การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Exit Scams
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Exit Scams
บทนำ
ในโลกของการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความเสี่ยงสูง การหลอกลวงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องระวังอยู่เสมอ หนึ่งในกลยุทธ์การหลอกลวงที่ร้ายแรงที่สุดและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับนักลงทุนคือ “Exit Scam” หรือการหลอกลวงแบบถอนตัว บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Exit Scams โดยครอบคลุมถึงลักษณะสำคัญ วิธีการที่ผู้หลอกลวงใช้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยง วิธีการป้องกัน และสิ่งที่ควรทำหากตกเป็นเหยื่อ
Exit Scam คืออะไร?
Exit Scam คือการหลอกลวงที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ให้บริการ โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น หรือแพลตฟอร์มการลงทุนอื่นๆ ปิดตัวลงอย่างกะทันหัน พร้อมกับเงินทุนของนักลงทุนทั้งหมดที่ฝากไว้ในแพลตฟอร์มนั้น ผู้หลอกลวงจะสร้างแพลตฟอร์มที่ดูน่าเชื่อถือ ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาฝากเงิน และเมื่อได้เงินทุนจำนวนมากเพียงพอแล้ว พวกเขาก็จะปิดแพลตฟอร์มและหายไปโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือให้เหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผล
Exit Scams แตกต่างจากการล้มละลายของโบรกเกอร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากในการล้มละลายตามกฎหมาย จะมีกระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจนในการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ (รวมถึงนักลงทุน) แต่ในกรณีของ Exit Scam จะไม่มีกระบวนการเช่นนั้น และนักลงทุนจะสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
ลักษณะสำคัญของ Exit Scams
การระบุ Exit Scam ในระยะเริ่มต้นอาจเป็นเรื่องยาก แต่มีสัญญาณเตือนบางอย่างที่นักลงทุนควรสังเกต:
- สัญญาผลตอบแทนที่สูงเกินจริง: โบรกเกอร์ที่เสนอผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราตลาดอย่างมาก มักเป็นสัญญาณของความไม่น่าเชื่อถือ
- การตลาดที่เน้นการโน้มน้าวใจ: การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่กดดันให้ลงทุนอย่างรวดเร็ว หรือสัญญาว่าจะทำให้ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว
- ความโปร่งใสต่ำ: ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผู้บริหาร และสถานที่ตั้งไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถตรวจสอบได้
- การถอนเงินที่ล่าช้าหรือยากลำบาก: นักลงทุนประสบปัญหาในการถอนเงินออกจากแพลตฟอร์ม หรือถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินที่สูงเกินไป
- การขาดการกำกับดูแล: โบรกเกอร์ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เชื่อถือได้
- รีวิวเชิงลบจำนวนมาก: การค้นหารีวิวออนไลน์เกี่ยวกับโบรกเกอร์นั้นพบรีวิวเชิงลบจำนวนมากจากนักลงทุนรายอื่น
วิธีการที่ผู้หลอกลวงใช้
ผู้หลอกลวงใช้หลากหลายวิธีการเพื่อหลอกลวงนักลงทุน:
- การสร้างเว็บไซต์และแพลตฟอร์มปลอม: สร้างเว็บไซต์และแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดูน่าเชื่อถือ แต่จริงๆ แล้วเป็นของปลอม
- การใช้ข้อมูลเท็จ: ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของแพลตฟอร์มและผลตอบแทนที่คาดหวัง
- การบิดเบือนราคา: บิดเบือนราคาของสินทรัพย์ที่ทำการซื้อขายเพื่อให้ดูเหมือนว่านักลงทุนกำลังทำกำไรได้
- การใช้หุ่นยนต์เทรดปลอม: เสนอหุ่นยนต์เทรดที่อ้างว่าจะทำการซื้อขายให้โดยอัตโนมัติ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ทำงานตามที่โฆษณาไว้ หรือเป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ผู้ใช้สูญเสียเงิน
- การสร้างกลุ่มชุมชนปลอม: สร้างกลุ่มชุมชนออนไลน์เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและโน้มน้าวให้นักลงทุนรายอื่นเข้าร่วม
- การใช้ Affiliate Marketing: จ้างบุคคลอื่นให้โปรโมทแพลตฟอร์มของพวกเขาโดยให้ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งทำให้การหลอกลวงแพร่กระจายได้กว้างขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยง
มีหลายปัจจัยที่ทำให้ Exit Scams เกิดขึ้นได้ง่าย:
- การขาดความรู้: นักลงทุนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาด การเงิน และ การลงทุน มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อ
- ความโลภ: ความต้องการที่จะทำกำไรอย่างรวดเร็วและง่ายดายทำให้ผู้คนละเลยสัญญาณเตือน
- การขาดการตรวจสอบ: นักลงทุนไม่ได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มอย่างละเอียด
- การกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวด: การที่โบรกเกอร์ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เชื่อถือได้ทำให้พวกเขาสามารถหลอกลวงนักลงทุนได้อย่างง่ายดาย
- ความซับซ้อนของตลาด: ตลาด อนุพันธ์ เช่น ไบนารี่ออปชั่น มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ทำให้นักลงทุนทั่วไปเข้าใจได้ยาก
