การซื้อ (Call Option)
- การซื้อ (Call Option)
การซื้อ (Call Option) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานและสำคัญที่สุดในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Call Option สำหรับผู้เริ่มต้น ตั้งแต่ความหมาย, หลักการทำงาน, ปัจจัยที่มีผลกระทบ, กลยุทธ์การใช้งาน, การบริหารความเสี่ยง และข้อควรระวังต่างๆ เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความหมายของ Call Option
Call Option คือ สัญญาที่ให้สิทธิ (แต่ไม่บังคับ) แก่ผู้ซื้อในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Expiration Date) หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสูงกว่า Strike Price ในวันหมดอายุ ผู้ซื้อ Call Option จะได้รับผลกำไรจากส่วนต่างของราคา (Price Difference) แต่หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่า Strike Price ผู้ซื้อจะสูญเสียเงินลงทุนที่จ่ายไปในการซื้อ Call Option (Premium)
พูดง่ายๆ คือ การซื้อ Call Option คือการเดิมพันว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะ *ขึ้น*
- หลักการทำงานของ Call Option
ลองพิจารณาตัวอย่าง: คุณเชื่อว่าราคาของทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า คุณสามารถซื้อ Call Option ทองคำที่มี Strike Price ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีค่า Premium 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสัญญา
- **กรณีที่ 1: ราคาทองคำสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันหมดอายุ** สมมติว่าราคาทองคำในวันหมดอายุอยู่ที่ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ คุณจะได้รับผลกำไร 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสัญญา (2,100 - 2,000) หักด้วย Premium ที่จ่ายไป 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้กำไรสุทธิคือ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- **กรณีที่ 2: ราคาทองคำต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันหมดอายุ** สมมติว่าราคาทองคำในวันหมดอายุอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ คุณจะไม่ใช้สิทธิในการซื้อทองคำในราคา 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะสามารถซื้อทองคำในตลาดได้ในราคาที่ถูกกว่า ทำให้คุณสูญเสีย Premium ที่จ่ายไป 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคา Call Option
หลายปัจจัยมีผลต่อราคาของ Call Option ซึ่งนักเทรดควรทำความเข้าใจเพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:
1. **ราคาสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset Price):** ราคาสินทรัพย์อ้างอิงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงสูงขึ้น ราคา Call Option ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย 2. **Strike Price:** Strike Price ที่ต่ำกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงปัจจุบัน จะทำให้ Call Option มีราคาสูงกว่า Strike Price ที่สูงกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงปัจจุบัน 3. **ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ (Time to Expiration):** ยิ่งระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุยาวนานขึ้น ราคา Call Option ก็จะสูงขึ้น เนื่องจากมีโอกาสที่ราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 4. **ความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง (Volatility):** ยิ่งความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิงสูงขึ้น ราคา Call Option ก็จะสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างมีนัยสำคัญ 5. **อัตราดอกเบี้ย (Interest Rates):** อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะส่งผลให้ราคา Call Option สูงขึ้นเล็กน้อย 6. **เงินปันผล (Dividends):** หากสินทรัพย์อ้างอิงจ่ายเงินปันผล ราคา Call Option มักจะลดลงเล็กน้อย
- กลยุทธ์การใช้งาน Call Option ในไบนารี่ออปชั่น
มีกลยุทธ์มากมายที่สามารถใช้ Call Option ในการเทรดไบนารี่ออปชั่นได้ นี่คือตัวอย่างบางส่วน:
1. **Long Call:** เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่สุด คือการซื้อ Call Option โดยคาดหวังว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวสูงขึ้น เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดการณ์แนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend) อย่างชัดเจน แนวโน้มขาขึ้น 2. **Covered Call:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคุณมีสินทรัพย์อ้างอิงอยู่แล้ว และต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการขาย Call Option ให้กับผู้อื่น กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะทรงตัวหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 3. **Protective Call:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่คุณถืออยู่ โดยการซื้อ Call Option เพื่อจำกัดผลขาดทุน 4. **Straddle:** เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อทั้ง Call Option และ Put Option พร้อมกัน โดยคาดหวังว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะมีความผันผวนสูง ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง Straddle 5. **Strangle:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน โดย Call Option มี Strike Price ที่สูงกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงปัจจุบัน และ Put Option มี Strike Price ที่ต่ำกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงปัจจุบัน Strangle
- การบริหารความเสี่ยงในการซื้อ Call Option
การเทรด Call Option มีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ:
1. **กำหนดขนาดการลงทุน (Position Sizing):** ไม่ควรลงทุนใน Call Option มากเกินไปในแต่ละครั้ง ควรแบ่งเงินทุนออกเป็นส่วนๆ เพื่อลดความเสี่ยง 2. **ตั้ง Stop-Loss:** กำหนดจุด Stop-Loss เพื่อจำกัดผลขาดทุนหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของคุณ 3. **เลือก Strike Price และวันหมดอายุที่เหมาะสม:** พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาสินทรัพย์อ้างอิง, ความผันผวน, และระยะเวลาที่คุณคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวขึ้น 4. **กระจายความเสี่ยง (Diversification):** ลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนของคุณ 5. **ศึกษาและทำความเข้าใจ:** ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์อ้างอิง, กลยุทธ์การเทรด, และปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคา Call Option อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน
การตัดสินใจซื้อ Call Option ควรมาจากการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis):
- **การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** การศึกษาแผนภูมิราคา, รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) และการใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD เพื่อระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขาย Fibonacci Retracements
- **การวิเคราะห์พื้นฐาน:** การศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจ, ข่าวสาร, และผลประกอบการของบริษัท (ในกรณีที่สินทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้น) เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์อ้างอิง
- ตัวอย่างการใช้งาน Call Option ในสถานการณ์จริง
สมมติว่าคุณกำลังติดตามหุ้น Apple (AAPL) และเชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้า คุณสามารถซื้อ Call Option AAPL ที่มี Strike Price ที่ 170 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีค่า Premium 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น
- **หากราคาหุ้น AAPL สูงกว่า 170 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันหมดอายุ:** คุณจะได้รับผลกำไรจากส่วนต่างของราคา หักด้วย Premium ที่จ่ายไป
- **หากราคาหุ้น AAPL ต่ำกว่า 170 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันหมดอายุ:** คุณจะสูญเสีย Premium ที่จ่ายไป
- ข้อควรระวังในการซื้อ Call Option
- **ความเสี่ยงสูง:** Call Option เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ซื้ออาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้
- **Time Decay:** ราคา Call Option จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป (Time Decay) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้หมดอายุ
- **Complexity:** การทำความเข้าใจ Call Option และกลยุทธ์การใช้งานต่างๆ อาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
- **Liquidity:** สภาพคล่องของ Call Option อาจต่ำในบางกรณี ทำให้ยากต่อการซื้อขาย
- สรุป
การซื้อ Call Option เป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการสร้างผลกำไรในตลาด ไบนารี่ออปชั่น แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงาน, ปัจจัยที่มีผลกระทบ, กลยุทธ์การใช้งาน, และการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถเทรด Call Option ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
การเทรดไบนารี่ออปชั่น | Put Option | Option Chain | Delta Hedging | Gamma | Theta | Vega | Implied Volatility | Black-Scholes Model | Trading Psychology | Risk Management | Technical Indicators | Candlestick Patterns | Elliott Wave Theory | Bollinger Bands
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น
