การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Bid-Ask Spread

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Bid-Ask Spread

Bid-Ask Spread หรือส่วนต่างราคาเสนอซื้อ-ราคาเสนอขาย เป็นแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) และตลาดการเงินโดยรวม การเข้าใจ Bid-Ask Spread ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถประเมินต้นทุนในการซื้อขาย, วางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้ บทความนี้จะอธิบาย Bid-Ask Spread อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงผลกระทบต่อการเทรดไบนารี่ออปชั่นและวิธีจัดการกับส่วนต่างนี้

      1. Bid-Ask Spread คืออะไร?

ในตลาดการเงินใดๆ ราคาของสินทรัพย์ทางการเงิน (เช่น สกุลเงิน, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์) จะไม่ได้มีราคาเดียวเสมอไป แต่จะมีการเสนอราคาซื้อ (Bid Price) และราคาขาย (Ask Price) ที่แตกต่างกัน

  • **Bid Price (ราคาเสนอซื้อ):** คือราคาที่ผู้ซื้อเต็มใจจะจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์นั้น
  • **Ask Price (ราคาเสนอขาย):** คือราคาที่ผู้ขายเต็มใจจะขายสินทรัพย์นั้น

Bid-Ask Spread คือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขาย (Ask Price) และราคาเสนอซื้อ (Bid Price) ซึ่งสามารถคำนวณได้ดังนี้:

Bid-Ask Spread = Ask Price – Bid Price

ตัวอย่างเช่น หากราคาเสนอซื้อสำหรับคู่เงิน EUR/USD คือ 1.0800 และราคาเสนอขายคือ 1.0805 Bid-Ask Spread จะเท่ากับ 0.0005 หรือ 5 pips (Points in Percentage)

      1. ทำไม Bid-Ask Spread ถึงเกิดขึ้น?

Bid-Ask Spread เกิดขึ้นเนื่องจาก:

1. **ต้นทุนการทำธุรกรรม:** โบรกเกอร์หรือผู้ทำตลาด (Market Maker) มีต้นทุนในการดำเนินการซื้อขาย เช่น ค่าธรรมเนียม, ค่าคอมมิชชั่น, และค่าใช้จ่ายในการจัดการความเสี่ยง 2. **ความเสี่ยงในการถือครอง:** ผู้ทำตลาดต้องรับความเสี่ยงในการถือครองสินทรัพย์นั้นระหว่างที่รอคู่ซื้อขายเกิดขึ้น พวกเขาจึงเรียกเก็บส่วนต่างราคาเพื่อชดเชยความเสี่ยงนี้ 3. **อุปสงค์และอุปทาน:** ในช่วงเวลาที่อุปสงค์สูงกว่าอุปทาน ราคาเสนอขายจะสูงกว่าราคาเสนอซื้อ และในทางกลับกัน 4. **สภาพคล่อง:** สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ (มีปริมาณการซื้อขายต่ำ) มักจะมี Bid-Ask Spread ที่กว้างกว่าสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง

      1. Bid-Ask Spread ในตลาดไบนารี่ออปชั่น

ในตลาด ไบนารี่ออปชั่น Bid-Ask Spread มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรของเทรดเดอร์ หาก Bid-Ask Spread กว้าง เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นในการเปิดตำแหน่ง ซึ่งจะลดกำไรที่อาจได้รับ หรือเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน

  • **การซื้อออปชั่น Call:** หากคุณซื้อออปชั่น Call คุณจะต้องจ่ายราคา Ask Price ซึ่งสูงกว่า Bid Price
  • **การซื้อออปชั่น Put:** หากคุณซื้อออปชั่น Put คุณจะได้รับราคา Bid Price ซึ่งต่ำกว่า Ask Price

ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่มี Bid-Ask Spread ที่แคบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น

      1. ปัจจัยที่มีผลต่อ Bid-Ask Spread

มีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อขนาดของ Bid-Ask Spread:

1. **สภาพคล่องของสินทรัพย์:** สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น คู่เงินหลัก (EUR/USD, GBP/USD) มักจะมี Bid-Ask Spread ที่แคบกว่าสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ เช่น คู่เงินรอง (USD/TRY, EUR/ZAR) 2. **ช่วงเวลาการซื้อขาย:** Bid-Ask Spread มักจะกว้างขึ้นในช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำ เช่น ช่วงเวลาตลาดปิด หรือในช่วงประกาศข่าวสำคัญ 3. **ความผันผวนของตลาด:** ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง Bid-Ask Spread มักจะกว้างขึ้นเนื่องจากผู้ทำตลาดต้องการชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 4. **โบรกเกอร์:** โบรกเกอร์แต่ละรายอาจมี Bid-Ask Spread ที่แตกต่างกัน เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินงานและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

      1. วิธีจัดการกับ Bid-Ask Spread

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถกำจัด Bid-Ask Spread ได้ แต่ก็มีหลายวิธีที่คุณสามารถจัดการกับมันเพื่อลดผลกระทบต่อการเทรดของคุณ:

