การป้องกัน Slippage
- การป้องกัน Slippage ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน หนึ่งในความท้าทายที่นักลงทุนต้องเผชิญคือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Slippage” ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลกำไรของคุณ บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Slippage คืออะไร สาเหตุที่เกิดขึ้น ผลกระทบต่อการซื้อขาย และวิธีการป้องกัน Slippage ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น
- Slippage คืออะไร?
Slippage หมายถึง ความแตกต่างระหว่างราคาที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับเมื่อเปิด ออปชั่น และราคาที่คุณได้รับจริงเมื่อคำสั่งซื้อของคุณได้รับการดำเนินการ ในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ หรือในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง ราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วระหว่างที่คุณส่งคำสั่งซื้อและเมื่อคำสั่งนั้นได้รับการดำเนินการ ทำให้เกิด Slippage
- ตัวอย่าง:**
สมมติว่าคุณต้องการซื้อไบนารี่ออปชั่นที่มีราคา 70 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อคำสั่งซื้อของคุณได้รับการดำเนินการ ราคาได้เปลี่ยนไปเป็น 70.50 ดอลลาร์สหรัฐ นี่คือ Slippage จำนวน 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ
- สาเหตุของ Slippage
มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เกิด Slippage ได้:
- **สภาพคล่องต่ำ:** ในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนน้อย ซึ่งหมายความว่าคำสั่งซื้อขนาดใหญ่สามารถผลักดันราคาขึ้นหรือลงได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิด Slippage
- **ความผันผวนสูง:** ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการได้รับราคาที่คุณต้องการ
- **ความล่าช้าในการส่งข้อมูล:** ความล่าช้าในการส่งข้อมูลระหว่างโบรกเกอร์และตลาดสามารถทำให้เกิด Slippage ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการซื้อขายอัตโนมัติ (Automated Trading)
- **การตั้งราคาที่แตกต่างกัน:** โบรกเกอร์แต่ละรายอาจมีราคาที่แตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับสินทรัพย์เดียวกัน ซึ่งอาจทำให้เกิด Slippage เมื่อคำสั่งซื้อของคุณได้รับการดำเนินการผ่านโบรกเกอร์นั้น
- **ขนาดของคำสั่งซื้อ:** คำสั่งซื้อขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะเกิด Slippage มากกว่าคำสั่งซื้อขนาดเล็ก เนื่องจากคำสั่งซื้อขนาดใหญ่สามารถส่งผลกระทบต่อราคาตลาดได้มากขึ้น
- ผลกระทบของ Slippage ต่อการซื้อขาย
Slippage สามารถส่งผลกระทบต่อการซื้อขายของคุณได้หลายวิธี:
- **ลดผลกำไร:** Slippage สามารถลดผลกำไรของคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการซื้อขายที่มีระยะเวลาสั้นๆ
- **เพิ่มการขาดทุน:** Slippage สามารถเพิ่มการขาดทุนของคุณได้ หากคุณซื้อในราคาที่สูงกว่าที่คาดไว้ หรือขายในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดไว้
- **ส่งผลต่อความแม่นยำของกลยุทธ์:** Slippage สามารถทำให้กลยุทธ์การซื้อขายของคุณไม่แม่นยำ เนื่องจากราคาที่คุณได้รับจริงอาจแตกต่างจากราคาที่คุณใช้ในการวิเคราะห์
- **เพิ่มความเสี่ยง:** Slippage เพิ่มความเสี่ยงในการซื้อขายของคุณ เนื่องจากคุณไม่สามารถควบคุมราคาที่คุณได้รับได้อย่างสมบูรณ์
- วิธีการป้องกัน Slippage
แม้ว่าคุณจะไม่สามารถกำจัด Slippage ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยง:
1. **เลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง:** โบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูงจะมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าคำสั่งซื้อของคุณมีแนวโน้มที่จะได้รับการดำเนินการในราคาที่คุณต้องการมากขึ้น การตรวจสอบ รีวิวโบรกเกอร์ และเปรียบเทียบสภาพคล่องเป็นสิ่งสำคัญ 2. **หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง:** ความผันผวนสูงมักจะเกิดขึ้นในช่วงข่าวสำคัญ หรือในช่วงเปิดและปิดตลาด การหลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของ Slippage ได้ 3. **ใช้คำสั่ง Limit:** คำสั่ง Limit ช่วยให้คุณระบุราคาที่คุณต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์ หากราคาไม่ถึงระดับที่คุณกำหนด คำสั่งซื้อของคุณจะไม่ได้รับการดำเนินการ ซึ่งอาจช่วยป้องกัน Slippage ได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่คำสั่งซื้อของคุณจะไม่ได้รับการดำเนินการเลย 4. **ใช้คำสั่ง Stop-Loss:** คำสั่ง Stop-Loss ช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนของคุณได้ หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่คุณคาดการณ์ไว้ แม้ว่า Stop-Loss จะไม่ป้องกัน Slippage ได้โดยตรง แต่ก็สามารถลดผลกระทบของการขาดทุนที่เกิดจาก Slippage ได้ 5. **ใช้ขนาดคำสั่งซื้อที่เหมาะสม:** คำสั่งซื้อขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะเกิด Slippage มากกว่าคำสั่งซื้อขนาดเล็ก การแบ่งคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ออกเป็นคำสั่งซื้อขนาดเล็กหลายๆ คำสั่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของ Slippage ได้ 6. **ตรวจสอบ Spread:** Spread คือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของสินทรัพย์ Spread ที่กว้างบ่งบอกถึงสภาพคล่องต่ำและความเสี่ยงของ Slippage ที่สูงขึ้น 7. **ใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เชื่อถือได้:** แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เชื่อถือได้จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีการเชื่อมต่อที่ดีกับตลาด ซึ่งสามารถช่วยลดความล่าช้าในการส่งข้อมูลและลดความเสี่ยงของ Slippage ได้ 8. **ทำความเข้าใจกับกลไกการตั้งราคาของโบรกเกอร์:** แต่ละโบรกเกอร์มีวิธีการตั้งราคาที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจวิธีการเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณคาดการณ์ Slippage ได้ดีขึ้น 9. **พิจารณาใช้การซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดสงบ:** ช่วงเวลาที่ตลาดสงบมักจะมี Slippage น้อยกว่าช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง 10. **ติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ:** ข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความผันผวนของตลาด การติดตามข่าวสารเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณวางแผนการซื้อขายและหลีกเลี่ยง Slippage ได้
- กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบของ Slippage
การเลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมก็สามารถช่วยลดผลกระทบของ Slippage ได้เช่นกัน:
- **Scalping:** Scalping เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความแตกต่างของราคาเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจาก Slippage อย่างมาก การใช้กลยุทธ์ Scalping จำเป็นต้องมีสภาพคล่องสูงและ Slippage ต่ำ
- **Trend Following:** Trend Following เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อขายตามแนวโน้มของราคา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจาก Slippage น้อยกว่ากลยุทธ์อื่นๆ
- **Range Trading:** Range Trading เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อขายในช่วงราคาที่กำหนด ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจาก Slippage ในช่วงที่ราคาออกจากช่วง
- **Binary Option Strategies:** กลยุทธ์ High/Low Option, Touch/No Touch Option, และ One Touch Option ควรพิจารณาปัจจัย Slippage ในการกำหนดระยะเวลาการลงทุน
- **Hedging:** การใช้ Hedging สามารถช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน และลดผลกระทบของ Slippage ได้
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อคาดการณ์ Slippage
การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์พื้นฐาน สามารถช่วยให้คุณคาดการณ์ Slippage ได้:
- **Volume Analysis:** Volume Analysis สามารถช่วยระบุสภาพคล่องของตลาดได้ หากปริมาณการซื้อขายต่ำ แสดงว่าสภาพคล่องต่ำและความเสี่ยงของ Slippage สูงขึ้น
- **Volatility Indicators:** เครื่องมือวัดความผันผวน เช่น Bollinger Bands และ Average True Range (ATR) สามารถช่วยระบุช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงของ Slippage สูงขึ้น
- **Economic Calendar:** การติดตาม Economic Calendar สามารถช่วยให้คุณทราบถึงเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของตลาด
- สรุป
Slippage เป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนไบนารี่ออปชั่นต้องเผชิญ การทำความเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของ Slippage รวมถึงการใช้เทคนิคการป้องกันที่เหมาะสม สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณได้ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง การใช้คำสั่ง Limit และ Stop-Loss การใช้ขนาดคำสั่งซื้อที่เหมาะสม และการติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกัน Slippage การผสมผสานกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมและการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานจะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์และจัดการ Slippage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
| วิธีการป้องกัน | คำอธิบาย |
|---|---|
| เลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง | โบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูงมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ลดโอกาสเกิด Slippage |
| ใช้คำสั่ง Limit | กำหนดราคาที่คุณต้องการซื้อหรือขาย หากราคาไม่ถึงคำสั่งจะไม่ดำเนินการ |
| ใช้คำสั่ง Stop-Loss | จำกัดการขาดทุนของคุณหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง |
| ใช้ขนาดคำสั่งซื้อที่เหมาะสม | คำสั่งซื้อขนาดเล็กมีความเสี่ยง Slippage น้อยกว่า |
| หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง | ความผันผวนสูงเพิ่มโอกาสเกิด Slippage |
การจัดการความเสี่ยง เป็นส่วนสำคัญของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น และการป้องกัน Slippage เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความเสี่ยงนั้น การลงทุนอย่างรอบคอบและการทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
การซื้อขายอย่างมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งสำคัญเสมอ
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
