การทำความเข้าใจ Negative Volume Index (NVI)
- การทำความเข้าใจ Negative Volume Index (NVI)
บทนำ
ในโลกของการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) และตลาดการเงินโดยทั่วไป การทำความเข้าใจเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร หนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจและมักถูกมองข้ามคือ Negative Volume Index หรือ NVI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม (Trend) โดยอิงจากปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) บทความนี้จะอธิบาย NVI อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการคำนวณ การตีความสัญญาณ และการนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ
NVI คืออะไร?
Negative Volume Index (NVI) เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่พัฒนาโดย George Schraw ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 โดยมีจุดประสงค์เพื่อระบุว่าแนวโน้มของราคา (Price Trend) นั้นแข็งแกร่งหรือไม่ และจะสิ้นสุดลงเมื่อใด NVI ทำงานบนหลักการที่ว่า ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในทิศทางของแนวโน้มหลักบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้น ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายลดลงในทิศทางของแนวโน้มหลัก อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มกำลังอ่อนแรงและอาจมีการกลับตัว
วิธีการคำนวณ NVI
การคำนวณ NVI มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
1. **คำนวณ Net Volume:** ในแต่ละวัน ให้คำนวณ Net Volume โดยนำปริมาณการซื้อขายในวันที่ราคาปรับตัวขึ้น (Up Volume) ลบด้วยปริมาณการซื้อขายในวันที่ราคาปรับตัวลง (Down Volume) 2. **คำนวณ Cumulative Volume:** คำนวณ Cumulative Volume โดยการรวม Net Volume ของแต่ละวันเข้าด้วยกัน 3. **คำนวณ NVI:** NVI คำนวณจากสูตร: NVI = Cumulative Volume + (Cumulative Volume ของวันก่อนหน้า)
| ตัวแปร | |
| Up Volume | |
| Down Volume | |
| Net Volume | |
| Cumulative Volume | |
| NVI |
การตีความสัญญาณ NVI
การตีความสัญญาณ NVI นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา:
- **NVI ที่เพิ่มขึ้น:** บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มปัจจุบัน หาก NVI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าแนวโน้มนั้นมีพลังและน่าจะดำเนินต่อไป
- **NVI ที่ลดลง:** บ่งบอกถึงความอ่อนแอของแนวโน้มปัจจุบัน หาก NVI ลดลง แสดงว่าแนวโน้มนั้นกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อนและอาจมีการกลับตัวเกิดขึ้น
- **NVI ที่ตัดเหนือเส้น 0:** บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ที่แข็งแกร่ง
- **NVI ที่ตัดใต้เส้น 0:** บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง (Downtrend) ที่แข็งแกร่ง
- **การ Divergence:** การ Divergence ระหว่าง NVI กับราคา เป็นสัญญาณที่สำคัญมาก หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ NVI ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ตามไปด้วย อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น และในทางกลับกัน หากราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ NVI ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ตามไปด้วย อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง
การประยุกต์ใช้ NVI ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
NVI สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:
- **ยืนยันแนวโน้ม:** ใช้ NVI เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มก่อนที่จะเปิดสถานะซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากคุณสังเกตเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และ NVI ก็กำลังเพิ่มขึ้นด้วย แสดงว่าคุณมีเหตุผลที่แข็งแกร่งในการเปิดสถานะซื้อ (Call Option)
- **ระบุสัญญาณกลับตัว:** ใช้ NVI เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม หาก NVI เริ่มลดลงในขณะที่แนวโน้มยังมีอยู่ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มกำลังจะสิ้นสุดลง และคุณควรเตรียมพร้อมสำหรับการกลับตัว
- **ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ:** NVI มักจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD, และ Bollinger Bands การผสมผสาน NVI กับเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้สัญญาณที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- **กลยุทธ์การเทรดแบบ Divergence:** มองหาการ Divergence ระหว่าง NVI และราคาเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ NVI ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ตามไปด้วย ให้พิจารณาเปิดสถานะขาย (Put Option)
- **การเทรดตาม Breakout:** เมื่อ NVI ตัดเหนือหรือใต้เส้น 0 ให้พิจารณาเปิดสถานะตามทิศทางของ Breakout นั้น
ข้อดีและข้อเสียของ NVI
เช่นเดียวกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ NVI ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย:
