การลงทุนใน Derivatives

1. การลงทุนใน Derivatives

ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อน แต่ก็มีประโยชน์อย่างมากในการบริหารความเสี่ยง และแสวงหาผลกำไรในตลาดการเงิน บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของการลงทุนใน Derivatives สำหรับผู้เริ่มต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่ความหมาย, ประเภท, ข้อดีข้อเสีย, ความเสี่ยง, และกลยุทธ์การลงทุนที่เกี่ยวข้อง

Derivatives คืออะไร?

Derivatives หรือ ตราสารอนุพันธ์ คือ สัญญาทางการเงินที่มีมูลค่ามาจากสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) สินทรัพย์อ้างอิงนั้นอาจเป็นหุ้น, พันธบัตร, สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities), อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex), ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ หรือแม้กระทั่งอัตราดอกเบี้ย Derivatives ไม่ได้ให้สิทธิความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง แต่ให้สิทธิในการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงนั้นในอนาคตตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา

กล่าวอีกนัยหนึ่ง Derivatives คือ สัญญาที่ “อนุพันธ์” หรือได้มาจากมูลค่าของสินทรัพย์อื่น ดังนั้น ราคาของ Derivatives จึงเปลี่ยนแปลงไปตามราคาของสินทรัพย์อ้างอิง

ประเภทของ Derivatives

Derivatives มีหลากหลายประเภท แต่โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก:

• Forward Contracts: Forward contract เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบกำหนดเองระหว่างสองฝ่าย โดยระบุราคาและปริมาณการซื้อขายที่แน่นอนในวันที่กำหนดในอนาคต สัญญา Forward มักใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
• Futures Contracts: Futures contract เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีมาตรฐาน กำหนดโดยตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Futures Exchange) สัญญา Futures มีสภาพคล่องสูงกว่า Forward Contracts และมีการรับประกันโดย Clearinghouse ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของ Counterparty Risk
• Options Contracts: Option contract เป็นสัญญาที่ให้สิทธิ (แต่ไม่บังคับ) แก่ผู้ซื้อในการซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนด (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ขาย Option จะได้รับค่าพรีเมียมจากการขายสัญญา
• Swaps Contracts: Swap contract เป็นสัญญาแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดระหว่างสองฝ่าย เช่น Interest Rate Swap (แลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย) หรือ Currency Swap (แลกเปลี่ยนสกุลเงิน) Swaps มักใช้ในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ ยังมี Derivatives ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น Credit Derivatives, Mortgage-Backed Securities และ Exotic Options ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนใน Derivatives

ข้อดี:

• Leverage: Derivatives ช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมมูลค่าของสินทรัพย์จำนวนมากได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่อาจได้รับ
• Hedging: Derivatives สามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา (Hedging) เช่น การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือราคาสินค้าโภคภัณฑ์
• Speculation: Derivatives สามารถใช้เพื่อเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคา (Speculation)
• Access to Markets: Derivatives ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดต่างๆ ที่อาจไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรง

ข้อเสีย:

• Complexity: Derivatives เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน และจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนลงทุน
• Risk: Leverage ที่สูงสามารถนำไปสู่ผลขาดทุนที่สูงได้เช่นกัน
• Counterparty Risk: ในสัญญา Forward และ Swap อาจมีความเสี่ยงที่ Counterparty จะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้
• Liquidity Risk: สภาพคล่องของ Derivatives บางประเภทอาจต่ำ ทำให้ยากต่อการซื้อขายในราคาที่ต้องการ

ความเสี่ยงในการลงทุนใน Derivatives

การลงทุนใน Derivatives มีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนควรตระหนัก:

• Market Risk: ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด
• Credit Risk: ความเสี่ยงที่ Counterparty จะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา
• Liquidity Risk: ความเสี่ยงที่ยากต่อการซื้อขาย Derivatives ในราคาที่ต้องการ
• Operational Risk: ความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดในการดำเนินงาน เช่น การประมวลผลคำสั่งซื้อขายที่ไม่ถูกต้อง
• Model Risk: ความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่ถูกต้องของแบบจำลองที่ใช้ในการประเมินมูลค่า Derivatives

