การซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1

การซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่น (Binary Options) เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็สามารถทำกำไรได้ดีหากมีความเข้าใจในกลไกของตลาดและการวางแผนการซื้อขายที่เหมาะสม หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นคือ *เวลา* โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงและมีโอกาสในการทำกำไรมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดสำหรับผู้เริ่มต้น รวมถึงข้อดี ข้อเสีย กลยุทธ์ที่เหมาะสม และข้อควรระวังต่างๆ

ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดคืออะไร?

“ช่วงเวลาที่ตลาดเปิด” หมายถึงช่วงเวลาแรกหลังจากตลาดการเงินต่างๆ ทั่วโลกเปิดทำการในแต่ละวัน โดยทั่วไปแล้ว ตลาดการเงินหลักๆ ที่นักลงทุนไบนารี่ออปชั่นให้ความสนใจ ได้แก่ ตลาด Forex (Foreign Exchange), ตลาดหุ้น (Stock Market), และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Market) แต่ละตลาดจะมีเวลาเปิดทำการที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคและประเทศ ตัวอย่างเช่น:

  • **ตลาด Forex:** ตลาด Forex เป็นตลาดที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการในลอนดอนและนิวยอร์ก (London Session และ New York Session) ถือเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดและมีความผันผวนสูงที่สุด
  • **ตลาดหุ้น:** ตลาดหุ้นแต่ละแห่งก็มีเวลาเปิดทำการที่แตกต่างกันไป เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) เปิดทำการเวลา 9:30 น. ตามเวลา Eastern Time (ET) และปิดทำการเวลา 4:00 น. ตามเวลา ET
  • **ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์:** ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ก็มีเวลาเปิดทำการที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดซื้อขาย

การทำความเข้าใจเวลาเปิดทำการของแต่ละตลาดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่น เพื่อที่จะสามารถวางแผนการซื้อขายในช่วงเวลาที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ทำไมช่วงเวลาที่ตลาดเปิดจึงสำคัญ?

ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นด้วยเหตุผลหลายประการ:

  • **ความผันผวนสูง:** ในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด จะมีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาทำการซื้อขายพร้อมๆ กัน ทำให้เกิดความผันผวนของราคาที่สูงขึ้น ความผันผวนนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่นในการทำกำไร
  • **ปริมาณการซื้อขายสูง:** ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดมักจะมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าช่วงเวลาอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาทำธุรกรรมหลังจากติดตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาปิดทำการ
  • **การกำหนดราคาใหม่:** ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดเป็นช่วงเวลาที่ราคาของสินทรัพย์ต่างๆ จะถูกกำหนดใหม่ตามข่าวสารและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาปิดทำการ ทำให้เกิดโอกาสในการทำกำไรจากการคาดการณ์แนวโน้มราคา
  • **โอกาสในการใช้ประโยชน์จาก Gap:** ช่วงเวลาเปิดตลาดมักจะเกิดปรากฏการณ์ “Gap” หรือช่องว่างของราคา ซึ่งเกิดจากการที่ราคาเปิดในวันใหม่แตกต่างจากราคาปิดในวันก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จาก Gap นี้ในการทำกำไรได้ โดยการคาดการณ์ทิศทางของราคาหลังจากเกิด Gap

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

เช่นเดียวกับการลงทุนทุกประเภท การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่นักลงทุนควรพิจารณา:

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด
ข้อดี
ความผันผวนสูง ทำให้มีโอกาสทำกำไรมากขึ้น
ปริมาณการซื้อขายสูง ทำให้ง่ายต่อการเข้าและออกจากการซื้อขาย
โอกาสในการใช้ประโยชน์จาก Gap และการกำหนดราคาใหม่
มีข้อมูลและข่าวสารจำนวนมากในช่วงเวลาเปิดตลาด ช่วยในการวิเคราะห์

กลยุทธ์การซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

มีกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมากมายที่สามารถนำมาใช้ในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดได้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม:

