การทำความเข้าใจกับ Tape Reading

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การทำความเข้าใจกับ Tape Reading

Tape Reading เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ตลาดที่เก่าแก่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตีความข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายแบบเรียลไทม์ที่ปรากฏบน “Tape” หรือในปัจจุบันคือหน้าจอแสดงข้อมูลราคาหุ้น เทคนิคนี้เดิมทีถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการซื้อขายหุ้น แต่ปัจจุบันก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขายในตลาดอื่นๆ รวมถึง ไบนารี่ออปชั่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายหลักการพื้นฐานของ Tape Reading, วิธีการนำไปใช้ และข้อควรระวังสำหรับผู้เริ่มต้น

      1. ประวัติความเป็นมาของ Tape Reading

Tape Reading มีต้นกำเนิดมาจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ในสมัยนั้น ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายจะถูกพิมพ์ออกมาบนกระดาษยาวที่เรียกว่า “Stock Tape” นักเทรดจะนั่งเฝ้าดู Tape เหล่านี้เพื่อจับสัญญาณของราคาและปริมาณการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อทำกำไรจากการเก็งกำไรระยะสั้น

นักเทรดที่มีชื่อเสียงอย่าง Jesse Livermore เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Tape Reading และได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเทคนิคนี้ไว้มากมาย ทำให้ Tape Reading กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้เทรด อย่างไรก็ตาม เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายก็ถูกแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แทน Tape กระดาษ ทำให้ Tape Reading กลายเป็นเทคนิคที่ซับซ้อนน้อยลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

      1. หลักการพื้นฐานของ Tape Reading

Tape Reading เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อระบุแนวโน้มของตลาดและหาโอกาสในการซื้อขาย หลักการพื้นฐานของ Tape Reading ประกอบด้วย:

  • **ราคา (Price):** การสังเกตการเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Tape Reading นักเทรดจะมองหารูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงแนวโน้มของตลาด เช่น การเกิด แท่งเทียน ที่มีขนาดใหญ่ หรือการเกิดรูปแบบ กราฟราคา ที่ชัดเจน
  • **ปริมาณการซื้อขาย (Volume):** ปริมาณการซื้อขายเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หากราคาปรับตัวขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นมีพลัง หากราคาปรับตัวลงพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แสดงว่าแนวโน้มขาลงมีพลัง
  • **ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของราคา (Speed of Price Change):** ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของราคาบ่งบอกถึงความแรงของแรงซื้อหรือแรงขาย หากราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง หากราคาปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่ง
  • **Spread:** Spread คือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อสูงสุดและราคาขายต่ำสุด หาก Spread กว้าง แสดงว่าตลาดมีความผันผวนสูงและมีสภาพคล่องต่ำ หาก Spread แคบ แสดงว่าตลาดมีความผันผวนต่ำและมีสภาพคล่องสูง
  • **Order Flow:** การวิเคราะห์ Order Flow คือการสังเกตการไหลของคำสั่งซื้อและคำสั่งขายในตลาด Order Flow สามารถช่วยให้นักเทรดเข้าใจถึงความต้องการของตลาดและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
      1. การนำ Tape Reading ไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

Tape Reading สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้ โดยนักเทรดจะใช้ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อ Call Option หรือ Put Option

  • **แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend):** หาก Tape Reading บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มขาขึ้น นักเทรดอาจเลือกซื้อ Call Option เพื่อทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคา
  • **แนวโน้มขาลง (Downtrend):** หาก Tape Reading บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มขาลง นักเทรดอาจเลือกซื้อ Put Option เพื่อทำกำไรจากการปรับตัวลงของราคา
  • **ช่วง Sideways:** หาก Tape Reading บ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในช่วง Sideways นักเทรดอาจหลีกเลี่ยงการซื้อขาย หรือใช้กลยุทธ์การซื้อขายในช่วง Sideways เช่น Range Trading หรือ Breakout Trading
      1. เครื่องมือที่ใช้ในการทำ Tape Reading

ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้นักเทรดสามารถทำ Tape Reading ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือเหล่านี้รวมถึง:

  • **กราฟราคา (Price Charts):** กราฟราคาเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการทำ Tape Reading นักเทรดสามารถใช้กราฟราคาเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของราคาและหารูปแบบราคาที่บ่งบอกถึงแนวโน้มของตลาด Bollinger Bands และ Moving Averages เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม
  • **Volume Charts:** Volume Charts แสดงปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลาต่างๆ นักเทรดสามารถใช้ Volume Charts เพื่อวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของแนวโน้มและหาโอกาสในการซื้อขาย
  • **Level 2 Quotes:** Level 2 Quotes แสดงข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายจากผู้ซื้อและผู้ขายหลายราย นักเทรดสามารถใช้ Level 2 Quotes เพื่อดู Order Flow และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
  • **Time and Sales:** Time and Sales แสดงข้อมูลการซื้อขายแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นในตลาด นักเทรดสามารถใช้ Time and Sales เพื่อดูความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของราคาและ Order Flow
      1. กลยุทธ์ Tape Reading ที่นิยมใช้
  • **Breakout Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเมื่อราคา breakout จากช่วง Sideways หรือรูปแบบกราฟราคาอื่นๆ นักเทรดจะมองหาระดับแนวรับและแนวต้านที่แข็งแกร่ง และซื้อเมื่อราคา breakout เหนือแนวต้าน หรือขายเมื่อราคา breakout ใต้แนวรับ
  • **Pullback Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเมื่อราคา pullback หรือปรับตัวลงหลังจากที่เกิดการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นักเทรดจะมองหาแนวรับที่แข็งแกร่ง และซื้อเมื่อราคา pullback ไปที่แนวรับ
  • **Fade the Move:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสวนทางกับแนวโน้มปัจจุบัน นักเทรดจะมองหาแนวโน้มที่มากเกินไป และขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว
  • **Momentum Trading:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามแนวโน้มปัจจุบัน นักเทรดจะมองหาแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และซื้อเมื่อราคาปรับตัวขึ้น หรือขายเมื่อราคาปรับตัวลง Relative Strength Index (RSI) และ Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในการวัด Momentum
      1. ข้อควรระวังในการทำ Tape Reading

