การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Volatility Skew

1. 1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Volatility Skew

Volatility Skew หรือความเบ้ของค่าความผันผวน เป็นแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในตลาด อนุพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจ Volatility Skew จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินราคาของออปชั่นได้อย่างแม่นยำขึ้น และสามารถพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดได้ดีกว่า บทความนี้จะอธิบายถึง Volatility Skew อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงสาเหตุที่เกิด ความสำคัญ และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. ค่าความผันผวนคืออะไร?

ก่อนที่จะเข้าใจ Volatility Skew เราต้องเข้าใจความหมายของ ค่าความผันผวน (Volatility) ก่อน ค่าความผันผวนเป็นตัววัดระดับความเสี่ยงของสินทรัพย์ทางการเงิน โดยวัดจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ค่าความผันผวนที่สูงแสดงถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้น และค่าความผันผวนที่ต่ำแสดงถึงความเสี่ยงที่ต่ำลง ในตลาดออปชั่น ค่าความผันผวนเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาออปชั่น เนื่องจากออปชั่นจะได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่รุนแรง

ค่าความผันผวนสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ

• **ค่าความผันผวนในอดีต (Historical Volatility):** วัดจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในอดีต
• **ค่าความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility):** สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในอนาคต และได้มาจากราคาของออปชั่น

1. 1. 1. Volatility Skew คืออะไร?

Volatility Skew คือความแตกต่างของค่าความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) ของออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว Volatility Skew จะแสดงให้เห็นว่าออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่า (Put Options) มักจะมีค่าความผันผวนโดยนัยที่สูงกว่าออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิที่สูงกว่า (Call Options) หรือออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน (At-the-Money Options)

Volatility Skew มักจะแสดงในรูปแบบของกราฟ โดยมีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) อยู่บนแกน X และค่าความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) อยู่บนแกน Y กราฟนี้จะแสดงให้เห็นถึงรูปร่างของ Volatility Skew ซึ่งอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. สาเหตุของการเกิด Volatility Skew

มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เกิด Volatility Skew ได้แก่:

• **ความกลัวของนักลงทุน:** ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอนหรือมีความกลัว นักลงทุนมักจะซื้อ Put Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง ความต้องการ Put Options ที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ราคาของ Put Options สูงขึ้น และส่งผลให้ค่าความผันผวนโดยนัยของ Put Options สูงขึ้นด้วย
• **Leverage Effect:** บริษัทที่มีหนี้สินจำนวนมากมักจะมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์มากกว่าบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่มีหนี้สิน ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้มีความผันผวนมากขึ้น
• **Supply and Demand:** ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกันก็สามารถทำให้เกิด Volatility Skew ได้เช่นกัน
• **การเก็งกำไร:** นักเก็งกำไรอาจซื้อหรือขายออปชั่นเพื่อแสวงหาผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของค่าความผันผวนโดยนัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ Volatility Skew ได้

1. 1. 1. ความสำคัญของ Volatility Skew

Volatility Skew มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น เนื่องจากสามารถช่วยให้นักลงทุน:

• **ประเมินราคาออปชั่นได้อย่างแม่นยำ:** การเข้าใจ Volatility Skew จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินว่าออปชั่นใดมีราคาแพงเกินไปหรือราคาถูกเกินไปได้
• **พัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม:** Volatility Skew สามารถช่วยให้นักลงทุนพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดได้ เช่น การซื้อ Put Options เมื่อ Volatility Skew มีลักษณะที่บ่งบอกถึงความกลัวของนักลงทุน
• **บริหารความเสี่ยง:** การเข้าใจ Volatility Skew จะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. 1. 1. การประยุกต์ใช้ Volatility Skew ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

นักลงทุนสามารถนำ Volatility Skew ไปประยุกต์ใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้หลายวิธี:

• **Straddle/Strangle:** เมื่อ Volatility Skew มีลักษณะที่ราบเรียบ (Flat Skew) นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์ Straddle หรือ Strangle เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
• **Risk Reversal:** เมื่อ Volatility Skew มีลักษณะที่เบ้ (Skewed Skew) นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์ Risk Reversal เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของ Volatility Skew
• **Butterfly Spread:** เมื่อ Volatility Skew มีลักษณะที่ซับซ้อน นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์ Butterfly Spread เพื่อทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางและความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. ตัวอย่าง Volatility Skew ในตลาดจริง

พิจารณาตลาดหุ้น S&P 500 ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008 Volatility Skew ในตลาดออปชั่น S&P 500 จะมีลักษณะที่เบ้ไปทางด้าน Put Options อย่างชัดเจน เนื่องจากนักลงทุนมีความกลัวว่าราคาสินทรัพย์จะลดลงอย่างรวดเร็ว และต้องการซื้อ Put Options เพื่อป้องกันความเสี่ยง

ในทางกลับกัน ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความมั่นคงและมีการเติบโต Volatility Skew ในตลาดออปชั่น S&P 500 จะมีลักษณะที่ราบเรียบกว่า หรืออาจเบ้ไปทางด้าน Call Options เล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังว่าราคาสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น

1. 1. 1. การวิเคราะห์ Volatility Skew ด้วยเครื่องมือต่างๆ

มีเครื่องมือหลายอย่างที่นักลงทุนสามารถใช้ในการวิเคราะห์ Volatility Skew ได้แก่:

• **Volatility Surface:** เป็นกราฟสามมิติที่แสดงค่าความผันผวนโดยนัยของออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุที่แตกต่างกัน
• **Volatility Smile:** เป็นกราฟที่แสดงค่าความผันผวนโดยนัยของออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิที่แตกต่างกัน ณ วันหมดอายุเดียวกัน
• **Implied Volatility Term Structure:** เป็นกราฟที่แสดงค่าความผันผวนโดยนัยของออปชั่นที่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน ณ ราคาใช้สิทธิเดียวกัน

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่เกี่ยวข้องกับ Volatility Skew

• **การซื้อ Put Option เมื่อ Volatility Skew เบ้ไปทาง Put:** หาก Volatility Skew แสดงให้เห็นว่า Put Options มีค่าความผันผวนโดยนัยสูงกว่า Call Options อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดคาดการณ์ถึงความเสี่ยงขาลงที่มากขึ้น การซื้อ Put Option ในสถานการณ์นี้อาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม
• **การขาย Call Option เมื่อ Volatility Skew เบ้ไปทาง Call:** ในทางกลับกัน หาก Volatility Skew แสดงให้เห็นว่า Call Options มีค่าความผันผวนโดยนัยสูงกว่า Put Options อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดคาดการณ์ถึงความเสี่ยงขาขึ้นที่มากขึ้น การขาย Call Option ในสถานการณ์นี้อาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม
• **การใช้ Iron Condor:** กลยุทธ์ Iron Condor เป็นกลยุทธ์ที่เป็นกลาง (Neutral Strategy) ที่ใช้ประโยชน์จากความคาดหวังว่าราคาสินทรัพย์จะอยู่ในช่วงแคบๆ โดยอาศัยความแตกต่างของ Volatility Skew ในการกำหนดราคาของออปชั่น
• **การใช้ Ratio Spread:** กลยุทธ์ Ratio Spread เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของ Volatility Skew โดยการซื้อและขายออปชั่นในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน

1. 1. 1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปริมาณการซื้อขายที่เกี่ยวข้อง

• **การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis):** การระบุแนวโน้มของราคาสินทรัพย์อ้างอิงสามารถช่วยในการตัดสินใจว่าจะใช้กลยุทธ์ใดที่เหมาะสมกับ Volatility Skew
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** ปริมาณการซื้อขายที่สูงอาจบ่งบอกถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในออปชั่นบางประเภท ซึ่งอาจส่งผลต่อ Volatility Skew
• **การใช้ Indicators:** Moving Averages, Bollinger Bands, และ Relative Strength Index (RSI) สามารถช่วยในการระบุสภาวะตลาดและประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Volatility Skew
• **การวิเคราะห์ Gap:** Gap Analysis สามารถช่วยในการระบุช่วงราคาที่อาจเป็นเป้าหมายสำหรับการซื้อขายออปชั่น โดยพิจารณาจาก Volatility Skew
• **การวิเคราะห์ Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement สามารถช่วยในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง

1. 1. 1. ข้อควรระวังในการใช้ Volatility Skew

• **Volatility Skew ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ที่สมบูรณ์:** Volatility Skew เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ควรพิจารณาในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ ข่าวสาร และการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วย
• **Volatility Skew สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว:** Volatility Skew สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามสภาวะตลาด นักลงทุนควรติดตาม Volatility Skew อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์การซื้อขายให้เหมาะสม
• **การตีความ Volatility Skew อาจมีความซับซ้อน:** การตีความ Volatility Skew อาจมีความซับซ้อนและต้องใช้ความรู้ความเข้าใจอย่างมาก นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจ Volatility Skew อย่างละเอียดก่อนที่จะนำไปใช้ในการซื้อขาย

1. 1. 1. สรุป

Volatility Skew เป็นแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในตลาดไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจ Volatility Skew จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินราคาของออปชั่นได้อย่างแม่นยำขึ้น และสามารถพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระลึกว่า Volatility Skew เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ควรพิจารณาในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น และควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย

การบริหารความเสี่ยง | การวิเคราะห์ออปชั่น | กลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น | การลงทุนในอนุพันธ์ | ตลาดการเงิน | การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | การจัดการเงินทุน | จิตวิทยาการลงทุน | การซื้อขายแบบอัตโนมัติ | การเทรดระยะสั้น | การเทรดระยะยาว | การกระจายความเสี่ยง | การป้องกันความเสี่ยง | การวิเคราะห์ความเสี่ยง | การวางแผนการลงทุน | การลงทุนแบบเน้นคุณค่า | การลงทุนแบบเติบโต | การลงทุนแบบปันผล | การลงทุนในต่างประเทศ | การลงทุนในกองทุนรวม | การลงทุนในหุ้น | การลงทุนในพันธบัตร | การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ | การลงทุนในทองคำ

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น