในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน
- **Model Risk:** ความเสี่ยงที่แบบจำลองที่ใช้ในการประเมินมูลค่า CDS จะไม่ถูกต้อง
- โอกาสในการลงทุน CDS**
- **Hedging:** ใช้ CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ถือครองอยู่
- **Speculation:** เก็งกำไรจากการคาดการณ์ว่าความน่าจะเป็นของการผิดนัดชำระหนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
- **Arbitrage:** หาผลประโยชน์จากความแตกต่างของราคา CDS ในตลาดต่างๆ
- CDS กับวิกฤตการเงินปี 2008**
CDS มีบทบาทสำคัญในวิกฤตการเงินปี 2008 เนื่องจากมีการซื้อขาย CDS ที่อ้างอิงกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage-Backed Securities) ในปริมาณมากเกินไป เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์พังทลาย ผู้ออกตราสารหนี้จำนวนมากผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ผู้ขาย CDS ต้องเผชิญกับความเสียหายมหาศาล และนำไปสู่การล้มละลายของสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น Lehman Brothers
- CDS และ Binary Options: ความเชื่อมโยง**
แม้ว่า CDS จะเป็นเครื่องมืออนุพันธ์ที่ซับซ้อนกว่า Binary Options แต่ทั้งสองอย่างก็มีความเชื่อมโยงกันในแง่ของการจัดการความเสี่ยงและการเก็งกำไร นักลงทุนสามารถใช้ CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผิดนัดชำระหนี้ของสินทรัพย์ที่ใช้ในการลงทุน Binary Options ได้ และในทางกลับกัน Binary Options สามารถใช้เพื่อเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคา CDS ได้
- กลยุทธ์การลงทุน CDS ที่เกี่ยวข้อง**
- **Credit Spread Trading:** เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตสูง กับพันธบัตรที่ไม่มีความเสี่ยง
- **Curve Trading:** เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างของเส้นโค้ง CDS (CDS curve)
- **Correlation Trading:** เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่าง CDS ของผู้ออกตราสารหนี้ต่างๆ
- **Volatility Trading:** เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนของราคา CDS
- **Delta Hedging:** ใช้ CDS เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาตราสารหนี้อ้างอิง
- **Gamma Hedging:** ใช้ CDS เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ Delta ของ CDS
- **Vega Hedging:** ใช้ CDS เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความผันผวนของราคา CDS
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย CDS**
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบราคาของ CDS ได้ เช่น การใช้ Moving Averages หรือ Relative Strength Index (RSI) การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยในการประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัว
- ตัวชี้วัด (Indicators) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ CDS**
- **CDS Spread:** ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนของ CDS กับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล
- **Implied Probability of Default:** ความน่าจะเป็นของการผิดนัดชำระหนี้ที่คำนวณจากราคา CDS
- **Recovery Rate:** สัดส่วนของเงินที่คาดว่าจะได้รับคืนเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้
- **Liquidity Metrics:** ตัวชี้วัดที่แสดงถึงสภาพคล่องของตลาด CDS
- แนวโน้มของตลาด CDS**
- **การกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น:** หลังจากวิกฤตการเงินปี 2008 หน่วยงานกำกับดูแลได้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลตลาด CDS เพื่อลดความเสี่ยงเชิงระบบ
- **การทำธุรกรรมผ่าน Central Clearing:** การทำธุรกรรม CDS ผ่าน Central Clearinghouse ช่วยลด Counterparty Risk
- **การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ:** มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ CDS ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลาย
- ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม**
- **ความซับซ้อน:** CDS เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนทำการลงทุน
- **ความเสี่ยง:** การลงทุน CDS มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่ตนเองสามารถรับได้ก่อนทำการลงทุน
- **กฎหมาย:** กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ CDS อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ผู้ลงทุนควรตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนทำการลงทุน
- สรุป**
CDS เป็นเครื่องมือทางการเงินอนุพันธ์ที่สำคัญ ซึ่งสามารถใช้ในการป้องกันความเสี่ยงและเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม การลงทุน CDS มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนทำการลงทุน และควรพิจารณาความเสี่ยงที่ตนเองสามารถรับได้
| **Credit Default Swaps (CDS)** | **Binary Options** | | ป้องกันความเสี่ยงด้านเครดิต, เก็งกำไรจากความผิดนัดชำระหนี้ | เก็งกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์ | | สูง | ปานกลางถึงต่ำ | | สูง | สูง | | ตั้งแต่ระยะสั้นถึงระยะยาว | ระยะสั้น (หมดอายุภายในไม่กี่นาทีถึงหลายวัน) | | ขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างพรีเมียมและมูลค่าความเสียหาย | กำหนดไว้ล่วงหน้า (Fixed payout) | |
การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ตลาด การลงทุนในอนุพันธ์ การลงทุนระยะยาว การลงทุนระยะสั้น การกระจายความเสี่ยง การสร้างพอร์ตการลงทุน การจัดการเงินทุน การวิเคราะห์พื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง Fibonacci Retracement Bollinger Bands MACD Stochastic Oscillator Ichimoku Cloud Elliott Wave Theory การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายขั้นสูง Order Flow Analysis Volume Profile Market Depth Algorithmic Trading (Category:Derivatives)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