กลยุทธ์การลงทุนใน Derivatives

มีกลยุทธ์การลงทุนใน Derivatives มากมาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ ตัวอย่างกลยุทธ์ที่นิยมใช้:

• Covered Call: ขาย Call Option บนหุ้นที่ถืออยู่ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
• Protective Put: ซื้อ Put Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่อาจลดลง
• Straddle: ซื้อทั้ง Call Option และ Put Option ที่มี Strike Price และวันหมดอายุเดียวกัน เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคา
• Strangle: ซื้อ Call Option และ Put Option ที่มี Strike Price ที่แตกต่างกัน แต่มีวันหมดอายุเดียวกัน เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคา
• Butterfly Spread: ใช้ Options หลายตัวที่มี Strike Price ที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จำกัด
• Calendar Spread: ซื้อและขาย Options ที่มี Strike Price เดียวกัน แต่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
• Hedging with Futures: ใช้ Futures Contracts เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หรืออัตราแลกเปลี่ยน
• Index Arbitrage: ใช้ Futures Contracts เพื่อแสวงหาผลกำไรจากความแตกต่างของราคาดัชนีตลาดหลักทรัพย์และ Futures Contracts
• Pair Trading: ซื้อและขายหุ้นสองตัวที่มีความสัมพันธ์กัน เพื่อแสวงหาผลกำไรจากความแตกต่างของราคา
• Mean Reversion: กลยุทธ์ที่เชื่อว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว
• Trend Following: กลยุทธ์ที่เชื่อว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิมต่อเนื่อง
• Breakout Trading: กลยุทธ์ที่เชื่อว่าราคาจะทะลุแนวต้านหรือแนวรับ
• Momentum Trading: กลยุทธ์ที่เชื่อว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่มีโมเมนตัมสูง
• Volatility Trading: กลยุทธ์ที่แสวงหาผลกำไรจากความผันผวนของราคา
• Binary Options Strategies: Binary option strategies เช่น High/Low, Touch/No Touch, Range, และ 60-Second strategies

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานในการลงทุน Derivatives

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนใน Derivatives ได้อย่างมีข้อมูล

การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ศึกษาข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคต เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD, Fibonacci Retracements, Bollinger Bands, และ Chart Patterns.

การวิเคราะห์พื้นฐาน: ศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ, การเงิน, และอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิง เช่น GDP, Inflation, Interest Rates, Earnings Reports, และ Industry News.

Derivatives กับ Binary Options

Binary options เป็นประเภทหนึ่งของ Derivatives ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Binary Options เป็นสัญญาที่ให้ผลตอบแทนแบบ All-or-Nothing กล่าวคือ หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ผู้ซื้อจะได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน แต่หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ผู้ซื้อจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

Binary Options มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการทำกำไรที่สูงเช่นกัน นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนลงทุนใน Binary Options

สรุป

การลงทุนใน Derivatives เป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ก็มีประโยชน์อย่างมากในการบริหารความเสี่ยงและแสวงหาผลกำไรในตลาดการเงิน นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจ Derivatives อย่างละเอียดก่อนลงทุน และควรเริ่มต้นด้วยการลงทุนใน Derivatives ที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน

ตัวอย่างการเปรียบเทียบ Derivatives และสินทรัพย์อ้างอิง

สินทรัพย์อ้างอิง	Derivative	ลักษณะ
หุ้น XYZ	Call Option on XYZ	สิทธิในการซื้อหุ้น XYZ ในราคาที่กำหนด
หุ้น XYZ	Put Option on XYZ	สิทธิในการขายหุ้น XYZ ในราคาที่กำหนด
ราคาน้ำมันดิบ	Futures Contract on Crude Oil	สัญญาซื้อขายน้้ำมันดิบในอนาคต
อัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY	Currency Swap	สัญญาแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดสกุล USD และ JPY

การบริหารความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลงทุน Derivatives รวมถึงการกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม และการใช้ Stop-Loss Orders เพื่อจำกัดผลขาดทุน

การศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Derivatives สามารถทำได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น หนังสือ, เว็บไซต์, และหลักสูตรการฝึกอบรม

Disclaimer: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น