การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ IOTA

1. 1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ IOTA

IOTA (ไอโอตะ) เป็นเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจ (Distributed Ledger Technology - DLT) ที่แตกต่างจาก บล็อกเชน อย่างมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของบล็อกเชนในการใช้งานกับ Internet of Things (IoT) หรืออินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง บทความนี้จะอธิบายถึงหลักการทำงาน, ความแตกต่างจากบล็อกเชน, ข้อดีข้อเสีย, กรณีการใช้งาน และอนาคตของ IOTA สำหรับผู้เริ่มต้น

1. 1. 1. 1. ปัญหาของบล็อกเชนกับ IoT

บล็อกเชนซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin และ Ethereum มีข้อจำกัดหลายประการในการใช้งานกับ IoT:

• **ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม:** การทำธุรกรรมบนบล็อกเชนส่วนใหญ่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานกับอุปกรณ์ IoT ที่ทำธุรกรรมขนาดเล็กจำนวนมาก
• **ความสามารถในการปรับขนาด (Scalability):** บล็อกเชนหลายแห่งมีข้อจำกัดด้านความเร็วในการทำธุรกรรม ทำให้ไม่สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่เกิดจากอุปกรณ์ IoT จำนวนมากได้
• **การใช้พลังงาน:** กระบวนการ Proof-of-Work ที่ใช้ในบล็อกเชนบางแห่ง (เช่น Bitcoin) ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งไม่เหมาะกับอุปกรณ์ IoT ที่ใช้พลังงานจำกัด

1. 1. 1. 2. IOTA: Tangle และ Directed Acyclic Graph (DAG)

IOTA แก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการใช้โครงสร้างข้อมูลที่เรียกว่า **Tangle** ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของ **Directed Acyclic Graph (DAG)** แทนที่จะใช้บล็อกเชน

• **Tangle คืออะไร:** Tangle คือเครือข่ายที่การทำธุรกรรมแต่ละรายการจะได้รับการตรวจสอบโดยการทำธุรกรรมอื่น ๆ อย่างน้อยสองรายการ ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องมี นักขุด หรือ ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง (Validators) แบบดั้งเดิม
• **DAG คืออะไร:** DAG เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ประกอบด้วยโหนด (Nodes) และเส้นทางเชื่อมต่อแบบมีทิศทาง (Directed edges) โดยที่ไม่มีวงจร (Acyclic)
• **การทำงานของ Tangle:** เมื่อผู้ใช้ต้องการส่งธุรกรรมบน IOTA พวกเขาจะต้องตรวจสอบ (validate) การทำธุรกรรมอื่น ๆ สองรายการที่ผ่านมา ก่อนที่จะสามารถเพิ่มธุรกรรมของตนเองลงใน Tangle ได้ การทำธุรกรรมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมอื่น ๆ นี้ไม่มีค่าใช้จ่าย
• **ไม่มีค่าธรรมเนียม:** เนื่องจากไม่มีนักขุดหรือผู้ตรวจสอบความถูกต้อง จึงไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
• **ความสามารถในการปรับขนาด:** Tangle สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่สูงขึ้นได้ เนื่องจากการทำธุรกรรมแต่ละรายการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่าย

1. 1. 1. 3. ความแตกต่างระหว่าง IOTA และ บล็อกเชน

| คุณสมบัติ | บล็อกเชน | IOTA (Tangle) | |---|---|---| | โครงสร้างข้อมูล | บล็อกที่เชื่อมโยงกันเป็นสายโซ่ | DAG (Directed Acyclic Graph) | | ค่าธรรมเนียม | มีค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าธรรมเนียม | | ความเร็วในการทำธุรกรรม | จำกัด | สูงกว่า | | การใช้พลังงาน | สูง (ในบางกรณี) | ต่ำ | | กลไกการยืนยัน | Proof-of-Work หรือ Proof-of-Stake | การยืนยันโดยการทำธุรกรรมอื่น ๆ | | เหมาะสมกับ | การใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง | การใช้งานกับ IoT และ Microtransactions |

1. 1. 1. 4. Coin, iota และ Miota

• **IOTA:** ชื่อของเทคโนโลยีและเครือข่าย
• **iota:** หน่วยย่อยที่สุดของ IOTA (คล้ายกับ Satoshi ใน Bitcoin)
• **MIOTA:** หน่วยที่ใช้ในการซื้อขายและแสดงมูลค่าของ IOTA (1 MIOTA = 1,000,000 iota)

1. 1. 1. 5. Coordinator และ การกำจัด Coordinator

ในระยะแรกของการพัฒนา IOTA มีสิ่งที่เรียกว่า **Coordinator** ซึ่งเป็นโหนดกลางที่ทำหน้าที่ยืนยันธุรกรรมและป้องกันการโจมตีแบบ Sybil attack (การสร้างบัญชีจำนวนมากเพื่อควบคุมเครือข่าย) อย่างไรก็ตาม Coordinator ทำให้ IOTA ไม่เป็นระบบกระจายอำนาจอย่างแท้จริง

• **ปัญหาของ Coordinator:** Coordinator เป็นจุดศูนย์กลางที่อาจถูกโจมตีหรือควบคุมได้
• **การกำจัด Coordinator (Coordicide):** ทีมพัฒนา IOTA กำลังทำงานเพื่อกำจัด Coordinator และเปลี่ยนไปใช้ระบบกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า **Shards** และ **Fast Probabilistic Consensus (FPC)**

1. 1. 1. 6. กรณีการใช้งานของ IOTA

IOTA มีศักยภาพในการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน IoT:

• **Supply Chain Management:** การติดตามสินค้าและการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในห่วงโซ่อุปทาน
• **Smart Cities:** การจัดการข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ในเมือง เช่น การจราจร, คุณภาพอากาศ, และการใช้พลังงาน
• **e-Health:** การเก็บรักษาและแบ่งปันข้อมูลทางการแพทย์อย่างปลอดภัย
• **Microtransactions:** การชำระเงินขนาดเล็กจำนวนมากสำหรับบริการ IoT เช่น การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, การจ่ายค่าอินเทอร์เน็ต, และการเช่าอุปกรณ์
• **Data Marketplace:** การสร้างตลาดสำหรับข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์ IoT

1. 1. 1. 7. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการซื้อขาย IOTA

การวิเคราะห์ IOTA เพื่อการซื้อขาย (แม้ว่าจะไม่ใช่ไบนารี่ออปชั่นโดยตรง แต่หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์ตลาดก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้) สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ เช่น:

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** การใช้กราฟราคา, รูปแบบ (Patterns), และตัวชี้วัดทางเทคนิค (Indicators) เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา

   *   **Moving Averages (MA):** Moving Average ช่วยให้เห็นแนวโน้มของราคา
   *   **Relative Strength Index (RSI):** RSI บอกระดับการซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold)
   *   **MACD:** MACD ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมของราคา
   *   **Fibonacci Retracement:** Fibonacci Retracement ช่วยหาแนวรับและแนวต้าน

• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุจุดกลับตัว
• **การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis):** การศึกษาปัจจัยพื้นฐานของ IOTA เช่น เทคโนโลยี, ทีมพัฒนา, และกรณีการใช้งาน
• **Elliott Wave Theory:** Elliott Wave Theory ใช้ในการระบุรูปแบบคลื่นราคาเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต
• **Bollinger Bands:** Bollinger Bands ใช้เพื่อวัดความผันผวนของราคา
• **Ichimoku Cloud:** Ichimoku Cloud เป็นเครื่องมือที่ครอบคลุมสำหรับการระบุแนวโน้ม, แนวรับ, และแนวต้าน
• **Candlestick Patterns:** Candlestick Patterns ช่วยระบุสัญญาณการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของแนวโน้ม

1. 1. 1. 8. ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

• **เทคโนโลยีใหม่:** IOTA ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่และยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
• **การกำจัด Coordinator:** การกำจัด Coordinator อาจมีความเสี่ยงและอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเครือข่าย
• **การแข่งขัน:** IOTA ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากเทคโนโลยี DLT อื่นๆ
• **ความผันผวนของราคา:** ราคาของ IOTA มีความผันผวนสูง

1. 1. 1. 9. อนาคตของ IOTA

IOTA มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกของ IoT และ DLT หากทีมพัฒนาสามารถกำจัด Coordinator ได้สำเร็จ และสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างแพร่หลาย IOTA อาจกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับ Microtransactions และการจัดการข้อมูลในยุค IoT

1. 1. 1. 10. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

• **เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ IOTA:** [1](https://www.iota.org/)
• **IOTA Foundation:** [2](https://iota.org/en/foundation)
• **IOTA Wiki:** [3](https://wiki.iota.org/)
• **IOTA subreddit:** [4](https://www.reddit.com/r/IOTA/)

1. 1. 1. 11. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้อง (แม้ไม่ใช่ไบนารี่ออปชั่นโดยตรง)

• **Trend Following:** Trend Following ใช้การระบุแนวโน้มและทำการซื้อขายตามแนวโน้มนั้น
• **Mean Reversion:** Mean Reversion ใช้การหาค่าเฉลี่ยและทำการซื้อขายเมื่อราคาเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ย
• **Breakout Trading:** Breakout Trading ใช้การระบุแนวรับและแนวต้านและทำการซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวเหล่านั้น
• **Scalping:** Scalping เป็นการซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
• **Day Trading:** Day Trading เป็นการซื้อขายภายในวันเดียว
• **Swing Trading:** Swing Trading เป็นการถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์

ตัวอย่างตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ IOTA

ตัวชี้วัด	คำอธิบาย	การใช้งาน
Moving Average (MA)	ค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด	ระบุแนวโน้มของราคา
Relative Strength Index (RSI)	วัดความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงของราคา	ระบุภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
MACD	แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Moving Average สองเส้น	ระบุการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมของราคา
Fibonacci Retracement	ใช้ระดับ Fibonacci เพื่อหาแนวรับและแนวต้าน	คาดการณ์จุดกลับตัวของราคา
Bollinger Bands	แสดงความผันผวนของราคา	ระบุช่วงราคาที่อาจเกิดขึ้น

Blockchain Bitcoin Ethereum Internet of Things นักขุด ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง Proof-of-Work Proof-of-Stake Supply Chain Management Smart Cities e-Health Microtransactions Data Marketplace Technical Analysis Volume Analysis Fundamental Analysis Moving Average Relative Strength Index MACD Fibonacci Retracement Elliott Wave Theory Bollinger Bands Ichimoku Cloud Candlestick Patterns Trend Following Mean Reversion Breakout Trading Scalping Day Trading Swing Trading Sybil attack Shards Fast Probabilistic Consensus

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น