การติดตามผลการดำเนินงานของโปรเจกต์บน BSC
- การติดตามผลการดำเนินงานของโปรเจกต์บน BSC
บทความนี้จะกล่าวถึงการนำ Balanced Scorecard (BSC) มาใช้ในการติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ (Project) ต่างๆ โดยเน้นที่การประยุกต์ใช้สำหรับผู้เริ่มต้น และเชื่อมโยงกับความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโครงการและการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจในการลงทุน รวมถึงการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ด้วย
- บทนำสู่ Balanced Scorecard (BSC)
Balanced Scorecard หรือ BSC คือ เครื่องมือบริหารเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาโดย Robert Kaplan และ David Norton ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 BSC ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ตัวชี้วัดทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาตัวชี้วัดจากมุมมองที่หลากหลายเพื่อให้ภาพรวมขององค์กรที่ครอบคลุมมากขึ้น มุมมองหลักของ BSC ได้แก่:
- **มุมมองทางการเงิน (Financial Perspective):** วัดผลการดำเนินงานด้านการเงิน เช่น ผลกำไร, ส่วนแบ่งการตลาด, ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น
- **มุมมองลูกค้า (Customer Perspective):** วัดผลความพึงพอใจของลูกค้า, ส่วนแบ่งการรักษาลูกค้า, การได้มาซึ่งลูกค้าใหม่
- **มุมมองกระบวนการภายใน (Internal Process Perspective):** วัดผลประสิทธิภาพของกระบวนการภายในองค์กร, การปรับปรุงคุณภาพ, การลดต้นทุน
- **มุมมองการเรียนรู้และพัฒนา (Learning and Growth Perspective):** วัดผลความสามารถของพนักงาน, การลงทุนในเทคโนโลยี, การสร้างนวัตกรรม
การนำ BSC มาใช้กับการติดตามผลการดำเนินงานของโครงการจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมของโครงการกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และสามารถปรับปรุงการดำเนินงานของโครงการให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้
- ทำไมต้องใช้ BSC ในการติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ
การติดตามผลการดำเนินงานของโครงการด้วยวิธีดั้งเดิม เช่น การวัดความคืบหน้าของงานตามแผน (Gantt Chart) หรือการวัดต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง (Earned Value Management) อาจมีข้อจำกัดในการวัดผลกระทบของโครงการต่อเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร BSC ช่วยแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ได้ดังนี้:
- **มองเห็นภาพรวม:** BSC ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นภาพรวมของโครงการจากมุมมองที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ความคืบหน้าของงาน
- **เชื่อมโยงกับกลยุทธ์:** BSC ช่วยเชื่อมโยงกิจกรรมของโครงการกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการจะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น
- **ปรับปรุงการตัดสินใจ:** BSC ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องแก่ผู้บริหาร ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- **วัดผลกระทบระยะยาว:** BSC ช่วยวัดผลกระทบของโครงการในระยะยาว ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในทันที
- ขั้นตอนการนำ BSC มาใช้ในการติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ
1. **กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของโครงการ:** ขั้นตอนแรกคือการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของโครงการให้ชัดเจน เป้าหมายเหล่านี้ควรสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรคือการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด โครงการอาจมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า 2. **กำหนดมุมมอง BSC:** เลือกมุมมอง BSC ที่เหมาะสมกับโครงการ โดยทั่วไปแล้ว โครงการส่วนใหญ่จะใช้ทั้งสี่มุมมองหลัก แต่บางโครงการอาจเน้นมุมมองบางมุมมองเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น โครงการที่เน้นการปรับปรุงกระบวนการภายในอาจให้ความสำคัญกับมุมมองกระบวนการภายในเป็นพิเศษ 3. **กำหนดตัวชี้วัด (KPIs):** กำหนดตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลการดำเนินงานของโครงการในแต่ละมุมมองได้ ตัวชี้วัดเหล่านี้ควรมีความเฉพาะเจาะจง, วัดผลได้, ทำได้จริง, เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน (SMART) ตัวอย่างเช่น:
* **มุมมองทางการเงิน:** ต้นทุนโครงการ, ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI), ระยะเวลาคืนทุน * **มุมมองลูกค้า:** ความพึงพอใจของลูกค้า, จำนวนลูกค้าใหม่, อัตราการรักษาลูกค้า * **มุมมองกระบวนการภายใน:** ระยะเวลาในการดำเนินงาน, จำนวนข้อผิดพลาด, ต้นทุนต่อหน่วย * **มุมมองการเรียนรู้และพัฒนา:** จำนวนพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรม, ระดับความพึงพอใจของพนักงาน, จำนวนนวัตกรรมที่เกิดขึ้น
4. **กำหนดเป้าหมายของตัวชี้วัด:** กำหนดเป้าหมายสำหรับแต่ละตัวชี้วัดที่ต้องการให้บรรลุ เป้าหมายเหล่านี้ควรมีความท้าทายแต่สามารถทำได้จริง 5. **รวบรวมข้อมูลและติดตามผล:** รวบรวมข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงานของโครงการอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสม เช่น ระบบรายงาน, การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า, การวิเคราะห์ข้อมูล 6. **วิเคราะห์ผลการดำเนินงานและปรับปรุง:** วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของโครงการและเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ หากพบว่ามีส่วนใดที่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ให้วิเคราะห์สาเหตุและดำเนินการปรับปรุง
- การประยุกต์ใช้ BSC กับการวิเคราะห์ทางการเงินและการลงทุน
BSC สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ทางการเงินและการลงทุนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประเมินศักยภาพของโครงการและการตัดสินใจลงทุน ตัวอย่างเช่น:
- **การประเมินความเสี่ยง:** BSC ช่วยในการประเมินความเสี่ยงของโครงการโดยพิจารณาจากมุมมองที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ความเสี่ยงทางการเงิน
- **การวิเคราะห์ความคุ้มค่า:** BSC ช่วยในการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของโครงการโดยพิจารณาถึงผลประโยชน์ที่โครงการจะได้รับในทุกมุมมอง ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ทางการเงิน
- **การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ:** BSC ช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของโครงการโดยพิจารณาถึงความสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร
ความรู้เกี่ยวกับ การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์พื้นฐาน สามารถนำมาเสริมการวิเคราะห์ข้อมูลจาก BSC ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน
- BSC กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
แม้ว่า BSC จะถูกออกแบบมาสำหรับการบริหารจัดการองค์กร แต่แนวคิดบางอย่างสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น ได้เช่นกัน:
- **กำหนดเป้าหมาย (Financial Perspective):** กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนที่ต้องการจากการซื้อขาย
- **วิเคราะห์ลูกค้า (Customer Perspective):** ทำความเข้าใจตลาดและแนวโน้มราคา (คล้ายกับการเข้าใจความต้องการของลูกค้า)
- **พัฒนาทักษะ (Learning & Growth Perspective):** เรียนรู้ กลยุทธ์การซื้อขาย ใหม่ๆ และพัฒนาทักษะการวิเคราะห์
- **ปรับปรุงกลยุทธ์ (Internal Process Perspective):** ปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขาย ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด
การใช้ Indicator ต่างๆ เช่น Moving Average, RSI, MACD และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย สามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อขายได้
- ตัวอย่างการใช้ BSC ในโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์
สมมติว่าบริษัทกำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้า นี่คือตัวอย่างการใช้ BSC ในโครงการนี้:
| ! ตัวชี้วัด (KPI) |! เป้าหมาย |! แหล่งข้อมูล | | - | |- | |- | | ต้นทุนโครงการ | ไม่เกิน 500,000 บาท | ระบบบัญชีโครงการ | | ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) | 20% ภายใน 2 ปี | แผนการตลาดและการขาย | | ความพึงพอใจของลูกค้า | 80% ขึ้นไป | แบบสำรวจความพึงพอใจ | | จำนวนลูกค้าใหม่ที่ใช้ซอฟต์แวร์ | 1,000 คนภายใน 6 เดือน | ระบบ CRM | | ระยะเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์ | ไม่เกิน 6 เดือน | Gantt Chart, ระบบติดตามงาน | | จำนวนข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ | น้อยกว่า 10 ข้อต่อเดือน | ระบบรายงานข้อผิดพลาด | | จำนวนนักพัฒนาที่ได้รับการฝึกอบรม | 100% ของทีม | แผนการฝึกอบรม | | จำนวนนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในซอฟต์แวร์ | 3 นวัตกรรมต่อปี | รายงานการวิจัยและพัฒนา | |
- ข้อควรระวังในการใช้ BSC
- **ความซับซ้อน:** BSC อาจมีความซับซ้อนในการออกแบบและนำไปใช้
- **การรวบรวมข้อมูล:** การรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้อาจเป็นเรื่องยาก
- **การเปลี่ยนแปลง:** BSC ควรได้รับการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
การใช้เครื่องมือช่วยในการบริหารโครงการ เช่น Microsoft Project หรือ Asana สามารถช่วยให้การรวบรวมข้อมูลและติดตามผลเป็นไปได้ง่ายขึ้น
- สรุป
Balanced Scorecard เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ โดยช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นภาพรวมของโครงการจากมุมมองที่หลากหลาย และเชื่อมโยงกิจกรรมของโครงการกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร การนำ BSC มาประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ทางการเงินและการลงทุนจะช่วยให้การตัดสินใจลงทุนมีความรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่า BSC จะถูกออกแบบมาสำหรับการบริหารจัดการองค์กร แต่แนวคิดบางอย่างก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้เช่นกัน การทำความเข้าใจหลักการของ BSC และการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของโครงการ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
การบริหารความเสี่ยงโครงการ ก็เป็นส่วนสำคัญในการทำให้โครงการบรรลุเป้าหมายตามที่ BSC กำหนดไว้ การใช้ เทคนิคการพยากรณ์ ก็สามารถช่วยในการกำหนดเป้าหมายที่สมเหตุสมผลได้ นอกจากนี้ การทำความเข้าใจการจัดการต้นทุนโครงการ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายทางการเงินที่กำหนดไว้ใน BSC
การวางแผนโครงการ ที่ดีเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการนำ BSC มาใช้ การใช้การวิเคราะห์ SWOT เพื่อประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของโครงการ จะช่วยในการกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสม การใช้การวิเคราะห์ PESTLE เพื่อประเมินปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อโครงการ ก็เป็นประโยชน์เช่นกัน การทำความเข้าใจวงจรชีวิตของโครงการ จะช่วยให้สามารถปรับ BSC ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงของโครงการได้
การใช้การจัดการคุณภาพโครงการ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ของโครงการเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ การใช้การสื่อสารโครงการ ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการ การใช้การจัดการการเปลี่ยนแปลงโครงการ จะช่วยให้การปรับเปลี่ยนใดๆ ในโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น
การบริหารทรัพยากรโครงการ ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น การใช้การจัดซื้อจัดจ้างโครงการ ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ได้มาซึ่งทรัพยากรที่จำเป็นในราคาที่เหมาะสม การใช้การจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโครงการ ที่ดี จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน
การประเมินผลโครงการ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการนำ BSC มาใช้ การประเมินผลโครงการจะช่วยให้เรียนรู้จากประสบการณ์และปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต การใช้การวิเคราะห์แนวโน้ม ก็สามารถช่วยในการประเมินผลโครงการได้
การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจลงทุน
การใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Excel, Power BI หรือ Tableau สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก BSC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวิเคราะห์ความแปรปรวน จะช่วยในการระบุส่วนที่โครงการเบี่ยงเบนไปจากแผน
การปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง (Kaizen) สามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุง BSC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การตลาดดิจิทัล ก็เป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
การบริหารความรู้ จะช่วยให้องค์กรสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์และนำไปปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต
การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้โครงการประสบความสำเร็จ
การจัดการเวลา ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้โครงการดำเนินไปตามกำหนดเวลา
การเจรจาต่อรอง เป็นทักษะที่สำคัญในการบริหารโครงการ
การแก้ปัญหา เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้บริหารโครงการ
การตัดสินใจ ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้โครงการประสบความสำเร็จ
การเป็นผู้นำ ที่มีวิสัยทัศน์จะช่วยนำพาโครงการไปสู่ความสำเร็จ
การบริหารความขัดแย้ง เป็นทักษะที่จำเป็นในการจัดการกับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในโครงการ
การสร้างแรงจูงใจ ให้กับทีมงานจะช่วยให้พวกเขามุ่งมั่นที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ
การวัดผลกระทบทางสังคม ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการประเมินความยั่งยืนของโครงการ
การบริหารโครงการแบบ Agile เป็นวิธีการบริหารโครงการที่เน้นความยืดหยุ่นและการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