ข้อดี
- **ง่ายต่อการคำนวณและตีความ:** NVI เป็นตัวชี้วัดที่ค่อนข้างง่ายต่อการคำนวณและตีความ ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
- **ช่วยระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้ม:** NVI สามารถช่วยระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- **ให้สัญญาณการกลับตัวที่แม่นยำ:** NVI สามารถให้สัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ
- **สามารถใช้ได้กับตลาดที่หลากหลาย:** NVI สามารถใช้ได้กับตลาดที่หลากหลาย เช่น ตลาดหุ้น, ตลาด Forex, และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ข้อเสีย
- **อาจให้สัญญาณหลอก:** เช่นเดียวกับเครื่องมืออื่นๆ NVI อาจให้สัญญาณหลอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง
- **Lagging Indicator:** NVI เป็น Lagging Indicator ซึ่งหมายความว่าสัญญาณที่ได้รับอาจล่าช้ากว่าการเปลี่ยนแปลงของราคา
- **ต้องการข้อมูลปริมาณการซื้อขายที่แม่นยำ:** NVI ต้องการข้อมูลปริมาณการซื้อขายที่แม่นยำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ
กลยุทธ์การเทรดที่เกี่ยวข้อง
- **Trend Following Strategy:** ใช้ NVI เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มก่อนที่จะเปิดสถานะตามแนวโน้มนั้น Trend Following Strategy
- **Mean Reversion Strategy:** ใช้ NVI เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม และเปิดสถานะในทิศทางตรงกันข้าม Mean Reversion Strategy
- **Breakout Strategy:** ใช้ NVI เพื่อยืนยัน Breakout และเปิดสถานะตามทิศทางของ Breakout นั้น Breakout Strategy
- **Divergence Strategy:** ใช้การ Divergence ระหว่าง NVI และราคาเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขาย Divergence Strategy
- **Scalping Strategy:** ใช้ NVI ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อระบุโอกาสในการ Scalping Scalping Strategy
- **Swing Trading Strategy:** ใช้ NVI เพื่อระบุจุดเข้าและออกของ Swing Trade Swing Trading Strategy
- **Day Trading Strategy:** ใช้ NVI เพื่อระบุโอกาสในการทำกำไรในระยะสั้น Day Trading Strategy
- **Momentum Trading Strategy:** ใช้ NVI เพื่อวัดความแข็งแกร่งของ Momentum ของราคา Momentum Trading Strategy
- **Contrarian Trading Strategy:** ใช้ NVI เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม และเปิดสถานะในทิศทางตรงกันข้าม Contrarian Trading Strategy
- **High-Frequency Trading (HFT):** ใช้ NVI ในระบบ HFT เพื่อทำการซื้อขายอัตโนมัติ High-Frequency Trading (HFT)
- **Position Trading Strategy:** ใช้ NVI เพื่อยืนยันแนวโน้มระยะยาวและเปิดสถานะ Position Position Trading Strategy
- **Options Trading Strategies:** ใช้ NVI เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในการซื้อขาย Options Options Trading Strategies
- **Binary Options Ladder Strategy:** ใช้ NVI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรดแบบ Ladder ในไบนารี่ออปชั่น Binary Options Ladder Strategy
- **Binary Options Straddle Strategy:** ใช้ NVI เพื่อประเมินความผันผวนและใช้กลยุทธ์ Straddle ในไบนารี่ออปชั่น Binary Options Straddle Strategy
- **Binary Options Bull Call Spread Strategy:** ใช้ NVI เพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้นและใช้กลยุทธ์ Bull Call Spread ในไบนารี่ออปชั่น Binary Options Bull Call Spread Strategy
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) และ NVI
การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) เป็นส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจ NVI การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขายสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแรงกดดันในการซื้อขายและอาจช่วยยืนยันหรือปฏิเสธสัญญาณที่ได้รับจาก NVI การศึกษา On Balance Volume (OBV) และ Accumulation/Distribution Line ควบคู่ไปกับ NVI สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ของตลาด
สรุป
Negative Volume Index (NVI) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นและนักลงทุนทั่วไป ด้วยความสามารถในการระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัว NVI สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า NVI ไม่ใช่เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การทำความเข้าใจหลักการทำงานของ NVI และการประยุกต์ใช้ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แนวโน้ม (Trend) ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) Divergence Moving Averages Relative Strength Index (RSI) MACD Bollinger Bands On Balance Volume (OBV) Accumulation/Distribution Line Trend Following Strategy Mean Reversion Strategy Breakout Strategy Divergence Strategy Scalping Strategy (Category:Technical Indicators)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