Tape Reading เป็นเทคนิคที่ซับซ้อนและต้องใช้ประสบการณ์ในการฝึกฝน นักเทรดควรระวังข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำ Tape Reading ดังนี้:

  • **Overtrading:** การ Overtrading คือการซื้อขายมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่นักเทรดพยายามจับสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ ใน Tape Reading ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้
  • **False Signals:** Tape Reading อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาดได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่ตลาดมีความผันผวนสูง หรือมีข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อราคา นักเทรดควรใช้เครื่องมืออื่นๆ ร่วมกับ Tape Reading เพื่อยืนยันสัญญาณ
  • **Emotional Trading:** การซื้อขายด้วยอารมณ์อาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด นักเทรดควรมีวินัยในการซื้อขายและปฏิบัติตามแผนการซื้อขายที่วางไว้
  • **Ignoring Risk Management:** การไม่ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอาจทำให้เกิดการขาดทุนครั้งใหญ่ นักเทรดควรตั้ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อจำกัดความเสี่ยง
      1. สรุป

Tape Reading เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ตลาดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้ อย่างไรก็ตาม Tape Reading เป็นเทคนิคที่ซับซ้อนและต้องใช้ประสบการณ์ในการฝึกฝน นักเทรดควรศึกษาหลักการพื้นฐานของ Tape Reading, ฝึกฝนการใช้เครื่องมือที่เกี่ยวข้อง และระมัดระวังข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำ Tape Reading เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

ตัวอย่างกลยุทธ์ Tape Reading สำหรับไบนารี่ออปชั่น
กลยุทธ์ สัญญาณ การดำเนินการ ระดับความเสี่ยง
Breakout Call Option ราคา Breakout เหนือแนวต้านที่แข็งแกร่ง พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ซื้อ Call Option ปานกลาง
Breakout Put Option ราคา Breakout ใต้แนวรับที่แข็งแกร่ง พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ซื้อ Put Option ปานกลาง
Pullback Call Option ราคา Pullback ไปที่แนวรับที่แข็งแกร่ง พร้อมรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว ซื้อ Call Option ต่ำ
Pullback Put Option ราคา Pullback ไปที่แนวต้านที่แข็งแกร่ง พร้อมรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว ซื้อ Put Option ต่ำ
Fade the Move Call Option ราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป พร้อม Divergence ใน RSI ซื้อ Put Option สูง
Fade the Move Put Option ราคาปรับตัวลงอย่างรวดเร็วเกินไป พร้อม Divergence ใน RSI ซื้อ Call Option สูง

การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นส่วนสำคัญของการทำ Tape Reading เช่นเดียวกับ การวิเคราะห์พื้นฐาน และ การจัดการความเสี่ยง การทำความเข้าใจ จิตวิทยาการเทรด ก็มีความสำคัญเช่นกัน การใช้ Trailing Stop สามารถช่วยในการจัดการความเสี่ยงได้ และการเรียนรู้เกี่ยวกับ รูปแบบกราฟราคา จะช่วยในการระบุโอกาสในการซื้อขาย

Fibonacci Retracement และ Elliott Wave Theory เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ร่วมกับ Tape Reading เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา การทำความเข้าใจ Order Block และ Liquidity Pool ก็สามารถช่วยในการระบุจุดเข้าซื้อขายที่ดีได้

Ichimoku Cloud เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถใช้ร่วมกับ Tape Reading เพื่อยืนยันแนวโน้มของตลาด และ Parabolic SAR สามารถใช้เป็นสัญญาณในการออกจากตลาด

Hedging เป็นเทคนิคที่สามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น และ Martingale เป็นกลยุทธ์การเพิ่มขนาดการเดิมพันที่ควรใช้อย่างระมัดระวัง

ข่าวสารเศรษฐกิจ และ ปฏิทินเศรษฐกิจ สามารถส่งผลกระทบต่อตลาด และนักเทรดควรติดตามข่าวสารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ

การ Backtesting เป็นวิธีการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายก่อนที่จะนำไปใช้จริง และ การทำ Journal การเทรด สามารถช่วยให้นักเทรดเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง

การเลือกโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น ที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ และนักเทรดควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์นั้นได้รับการควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ

การถอนเงินจากบัญชีไบนารี่ออปชั่น ควรทำอย่างระมัดระวัง และนักเทรดควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์นั้นมีนโยบายการถอนเงินที่ชัดเจนและโปร่งใส

การป้องกันการหลอกลวงไบนารี่ออปชั่น เป็นสิ่งสำคัญ และนักเทรดควรระวังโบรกเกอร์ที่เสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือมีข้อกำหนดการถอนเงินที่ยุ่งยาก

การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่น เป็นสิ่งสำคัญ และนักเทรดควรเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น หนังสือ บทความ และหลักสูตรออนไลน์

(Category:Stock Trading) - Tape Reading เป็นเทคนิคที่ใช้ในการซื้อขายหุ้น
(Category:Binary Options) - Tape Reading สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้
(Category:Technical Analysis) - Tape Reading เป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ทางเทคนิค

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер