การตีความ OBV
- การตีความ OBV (On Balance Volume) สำหรับผู้เริ่มต้น
On Balance Volume (OBV) คือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ที่พัฒนาโดย จูดิธ ไวล์ด (Jude Wyllie) ในปี 1963 OBV เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัม (Momentum Indicator) ที่สัมพันธ์กับปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) และราคาของสินทรัพย์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อวัดแรงกดดันในการซื้อขาย (Buying and Selling Pressure) และยืนยันแนวโน้ม (Trend) ของราคา หรือแม้กระทั่งบ่งชี้การกลับตัวของแนวโน้ม
บทความนี้จะนำเสนอคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ OBV สำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงวิธีการคำนวณ การตีความสัญญาณ และการนำไปใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น
- หลักการทำงานของ OBV
OBV ทำงานโดยการสะสมปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาปิดสูงขึ้น และลดปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาปิดต่ำลง แนวคิดพื้นฐานคือ หากปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาเพิ่มขึ้น แสดงว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาลดลง แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่ง
- วิธีการคำนวณ OBV
การคำนวณ OBV ค่อนข้างง่าย มีขั้นตอนดังนี้:
1. **เริ่มต้นด้วยค่า OBV ที่ 0** ในช่วงเริ่มต้น 2. **สำหรับแต่ละช่วงเวลา (เช่น วัน)** ให้พิจารณาราคาปิดเทียบกับราคาปิดของช่วงเวลาก่อนหน้า 3. **ถ้า ราคาปิดปัจจุบัน > ราคาปิดก่อนหน้า:** ให้บวกปริมาณการซื้อขายของช่วงเวลาปัจจุบันเข้ากับค่า OBV ก่อนหน้า 4. **ถ้า ราคาปิดปัจจุบัน < ราคาปิดก่อนหน้า:** ให้ลบปริมาณการซื้อขายของช่วงเวลาปัจจุบันออกจากค่า OBV ก่อนหน้า 5. **ถ้า ราคาปิดปัจจุบัน = ราคาปิดก่อนหน้า:** ให้ค่า OBV คงที่
สูตรอย่างง่ายคือ:
OBV = OBV ก่อนหน้า + (ปริมาณการซื้อขาย ถ้า ราคาปิดปัจจุบัน > ราคาปิดก่อนหน้า) - (ปริมาณการซื้อขาย ถ้า ราคาปิดปัจจุบัน < ราคาปิดก่อนหน้า)
ตัวอย่างเช่น:
| วันที่ ! ราคาปิด ! ปริมาณการซื้อขาย ! OBV |
|---|
| 10 | 1000 | 0 |
| 12 | 1500 | 1500 |
| 11 | 800 | 700 |
| 13 | 1200 | 1900 |
| 13 | 900 | 2800 |
- การตีความสัญญาณ OBV
การตีความสัญญาณ OBV มีหลายรูปแบบ ดังนี้:
- **OBV แนวโน้มขึ้น:** แสดงว่ามีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มของราคามีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้น นี่เป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้ม ขาขึ้น
- **OBV แนวโน้มลง:** แสดงว่ามีแรงขายที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มของราคามีแนวโน้มที่จะเป็นขาลง นี่เป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้ม ขาลง
- **การเบี่ยงเบน (Divergence):** การเบี่ยงเบนเกิดขึ้นเมื่อราคาและ OBV เคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
* **Bearish Divergence:** ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ OBV ทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า แสดงว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแอลง และอาจมีการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลง * **Bullish Divergence:** ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ OBV ทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่า แสดงว่าแรงขายกำลังอ่อนแอลง และอาจมีการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้น
- **การทะลุแนวรับ/แนวต้าน (Breakout):** การทะลุแนวรับหรือแนวต้านของ OBV อาจบ่งชี้ถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่
- **OBV ที่ทรงตัว (Flat OBV):** แสดงว่าไม่มีแรงกดดันในการซื้อขายที่ชัดเจน และราคาอาจมีการเคลื่อนที่ในกรอบ sideways
- การใช้ OBV ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
OBV สามารถนำไปใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้หลายวิธี:
1. **ยืนยันแนวโน้ม:** ใช้ OBV เพื่อยืนยันแนวโน้มที่เห็นจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) หรือ MACD 2. **การซื้อขายตามการเบี่ยงเบน:** เมื่อเกิดการเบี่ยงเบน ให้พิจารณาเปิดออปชั่นในทิศทางตรงกันข้ามกับการเบี่ยงเบน
* **Bearish Divergence:** เปิดออปชั่น Put * **Bullish Divergence:** เปิดออปชั่น Call
3. **การซื้อขายตามการทะลุ:** เมื่อ OBV ทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ให้พิจารณาเปิดออปชั่นในทิศทางของการทะลุ 4. **ใช้ร่วมกับรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns):** การรวม OBV กับรูปแบบแท่งเทียน เช่น Doji หรือ Engulfing Pattern สามารถเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขายได้
- ข้อจำกัดของ OBV
แม้ว่า OBV จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ:
- **ความล่าช้า (Lagging Indicator):** OBV เป็นตัวบ่งชี้ที่ตามหลังราคา ซึ่งหมายความว่าสัญญาณที่ได้อาจเกิดขึ้นหลังจากที่การเปลี่ยนแปลงของราคามีขึ้นแล้ว
- **ความอ่อนไหวต่อปริมาณการซื้อขาย:** OBV จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากปริมาณการซื้อขายที่ผิดปกติ เช่น การซื้อขายจำนวนมากที่เกิดจากการเก็งกำไร
- **ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สมบูรณ์:** OBV ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขาย
- กลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้ OBV ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ
- **OBV และ RSI:** การใช้ OBV ร่วมกับ Relative Strength Index (RSI) สามารถช่วยระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ได้
- **OBV และ MACD:** การใช้ OBV ร่วมกับ MACD สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและสัญญาณการกลับตัวได้
- **OBV และ Fibonacci Retracement:** การใช้ OBV ร่วมกับ Fibonacci Retracement สามารถช่วยระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้
- **OBV และ Volume Profile:** การใช้ OBV ร่วมกับ Volume Profile สามารถช่วยระบุระดับราคาที่ปริมาณการซื้อขายมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่แข็งแกร่ง
- **OBV และ Ichimoku Cloud:** การใช้ OBV ร่วมกับ Ichimoku Cloud สามารถช่วยยืนยันแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขายได้
- การบริหารความเสี่ยงเมื่อใช้ OBV
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องมือใดก็ตาม:
- **กำหนดขนาดการลงทุน (Position Sizing):** กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้
- **ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss):** ตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหายหากการซื้อขายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- **อย่าลงทุนเกินตัว:** อย่าลงทุนเกินจำนวนเงินที่คุณสามารถเสียได้
- **ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account):** ฝึกฝนการใช้ OBV และกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ ในบัญชีทดลองก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง
- สรุป
OBV เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการวัดแรงกดดันในการซื้อขายและยืนยันแนวโน้มของราคา การทำความเข้าใจวิธีการคำนวณ การตีความสัญญาณ และการนำไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า OBV ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สมบูรณ์ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค โมเมนตัม ปริมาณการซื้อขาย แนวโน้ม การเบี่ยงเบน การทะลุ ไบนารี่ออปชั่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ MACD RSI Fibonacci Retracement Volume Profile Ichimoku Cloud รูปแบบแท่งเทียน Doji Engulfing Pattern กลยุทธ์การซื้อขาย การบริหารความเสี่ยง การลงทุน การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย การซื้อขายแบบมีวินัย
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