วิธีการป้องกัน Exit Scams
การป้องกัน Exit Scams ต้องอาศัยความระมัดระวังและความรู้:
- ตรวจสอบโบรกเกอร์: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เชื่อถือได้ เช่น CySEC, FCA, หรือ ASIC ตรวจสอบรายละเอียดบริษัทและประวัติผู้บริหาร
- อ่านรีวิว: ค้นหารีวิวออนไลน์เกี่ยวกับโบรกเกอร์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และระวังรีวิวที่ดูเหมือนถูกสร้างขึ้น
- เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินน้อย: หากตัดสินใจที่จะลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ไม่คุ้นเคย ให้เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินน้อยๆ ก่อน เพื่อทดสอบระบบการถอนเงินและความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์
- ทำความเข้าใจความเสี่ยง: ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ออปชั่น และอย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความสูญเสียได้
- ใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง: ใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง เช่น การตั้ง Stop-Loss และ การกระจายความเสี่ยง
- ระมัดระวังสัญญาที่สูงเกินจริง: อย่าหลงเชื่อสัญญาผลตอบแทนที่สูงเกินจริง เพราะไม่มีการลงทุนใดที่รับประกันผลตอบแทนที่แน่นอน
- ตรวจสอบข้อมูล: ตรวจสอบข้อมูลที่โบรกเกอร์ให้มาอย่างละเอียด และอย่าเชื่อข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน
- เรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค: การเรียนรู้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Fibonacci Retracement, Moving Averages, และ MACD จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
- เรียนรู้การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: การวิเคราะห์ ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค
สิ่งที่ควรทำหากตกเป็นเหยื่อ Exit Scam
หากคุณสงสัยว่าคุณตกเป็นเหยื่อของ Exit Scam ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- รวบรวมหลักฐาน: รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของคุณ เช่น สัญญาการซื้อขาย บันทึกการฝากและถอนเงิน และการสนทนากับโบรกเกอร์
- รายงานต่อหน่วยงานกำกับดูแล: รายงานเหตุการณ์ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เกี่ยวข้อง
- แจ้งความต่อตำรวจ: แจ้งความต่อตำรวจในพื้นที่ของคุณ
- ปรึกษาทนายความ: ปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำทางกฎหมาย
- เข้าร่วมกลุ่มผู้เสียหาย: เข้าร่วมกลุ่มผู้เสียหาย Exit Scam เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์
- อย่าจ่ายเงินเพิ่ม: อย่าจ่ายเงินเพิ่มให้กับผู้ที่อ้างว่าจะช่วยคุณกู้คืนเงินทุนของคุณ เพราะอาจเป็นการหลอกลวงซ้ำซ้อน
ตัวอย่าง Exit Scams ที่เกิดขึ้นจริง
มี Exit Scams หลายกรณีที่เกิดขึ้นจริงและสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น:
- OptionBit: โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่นที่ปิดตัวลงในปี 2016 พร้อมกับเงินทุนของนักลงทุนจำนวนมาก
- BinaryBook: โบรกเกอร์ที่อ้างว่ามีการกำกับดูแล แต่จริงๆ แล้วไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานใดๆ และปิดตัวลงพร้อมกับเงินทุนของนักลงทุน
- LBinary: โบรกเกอร์ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการบิดเบือนราคาและปฏิเสธการถอนเงินของนักลงทุน
สรุป
Exit Scams เป็นภัยคุกคามร้ายแรงสำหรับนักลงทุนในตลาดไบนารี่ออปชั่น การทำความเข้าใจลักษณะสำคัญ วิธีการที่ผู้หลอกลวงใช้ และวิธีการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง นักลงทุนควรระมัดระวัง ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด และลงทุนอย่างมีความรู้เพื่อลดความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
| กลยุทธ์ | คำอธิบาย |
|---|---|
| Stop-Loss | ตั้งจุด Stop-Loss เพื่อจำกัดความสูญเสียในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้ |
| Take-Profit | ตั้งจุด Take-Profit เพื่อล็อคผลกำไรเมื่อราคาถึงระดับที่คุณต้องการ |
| การกระจายความเสี่ยง | ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง |
| การกำหนดขนาด Position | กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ |
| การใช้ Ratio Risk-Reward | เลือกการซื้อขายที่มี Ratio Risk-Reward ที่เหมาะสม |
ลิงก์เพิ่มเติม
- ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร
- โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
- การบริหารความเสี่ยง
- Stop-Loss
- Take-Profit
- Fibonacci Retracement
- Moving Averages
- MACD
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
- กลยุทธ์ Martingale
- กลยุทธ์ Anti-Martingale
- กลยุทธ์ Trend Following
- กลยุทธ์ Breakout
- หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน (CySEC, FCA, ASIC)
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