  • **Breakout Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุช่วงราคาที่แคบ (Range) และคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุ (Breakout) ช่วงราคานั้นไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ตลาดเปิดเนื่องจากมักจะมีความผันผวนสูงและมีโอกาสที่ราคาจะทะลุช่วงราคา
  • **News Trading Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเปิดตลาด นักลงทุนจะวิเคราะห์ผลกระทบของข่าวสารต่อราคาของสินทรัพย์ต่างๆ และทำการซื้อขายตามทิศทางที่คาดการณ์ไว้
  • **Pin Bar Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุรูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่เรียกว่า “Pin Bar” ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคา กลยุทธ์นี้สามารถใช้ได้ในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดเมื่อราคาผันผวนอย่างรวดเร็ว
  • **Moving Average Crossover Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เพื่อระบุแนวโน้มของราคา นักลงทุนจะทำการซื้อขายเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว
  • **Bollinger Bands Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ Bollinger Bands เพื่อวัดความผันผวนของราคา นักลงทุนจะทำการซื้อขายเมื่อราคาแตะขอบบนหรือขอบล่างของ Bollinger Bands
  • **Price Action Strategy:** กลยุทธ์นี้เน้นการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ Indicator ใด ๆ เพิ่มเติม นักเทรดจะพิจารณาจากรูปแบบแท่งเทียน การเกิดแท่งเทียนแบบพิเศษ (เช่น Doji, Hammer) และระดับแนวรับแนวต้าน เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา Price Action
  • **Scalping Strategy:** กลยุทธ์นี้เน้นการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เล็กน้อย โดยเปิดและปิด Order อย่างรวดเร็ว Scalping
  • **Range Trading Strategy:** กลยุทธ์นี้เหมาะกับช่วงที่ตลาดอยู่ในกรอบ (Range) โดยเทรดตามแนวรับและแนวต้าน Range Trading
  • **Trend Following Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้ตามแนวโน้มของตลาด Trend Following
  • **Retracement Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อราคาปรับตัวถอยกลับจากแนวโน้มหลัก Retracement
  • **Momentum Strategy:** กลยุทธ์นี้ใช้เมื่อราคาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง Momentum Trading
  • **Fibonacci Retracement Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้ระดับ Fibonacci ในการคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา Fibonacci Retracement
  • **Elliott Wave Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การวิเคราะห์ Elliott Wave ในการคาดการณ์ทิศทางราคา Elliott Wave
  • **Harmonic Pattern Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้รูปแบบ Harmonic ในการคาดการณ์ทิศทางราคา Harmonic Pattern
  • **Volume Spread Analysis (VSA):** กลยุทธ์ที่วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread ของราคาเพื่อทำความเข้าใจแรงซื้อขายในตลาด Volume Spread Analysis

ข้อควรระวังในการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

แม้ว่าการซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดจะมีโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน นักลงทุนควรระมัดระวังและปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้:

  • **การจัดการความเสี่ยง:** กำหนดขนาดของ Position ที่เหมาะสมและใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
  • **การควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อขาย
  • **การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ:** วิเคราะห์ตลาดอย่างรอบคอบก่อนทำการซื้อขาย และอย่าซื้อขายตามข่าวลือ
  • **การใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง:** Leverage สามารถเพิ่มทั้งกำไรและขาดทุน ดังนั้นควรใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง
  • **การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Slippage:** Slippage อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง ดังนั้นควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Slippage และวางแผนรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
  • **การเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมี Regulation ที่เหมาะสม
  • **การศึกษาอย่างต่อเนื่อง:** ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดการเงินและกลยุทธ์การซื้อขายอย่างต่อเนื่อง

สรุป

การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดสามารถเป็นโอกาสที่ดีในการทำกำไร แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน นักลงทุนควรมีความเข้าใจในกลไกของตลาด การวางแผนการซื้อขายที่เหมาะสม และการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะสามารถประสบความสำเร็จในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดได้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การจัดการความเสี่ยง กลยุทธ์การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร แท่งเทียน แนวรับแนวต้าน สัญญาณการซื้อขาย การใช้ Indicators การอ่านกราฟราคา Forex ตลาดหุ้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย Stop Loss Take Profit

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер