การลงทุน Asset-Backed Securities (ABS)

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การลงทุน Asset-Backed Securities (ABS) สำหรับผู้เริ่มต้น

Asset-Backed Securities (ABS) หรือ หลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่ออธิบาย ABS ให้กับผู้เริ่มต้นอย่างละเอียด รวมถึงโครงสร้าง กลไกการทำงาน ประเภทต่างๆ ความเสี่ยง และวิธีการประเมินมูลค่า โดยจะเชื่อมโยงแนวคิดเหล่านี้กับโลกของการลงทุนโดยรวม รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนที่อาจนำไปใช้ได้ เพื่อให้เข้าใจถึงภาพรวมของการลงทุนใน ABS อย่างครบถ้วน

    • ABS คืออะไร?**

ABS คือ หลักทรัพย์ที่ออกโดยสถาบันการเงิน โดยมีสินทรัพย์เป็นหลักประกัน (Collateral) เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต หรือหนี้เช่าซื้อต่างๆ สถาบันการเงินจะนำสินทรัพย์เหล่านี้มารวมกันเป็นพอร์ต (Pool) แล้วแปลงเป็นหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายในตลาดทุนได้ การทำเช่นนี้ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น และกระจายความเสี่ยงออกไป ในขณะที่นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากกระแสเงินสดที่เกิดจากสินทรัพย์ค้ำประกันเหล่านั้น

    • โครงสร้างของ ABS**

โครงสร้างของ ABS มักจะซับซ้อนและประกอบด้วยหลายส่วนประกอบหลัก ได้แก่:

  • **ผู้ก่อตั้ง (Originator):** สถาบันการเงินที่สร้างพอร์ตสินทรัพย์และขายให้กับ SPV
  • **SPV (Special Purpose Vehicle):** หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะเพื่อซื้อสินทรัพย์จากผู้ก่อตั้ง และออก ABS เพื่อระดมทุน SPV ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ก่อตั้งและนักลงทุน
  • **ผู้รับประกันความเสี่ยง (Credit Enhancer):** หน่วยงานที่ให้การรับประกันความเสี่ยงให้กับ ABS เช่น บริษัทประกัน หรือสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ ABS
  • **ผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee):** หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของนักลงทุน และตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆ
  • **นักลงทุน (Investor):** ผู้ที่ซื้อ ABS และได้รับผลตอบแทนจากกระแสเงินสดที่เกิดจากสินทรัพย์ค้ำประกัน
โครงสร้างของ ABS
องค์ประกอบ คำอธิบาย
ผู้ก่อตั้ง (Originator) สถาบันการเงินที่สร้างพอร์ตสินทรัพย์
SPV (Special Purpose Vehicle) หน่วยงานที่ซื้อสินทรัพย์และออก ABS
ผู้รับประกันความเสี่ยง (Credit Enhancer) หน่วยงานที่ให้การรับประกันความเสี่ยง
ผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) หน่วยงานที่ดูแลผลประโยชน์ของนักลงทุน
นักลงทุน (Investor) ผู้ที่ซื้อ ABS และรับผลตอบแทน
    • กลไกการทำงานของ ABS**

1. **การรวมกลุ่มสินทรัพย์:** สถาบันการเงินรวบรวมสินทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2. **การขายให้กับ SPV:** สถาบันการเงินขายพอร์ตสินทรัพย์ให้กับ SPV 3. **การออก ABS:** SPV ออก ABS โดยแบ่งออกเป็น Tranche ต่างๆ (ดูหัวข้อ Tranche ด้านล่าง) 4. **การจ่ายกระแสเงินสด:** กระแสเงินสดที่เกิดจากสินทรัพย์ค้ำประกัน (เช่น เงินผ่อนบ้าน) จะถูกส่งไปยัง SPV และ SPV จะจ่ายให้กับนักลงทุนตาม Tranche ที่ถือครอง

    • ประเภทของ ABS**

ABS มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับชนิดของสินทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่:

  • **MBS (Mortgage-Backed Securities):** หลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อบ้านเป็นหลักประกัน เป็น ABS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
  • **Auto Loan ABS:** หลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อรถยนต์เป็นหลักประกัน
  • **Credit Card ABS:** หลักทรัพย์ที่มีหนี้บัตรเครดิตเป็นหลักประกัน
  • **Student Loan ABS:** หลักทรัพย์ที่มีหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษาเป็นหลักประกัน
  • **Collateralized Loan Obligations (CLOs):** หลักทรัพย์ที่มีหนี้สินของบริษัทเป็นหลักประกัน
    • Tranche คืออะไร?**

Tranche คือ การแบ่ง ABS ออกเป็นระดับต่างๆ ตามลำดับความเสี่ยงและผลตอบแทน Tranche ที่มีความเสี่ยงต่ำจะได้รับผลตอบแทนที่ต่ำกว่า แต่มีโอกาสได้รับเงินต้นคืนสูงกว่า ในขณะที่ Tranche ที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินต้นคืนสูงกว่า Tranche ที่มีความเสี่ยงต่ำ การแบ่ง Tranche ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้

โดยทั่วไป Tranche จะแบ่งออกเป็น:

  • **Senior Tranche:** ระดับความเสี่ยงต่ำสุด ได้รับเงินต้นคืนก่อน
  • **Mezzanine Tranche:** ระดับความเสี่ยงปานกลาง
  • **Subordinate/Equity Tranche:** ระดับความเสี่ยงสูงสุด ได้รับเงินต้นคืนสุดท้าย
    • ความเสี่ยงของการลงทุนใน ABS**

การลงทุนใน ABS มีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนควรพิจารณา ได้แก่:

  • **ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk):** ความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ส่งผลให้กระแสเงินสดที่จ่ายให้กับนักลงทุนลดลง
  • **ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk):** ความเสี่ยงที่ ABS ไม่สามารถซื้อขายได้อย่างรวดเร็วในตลาด
  • **ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk):** ความเสี่ยงที่การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ ABS
  • **ความเสี่ยงด้านการก่อนชำระหนี้ (Prepayment Risk):** ความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนด ทำให้กระแสเงินสดที่นักลงทุนได้รับเปลี่ยนแปลงไป
  • **ความเสี่ยงจากโครงสร้าง (Structural Risk):** ความเสี่ยงที่โครงสร้างของ ABS มีข้อบกพร่อง ทำให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุน
    • การประเมินมูลค่า ABS**

การประเมินมูลค่า ABS เป็นเรื่องที่ซับซ้อน เนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่:

  • **คุณภาพของสินทรัพย์ค้ำประกัน:** พิจารณาอัตราการผิดนัดชำระหนี้ (Default Rate) และมูลค่าของการบังคับหลักประกัน (Recovery Rate)
  • **โครงสร้างของ Tranche:** พิจารณาลำดับความสำคัญในการได้รับเงินต้นคืน และอัตราผลตอบแทนของแต่ละ Tranche
  • **สภาวะตลาด:** พิจารณาอัตราดอกเบี้ย และความต้องการของนักลงทุน
  • **การวิเคราะห์กระแสเงินสด (Cash Flow Analysis):** คำนวณกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับจากสินทรัพย์ค้ำประกัน และนำมาคิดลด (Discount) เพื่อหามูลค่าปัจจุบัน
    • ABS กับ Binary Options: ความเชื่อมโยงและการประยุกต์ใช้**

แม้ว่า ABS และ Binary Options จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่ก็มีความเชื่อมโยงกันในแง่ของการบริหารความเสี่ยงและการคาดการณ์ทิศทางของตลาด

  • **การป้องกันความเสี่ยง:** นักลงทุนที่ถือครอง ABS สามารถใช้ Binary Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย หรือความเสี่ยงด้านเครดิตได้ ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น อาจซื้อ Binary Put Option บนพันธบัตรรัฐบาล
  • **การเก็งกำไร:** นักลงทุนที่คาดการณ์ทิศทางของตลาด ABS สามารถใช้ Binary Options เพื่อเก็งกำไรได้ ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนคาดว่าคุณภาพของสินทรัพย์ค้ำประกันจะแย่ลง อาจซื้อ Binary Put Option บน ABS
  • **การวิเคราะห์ความเสี่ยง:** การวิเคราะห์ความเสี่ยงของ ABS สามารถนำมาใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การซื้อขาย Binary Options ได้ ตัวอย่างเช่น หาก ABS มีความเสี่ยงด้านเครดิตสูง นักลงทุนอาจเลือกใช้กลยุทธ์การซื้อขาย Binary Options ที่เน้นการป้องกันความเสี่ยง
    • กลยุทธ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ABS และ Binary Options:**
  • **Hedging Strategies:** ใช้ Binary Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนใน ABS เช่น Straddle Strategy หรือ Strangle Strategy
  • **Directional Trading:** ใช้ Binary Options เพื่อเก็งกำไรจากทิศทางราคาของ ABS โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์พื้นฐานและ Technical Analysis
  • **Volatility Trading:** ใช้ Binary Options เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคา ABS โดยใช้ตัวชี้วัดเช่น Bollinger Bands หรือ Average True Range (ATR)
  • **Trend Following:** ใช้ Binary Options เพื่อตามเทรนด์ของราคา ABS โดยใช้เครื่องมือเช่น Moving Averages หรือ MACD
  • **Mean Reversion:** ใช้ Binary Options เพื่อคาดการณ์ว่าราคา ABS จะกลับสู่ค่าเฉลี่ย โดยใช้เครื่องมือเช่น Relative Strength Index (RSI)
    • การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):**

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย ABS และ Binary Options ที่เกี่ยวข้อง สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น On Balance Volume (OBV) หรือ Volume Price Trend (VPT)

    • ข้อควรระวังในการลงทุน ABS**
  • **ความซับซ้อน:** ABS เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน นักลงทุนควรทำความเข้าใจโครงสร้างและความเสี่ยงของ ABS อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
  • **ข้อมูล:** การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับ ABS เป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • **การกระจายความเสี่ยง:** การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนไม่ควรลงทุนใน ABS เพียงอย่างเดียว แต่ควรลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย
  • **การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:** หากนักลงทุนไม่แน่ใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน
    • สรุป**

การลงทุนใน ABS เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจโครงสร้าง กลไกการทำงาน ประเภทต่างๆ ความเสี่ยง และวิธีการประเมินมูลค่าของ ABS เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจลงทุนที่ถูกต้อง การเชื่อมโยงแนวคิดเหล่านี้กับโลกของการลงทุนโดยรวม รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนที่อาจนำไปใช้ได้ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เช่น Binary Options สามารถช่วยเสริมสร้างกลยุทธ์การลงทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อีกด้วย

การลงทุน หลักทรัพย์ ตราสารหนี้ ความเสี่ยง การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์ทางการเงิน อัตราดอกเบี้ย ตลาดทุน การประเมินมูลค่า การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง การวิเคราะห์พื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย การเงิน เศรษฐศาสตร์ การวางแผนการเงิน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер