การซื้อขายแบบมี Leverage

1. 1. การซื้อขายแบบมี Leverage

การซื้อขายแบบมี Leverage หรือที่เรียกว่าการใช้ "เงินกู้" เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งทางการเงินที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนที่มีอยู่ได้จริง กลไกนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดการเงินหลายแห่ง รวมถึงตลาด ไบนารี่ออปชั่น ด้วย บทความนี้จะอธิบายถึงหลักการทำงาน ความเสี่ยง และประโยชน์ของการซื้อขายแบบมี Leverage โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของไบนารี่ออปชั่น สำหรับผู้เริ่มต้น และจะให้คำแนะนำในการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

1. 1. 1. Leverage คืออะไร?

Leverage คือการใช้เงินทุนยืมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรจากการลงทุน การใช้ Leverage ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะการซื้อขายที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนของตนได้หลายเท่า ตัวอย่างเช่น Leverage ที่ 1:100 หมายความว่าเทรดเดอร์ที่มีเงินทุน 1,000 บาท สามารถควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่า 100,000 บาทได้

ในตลาดไบนารี่ออปชั่น Leverage มักจะมาในรูปแบบของตัวคูณ (Multiplier) ที่แพลตฟอร์มเสนอให้ ซึ่งจะเพิ่มผลตอบแทนที่อาจได้รับจากการเทรด แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนด้วยเช่นกัน

1. 1. 1. Leverage ในไบนารี่ออปชั่นทำงานอย่างไร?

ในไบนารี่ออปชั่น Leverage ไม่ได้ทำงานเหมือนกับการยืมเงินจากโบรกเกอร์โดยตรง แต่เป็นการเพิ่มขนาดของสัญญา (Contract Size) ที่เทรดเดอร์สามารถซื้อได้ ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์มีเงินทุน 100 บาท และแพลตฟอร์มเสนอ Leverage 1:50 เทรดเดอร์อาจสามารถซื้อสัญญาไบนารี่ออปชั่นที่มีมูลค่า 5,000 บาทได้

ผลตอบแทนจากการเทรดไบนารี่ออปชั่นจะถูกคูณด้วย Leverage นั้นๆ นั่นหมายความว่าหากเทรดเดอร์คาดการณ์ได้ถูกต้องและออปชั่นชนะ เทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่หากคาดการณ์ผิด เทรดเดอร์ก็จะสูญเสียเงินทุนที่ลงทุนไปทั้งหมด รวมถึงเงินส่วนที่เกินจาก Leverage ด้วย

1. 1. 1. ข้อดีของการใช้ Leverage ในไบนารี่ออปชั่น

• **เพิ่มศักยภาพในการทำกำไร:** Leverage ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากเงินทุนที่มีอยู่
• **เข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น:** Leverage ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดที่มีขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
• **กระจายความเสี่ยง:** Leverage สามารถช่วยให้เทรดเดอร์กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายได้มากขึ้น

1. 1. 1. ข้อเสียและความเสี่ยงของการใช้ Leverage ในไบนารี่ออปชั่น

• **เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน:** Leverage เป็นดาบสองคม หากการคาดการณ์ผิดพลาด ความสูญเสียจะถูกขยายออกไปด้วย Leverage
• **Margin Call:** ในบางแพลตฟอร์ม หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับสถานะที่เทรดเดอร์ถืออยู่ โบรกเกอร์อาจเรียกร้องให้เทรดเดอร์เพิ่มเงินทุนในบัญชี (Margin Call) เพื่อรักษาตำแหน่งไว้ หากไม่สามารถทำได้ โบรกเกอร์อาจปิดสถานะโดยอัตโนมัติ
• **ความผันผวนของราคา:** Leverage ทำให้เทรดเดอร์มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของราคาสินทรัพย์มากขึ้น
• **ค่าธรรมเนียม:** บางแพลตฟอร์มอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้ Leverage

1. 1. 1. การจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้ Leverage ในไบนารี่ออปชั่น

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้ Leverage ในไบนารี่ออปชั่น ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการ:

• **ใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง:** เลือก Leverage ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ อย่าใช้ Leverage สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นมือใหม่
• **ตั้ง Stop-Loss:** กำหนดระดับราคาที่ยอมรับได้สำหรับการขาดทุน เพื่อจำกัดความเสี่ยง หากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้
• **ใช้ขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม:** อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถสูญเสียได้ กำหนดขนาดของสัญญา (Contract Size) ให้เหมาะสมกับเงินทุนของคุณ
• **เรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค:** ใช้เครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น การวิเคราะห์แนวโน้ม การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน และ การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
• **ทำความเข้าใจกับตลาด:** ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดที่คุณกำลังเทรด รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคา
• **มีแผนการเทรด:** พัฒนาแผนการเทรดที่ชัดเจนและปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด
• **ควบคุมอารมณ์:** อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเทรด
• **ใช้บัญชีทดลอง:** ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชีทดลองก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง

1. 1. 1. กลยุทธ์การเทรดไบนารี่ออปชั่นที่ใช้ Leverage

• **Martingale Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขนาดของสัญญา (Contract Size) หลังจากความสูญเสียแต่ละครั้ง เพื่อให้สามารถกู้คืนเงินทุนที่สูญเสียไปได้ แต่มีความเสี่ยงสูง
• **Anti-Martingale Strategy:** กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการลดขนาดของสัญญา (Contract Size) หลังจากความสูญเสียแต่ละครั้ง และเพิ่มขนาดของสัญญา (Contract Size) หลังจากทำกำไรได้
• **Pin Bar Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การระบุรูปแบบ Pin Bar บนกราฟราคาเพื่อคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม
• **Bollinger Bands Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้ Bollinger Bands เพื่อระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) และการขายมากเกินไป (Oversold)
• **Moving Average Crossover Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุสัญญาณการซื้อขาย
• **Straddle Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การซื้อทั้ง Call และ Put Option พร้อมกัน เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา
• **Strangle Strategy:** คล้ายกับ Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่แตกต่างกัน
• **Risk Reversal Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อจำกัดความเสี่ยงและสร้างรายได้
• **Breakout Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การระบุช่วงราคาที่แคบลงเพื่อคาดการณ์การ Breakout
• **Reversal Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม
• **Trend Following Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การติดตามแนวโน้มของราคา
• **Scalping Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การทำกำไรจากความผันผวนของราคาสั้นๆ
• **News Trading Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การเทรดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจและการเมือง
• **Fibonacci Retracement Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้าน
• **Elliott Wave Strategy:** กลยุทธ์ที่ใช้การวิเคราะห์ Elliott Wave เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา

1. 1. 1. ตัวอย่างการคำนวณ Leverage ในไบนารี่ออปชั่น

สมมติว่าเทรดเดอร์มีเงินทุน 1,000 บาท และแพลตฟอร์มเสนอ Leverage 1:100 เทรดเดอร์ตัดสินใจที่จะลงทุน 10 บาทในสัญญาไบนารี่ออปชั่นที่มีผลตอบแทน 80%

• **ขนาดของสัญญา:** 10 บาท x 100 (Leverage) = 1,000 บาท
• **หากออปชั่นชนะ:** ผลตอบแทน = 1,000 บาท x 80% = 800 บาท
• **กำไรสุทธิ:** 800 บาท - 10 บาท (เงินลงทุน) = 790 บาท
• **อัตราผลตอบแทน:** (790 บาท / 1,000 บาท) x 100% = 79%

จากตัวอย่างนี้ จะเห็นว่า Leverage ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ 79% จากเงินทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากออปชั่นแพ้ เทรดเดอร์จะสูญเสียเงินลงทุน 10 บาทไปทั้งหมด

1. 1. 1. ข้อควรระวังเพิ่มเติม

• **เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกมีใบอนุญาตและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
• **อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไข:** ทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม รวมถึงค่าธรรมเนียมและข้อจำกัดต่างๆ
• **อย่าลงทุนเกินตัว:** ลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถสูญเสียได้โดยไม่กระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณ

1. 1. 1. สรุป

Leverage เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มศักยภาพในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออปชั่นได้ อย่างไรก็ตาม Leverage ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ Leverage อย่างระมัดระวังและมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม การเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค การทำความเข้าใจกับตลาด และการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในการเทรดไบนารี่ออปชั่นด้วย Leverage

ตัวอย่าง Leverage ในไบนารี่ออปชั่น

เงินทุนเริ่มต้น (บาท)	Leverage	ขนาดสัญญา (บาท)	ผลตอบแทน (หากชนะ 80%)	กำไรสุทธิ (บาท)
1,000	1:50	50,000	40,000	39,990
500	1:100	50,000	40,000	39,950
200	1:200	40,000	32,000	31,980

การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์พื้นฐาน | การจัดการเงินทุน | กลยุทธ์การเทรด | ความเสี่ยงในการเทรด | โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น | แนวโน้มของตลาด | รูปแบบแท่งเทียน | ตัวชี้วัดทางเทคนิค | การคาดการณ์ราคา | การเทรดแบบ Scalping | การเทรดแบบ Day Trading | การเทรดแบบ Swing Trading | การเทรดตามข่าวสาร | การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย | การสร้างรายได้จากไบนารี่ออปชั่น | การลดความเสี่ยงในการเทรด | จิตวิทยาการเทรด | การเลือกโบรกเกอร์ | การเปิดบัญชีเทรด

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น