การ ยืนยัน ปริมาณ การซื้อขาย ใน ไบนารี่ ออปชั่น

การซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น เป็นการคาดการณ์ทิศทางของราคาในระยะเวลาที่กำหนด หากทิศทางที่คาดการณ์ถูกต้อง ผู้ซื้อจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนด แต่หากผิดพลาด จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ค้าตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) การทำความเข้าใจและตีความปริมาณการซื้อขายอย่างถูกต้องสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมากในตลาดไบนารี่ออปชั่น บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการยืนยันปริมาณการซื้อขายสำหรับผู้เริ่มต้น

ปริมาณการซื้อขายคืออะไร?

ปริมาณการซื้อขาย หมายถึง จำนวนหน่วยของสินทรัพย์ (เช่น หุ้น, คู่สกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์) ที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยปกติจะวัดเป็นจำนวนสัญญาหรือล็อตที่ซื้อขายกันในแต่ละวัน ชั่วโมง หรือแม้แต่ในแต่ละนาที ปริมาณการซื้อขายไม่ใช่แค่ตัวเลขที่บอกว่ามีคนซื้อขายมากน้อยแค่ไหน แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้ม (Trend) และความน่าเชื่อถือของการเปลี่ยนแปลงราคา

ทำไมปริมาณการซื้อขายจึงสำคัญในไบนารี่ออปชั่น?

ยืนยันแนวโน้ม: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือขาลง (Downtrend) บ่งบอกว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายลดลงในขณะที่แนวโน้มยังคงดำเนินต่อไป อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มกำลังอ่อนแรงและอาจมีการกลับตัวเกิดขึ้น
บ่งบอกการกลับตัว: การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในปริมาณการซื้อขายสามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มได้ ตัวอย่างเช่น หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ราคาลดลง อาจเป็นสัญญาณว่าผู้ซื้อกำลังเข้ามาและอาจมีการกลับตัวเป็นขาขึ้น
วัดความสนใจของตลาด: ปริมาณการซื้อขายที่สูงบ่งบอกว่ามีผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากให้ความสนใจกับสินทรัพย์นั้น ซึ่งอาจทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้นและมีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น
กรองสัญญาณเท็จ: ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยกรองสัญญาณเท็จที่เกิดจากความผันผวนของราคาเพียงอย่างเดียวได้ หากสัญญาณซื้อขายไม่ได้รับการยืนยันจากปริมาณการซื้อขายที่เหมาะสม อาจเป็นสัญญาณที่ควรหลีกเลี่ยง

การตีความปริมาณการซื้อขาย

การตีความปริมาณการซื้อขายไม่ใช่แค่การดูตัวเลข แต่ต้องพิจารณาบริบทของตลาดและรูปแบบราคาที่เกิดขึ้นร่วมด้วย ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการตีความปริมาณการซื้อขาย:

ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับการขึ้น/ลงของราคา: บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม การขึ้น/ลงของราคามีการสนับสนุนจากผู้ซื้อ/ผู้ขายจำนวนมาก
ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงพร้อมกับการขึ้น/ลงของราคา: บ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้ม การขึ้น/ลงของราคามีการสนับสนุนน้อย และอาจมีการกลับตัวเกิดขึ้น
ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก: อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาด หรือการเข้ามาของนักลงทุนรายใหญ่ (Institutional Investors)
ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอย่างมาก: อาจบ่งบอกถึงความเบื่อหน่ายของตลาด หรือการขาดความเชื่อมั่นในสินทรัพย์นั้น

ตัวชี้วัดปริมาณการซื้อขายที่สำคัญ

มีตัวชี้วัดหลายตัวที่ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:

On Balance Volume (OBV): ตัวชี้วัดนี้วัดแรงกดดันในการซื้อขายโดยการเพิ่มปริมาณการซื้อขายในวันที่ราคาปิดสูงขึ้น และลดปริมาณการซื้อขายในวันที่ราคาปิดต่ำลง On Balance Volume สามารถช่วยระบุการสะสม (Accumulation) และการกระจาย (Distribution) ของสินทรัพย์
Volume Weighted Average Price (VWAP): ตัวชี้วัดนี้คำนวณราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการซื้อขาย ซึ่งสามารถใช้เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่ดีที่สุด Volume Weighted Average Price
Accumulation/Distribution Line (A/D Line): คล้ายกับ OBV แต่คำนึงถึงตำแหน่งของราคาปิดภายในช่วงราคาของวันนั้น Accumulation/Distribution Line
Chaikin Money Flow (CMF): ตัวชี้วัดนี้วัดแรงกดดันในการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยคำนึงถึงทั้งราคาและปริมาณการซื้อขาย Chaikin Money Flow

การยืนยันปริมาณการซื้อขายกับรูปแบบราคา (Price Patterns)

การรวมการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเข้ากับการวิเคราะห์รูปแบบราคาจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ทิศทางของราคา ตัวอย่างเช่น:

Head and Shoulders: หากรูปแบบ Head and Shoulders เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในช่วงการก่อตัวของ Head และ Shoulders และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง Breakout จะเป็นการยืนยันรูปแบบนี้อย่างแข็งแกร่ง Head and Shoulders
Double Top/Bottom: หากรูปแบบ Double Top/Bottom เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในช่วงการก่อตัวของ Top/Bottom และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง Breakout จะเป็นการยืนยันรูปแบบนี้ Double Top และ Double Bottom
Triangles: การ Breakout จากรูปแบบ Triangle ที่มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการ Breakout Triangles
Flags and Pennants: ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในช่วงการก่อตัวของ Flags และ Pennants และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง Breakout เป็นสัญญาณยืนยันที่ดี Flags and Pennants

กลยุทธ์ไบนารี่ออปชั่นที่ใช้การยืนยันปริมาณการซื้อขาย

Breakout Strategy: ค้นหา Breakout จากรูปแบบราคาที่สำคัญ และยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคา Breakout ให้เปิด Position ในทิศทางของการ Breakout Breakout Strategy
Trend Following Strategy: ค้นหาแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้ม หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นตามแนวโน้ม ให้เปิด Position ในทิศทางของแนวโน้ม Trend Following Strategy
Reversal Strategy: ค้นหารูปแบบการกลับตัวที่สำคัญ และยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงการกลับตัว หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงการกลับตัว ให้เปิด Position ในทิศทางของการกลับตัว Reversal Strategy
OBV Confirmation Strategy: ใช้ OBV เพื่อยืนยันแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ และ OBV ก็ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง OBV Confirmation Strategy
VWAP Strategy: ใช้ VWAP เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่ดีที่สุด หากราคาต่ำกว่า VWAP อาจเป็นสัญญาณซื้อ และหากราคาสูงกว่า VWAP อาจเป็นสัญญาณขาย VWAP Strategy

ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

ความผันผวนของตลาด: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ปริมาณการซื้อขายอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่มีความหมายที่แท้จริง ดังนั้น ควรพิจารณาบริบทของตลาดอย่างรอบคอบ
สินทรัพย์ที่สภาพคล่องต่ำ: ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ ปริมาณการซื้อขายอาจไม่น่าเชื่อถือ และอาจไม่สามารถใช้ในการยืนยันสัญญาณการซื้อขายได้
การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายควรใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance), เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) และ Oscillators เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์

สรุป

การยืนยันปริมาณการซื้อขายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ค้าไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจวิธีการตีความปริมาณการซื้อขายและการนำไปใช้ร่วมกับรูปแบบราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถรับประกันผลกำไรได้เสมอไป การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ตัวอย่างการรวมการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
สถานการณ์	การตีความ	การตัดสินใจ
ราคาขึ้นพร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น	แนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่ง	เปิด Position ซื้อ
ราคาลงพร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น	แนวโน้มขาลงแข็งแกร่ง	เปิด Position ขาย
ราคาขึ้นพร้อมปริมาณการซื้อขายลดลง	แนวโน้มขาขึ้นอ่อนแอ	ระมัดระวัง หรือปิด Position ซื้อ
ราคาลงพร้อมปริมาณการซื้อขายลดลง	แนวโน้มขาลงอ่อนแอ	ระมัดระวัง หรือปิด Position ขาย

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

การยืนยันปริมาณการซื้อขาย

Contents