1. **เลือกโบรกเกอร์ที่มี Bid-Ask Spread ที่แคบ:** เปรียบเทียบ Bid-Ask Spread ของโบรกเกอร์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ 2. **เทรดสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง:** สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงมักจะมี Bid-Ask Spread ที่แคบกว่า 3. **หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องต่ำ:** หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาตลาดปิด หรือในช่วงประกาศข่าวสำคัญ 4. **ใช้กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม:** บางกลยุทธ์การเทรด เช่น Scalping หรือ Day Trading อาจได้รับผลกระทบจาก Bid-Ask Spread มากกว่ากลยุทธ์การเทรดระยะยาว 5. **พิจารณาค่าคอมมิชชั่น:** บางโบรกเกอร์อาจเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นแทน Bid-Ask Spread หรือเรียกเก็บทั้งสองอย่าง เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนตัดสินใจ

      1. Bid-Ask Spread และกลยุทธ์การเทรด

Bid-Ask Spread สามารถส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์การเทรดต่างๆ ได้ดังนี้:

  • **Scalping:** กลยุทธ์ Scalping ที่เน้นการทำกำไรจากส่วนต่างราคาเล็กน้อย จะได้รับผลกระทบอย่างมากจาก Bid-Ask Spread ที่กว้าง
  • **Day Trading:** กลยุทธ์ Day Trading ที่เน้นการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาภายในวันเดียว ก็อาจได้รับผลกระทบจาก Bid-Ask Spread โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเทรดสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ
  • **Swing Trading:** กลยุทธ์ Swing Trading ที่เน้นการถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ มักจะไม่ได้รับผลกระทบจาก Bid-Ask Spread มากนัก
  • **Position Trading:** กลยุทธ์ Position Trading ที่เน้นการถือครองตำแหน่งเป็นเวลานาน อาจไม่ได้รับผลกระทบจาก Bid-Ask Spread เลย
      1. ตัวอย่างการคำนวณผลกระทบของ Bid-Ask Spread

สมมติว่าคุณต้องการเทรดคู่เงิน EUR/USD โดยมีราคาเสนอซื้อ (Bid Price) ที่ 1.0800 และราคาเสนอขาย (Ask Price) ที่ 1.0805 Bid-Ask Spread คือ 0.0005 หรือ 5 pips

  • **หากคุณซื้อ EUR/USD ในราคา Ask (1.0805) และขายในราคา Bid (1.0800) คุณจะขาดทุนทันที 5 pips** ก่อนที่จะพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของราคา!
  • **หากคุณต้องการทำกำไร 10 pips คุณจะต้องรอให้ราคาขึ้นไปถึง 1.0815 เพื่อครอบคลุม Bid-Ask Spread และทำกำไรที่ต้องการ**

ดังนั้น การคำนึงถึง Bid-Ask Spread เป็นสิ่งสำคัญในการคำนวณเป้าหมายกำไรและความเสี่ยงในการเทรดของคุณ

      1. การวิเคราะห์ Bid-Ask Spread เพื่อประเมินสภาพคล่อง

การติดตาม Bid-Ask Spread สามารถช่วยให้คุณประเมินสภาพคล่องของสินทรัพย์ได้ หาก Bid-Ask Spread กว้างขึ้น อาจบ่งชี้ว่าสภาพคล่องของสินทรัพย์นั้นลดลง ซึ่งอาจทำให้การซื้อขายยากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด Slippage (การซื้อขายในราคาที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง)

      1. เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ Bid-Ask Spread

มีเครื่องมือหลายอย่างที่สามารถช่วยคุณวิเคราะห์ Bid-Ask Spread ได้:

  • **แพลตฟอร์มการซื้อขาย:** แพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่จะแสดง Bid-Ask Spread แบบเรียลไทม์
  • **เว็บไซต์การเงิน:** เว็บไซต์การเงินหลายแห่ง เช่น Investing.com หรือ Bloomberg จะแสดงข้อมูล Bid-Ask Spread สำหรับสินทรัพย์ต่างๆ
  • **เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค:** เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคบางอย่าง เช่น Heatmaps สามารถแสดง Bid-Ask Spread สำหรับสินทรัพย์หลายรายการพร้อมกันได้
      1. สรุป

Bid-Ask Spread เป็นแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน การเข้าใจ Bid-Ask Spread ช่วยให้คุณประเมินต้นทุนในการซื้อขาย, วางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น ที่ Bid-Ask Spread สามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของคุณอย่างมาก ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่มี Bid-Ask Spread ที่แคบ, เทรดสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง, และใช้กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดได้มากยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | การจัดการความเสี่ยง | กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่น | Slippage | Market Maker | สภาพคล่องของตลาด | Scalping | Day Trading | Swing Trading | Position Trading | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | แนวโน้มของตลาด | การใช้ Stop Loss | การใช้ Take Profit | Bollinger Bands | Moving Averages | Fibonacci Retracements | MACD | RSI | Ichimoku Cloud | Elliott Wave Theory | Candlestick Patterns


เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер