การซื้อขายเงิน

1. 1. การ ซื้อขาย เงิน

การซื้อขายเงิน หรือที่เรียกว่า การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex หรือ FX) คือ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งไปยังอีกสกุลเงินหนึ่งในตลาดการเงินโลก เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดและมีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023 การซื้อขายเงินมีความน่าสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุนและผู้ค้า เนื่องจากมีโอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ต่างๆ รวมถึงแพลตฟอร์ม ไบนารี่ออปชั่น

บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการซื้อขายเงินสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น กลไกการทำงานของตลาด Forex, ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน, สกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขาย, ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง, และกลยุทธ์การซื้อขายเบื้องต้น

1. 1. 1. กลไกการทำงานของตลาด Forex

ตลาด Forex ไม่ได้มีสถานที่ตั้งทางกายภาพที่เฉพาะเจาะจงเหมือนกับตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นการดำเนินการผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของธนาคาร สถาบันการเงิน และนักซื้อขายรายย่อยทั่วโลก ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์ถึงศุกร์) ทำให้ผู้ค้าสามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ตลาดต่างๆ ทั่วโลกเปิดทำการ

การซื้อขายเงินดำเนินการผ่านการจับคู่สกุลเงิน (Currency Pair) เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ), GBP/USD (ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐฯ), USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/เยนญี่ปุ่น) สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงินเรียกว่า “สกุลเงินฐาน” (Base Currency) และสกุลเงินที่สองเรียกว่า “สกุลเงินราคา” (Quote Currency) อัตราแลกเปลี่ยนที่แสดงในแพลตฟอร์มการซื้อขายจะบอกถึงปริมาณสกุลเงินราคาที่ต้องใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็น 1 หน่วยของสกุลเงินฐาน ตัวอย่างเช่น ถ้า EUR/USD = 1.1000 หมายความว่าต้องใช้ 1.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนเป็น 1 ยูโร

การซื้อขายเงินเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ว่าอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงินจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด หากผู้ค้าคาดการณ์ว่าสกุลเงินฐานจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินราคา พวกเขาจะทำการ “ซื้อ” (Buy) หรือ “Long” คู่สกุลเงินนั้น หากผู้ค้าคาดการณ์ว่าสกุลเงินฐานจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินราคา พวกเขาจะทำการ “ขาย” (Sell) หรือ “Short” คู่สกุลเงินนั้น

1. 1. 1. ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน

อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และจิตวิทยาของตลาด:

• **ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ:** ข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP), อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน, และอัตราดอกเบี้ย มีผลกระทบอย่างมากต่อมูลค่าของสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น หากอัตราดอกเบี้ยของประเทศหนึ่งสูงขึ้น นักลงทุนมักจะเข้ามาลงทุนในประเทศนั้นมากขึ้น ทำให้ความต้องการสกุลเงินของประเทศนั้นสูงขึ้น และส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินแข็งค่าขึ้น การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
• **นโยบายการเงิน:** การตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่น การปรับขึ้นหรือลดลงของอัตราดอกเบี้ย หรือการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Quantitative Easing) สามารถส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้
• **เหตุการณ์ทางการเมือง:** เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดและส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงิน
• **ความเชื่อมั่นของตลาด:** ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ค้าต่อเศรษฐกิจและสกุลเงินของประเทศต่างๆ สามารถส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้
• **อุปสงค์และอุปทาน:** เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินก็ได้รับผลกระทบจากหลักการของอุปสงค์และอุปทาน หากความต้องการสกุลเงินหนึ่งสูงกว่าอุปทาน มูลค่าของสกุลเงินนั้นก็จะสูงขึ้น

1. 1. 1. สกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขาย

มีสกุลเงินหลักหลายสกุลที่ใช้ในการซื้อขาย Forex สกุลเงินเหล่านี้มักจะเรียกว่า “สกุลเงินหลัก” (Major Currencies) ได้แก่:

• **ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD):** เป็นสกุลเงินที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก และเป็นสกุลเงินฐานในการซื้อขายคู่สกุลเงินส่วนใหญ่
• **ยูโร (EUR):** สกุลเงินของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป
• **ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP):** สกุลเงินของสหราชอาณาจักร
• **เยนญี่ปุ่น (JPY):** สกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น
• **ดอลลาร์แคนาดา (CAD):** สกุลเงินของประเทศแคนาดา
• **ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD):** สกุลเงินของประเทศออสเตรเลีย
• **ดอลลาร์สวิส (CHF):** สกุลเงินของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินเหล่านี้มักจะมีสภาพคล่องสูงและมีการซื้อขายอย่างหนาแน่น ทำให้เหมาะสำหรับนักซื้อขายทั้งมือใหม่และมืออาชีพ การเลือกคู่สกุลเงิน

1. 1. 1. ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงิน

การซื้อขายเงินมีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนควรตระหนักถึง:

• **ความผันผวนของตลาด:** ตลาด Forex มีความผันผวนสูง และอัตราแลกเปลี่ยนสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ค้าอาจสูญเสียเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว
• **เลเวอเรจ:** ผู้ค้าสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มขนาดของการซื้อขายของตนได้ อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจสามารถขยายทั้งกำไรและขาดทุนได้ หากการซื้อขายไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ผู้ค้าอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
• **ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง:** ในบางสถานการณ์ ตลาดอาจไม่มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ค้าไม่สามารถปิดสถานะของตนได้ในราคาที่ต้องการ
• **ความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ:** เหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่คาดฝันสามารถส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว

เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ ผู้ค้าควรใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การตั้งค่า Stop-Loss Order เพื่อจำกัดการขาดทุน และการกระจายความเสี่ยงโดยการซื้อขายหลายคู่สกุลเงิน การบริหารความเสี่ยง

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายเบื้องต้น

มีกลยุทธ์การซื้อขายเงินมากมายที่นักค้าสามารถใช้ได้ กลยุทธ์บางส่วนที่ได้รับความนิยม ได้แก่:

• **Scalping:** เป็นกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยของอัตราแลกเปลี่ยน
• **Day Trading:** เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เปิดและปิดสถานะภายในวันเดียวกัน
• **Swing Trading:** เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ถือสถานะไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจากแนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม
• **Position Trading:** เป็นกลยุทธ์การซื้อขายระยะยาวที่ถือสถานะไว้หลายเดือนหรือหลายปี
• **Breakout Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากการทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
• **Trend Following:** เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อขายตามแนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิค
• **Range Trading:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบแนวรับและแนวต้าน

นอกจากนี้ ผู้ค้ายังสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index - RSI), MACD (Moving Average Convergence Divergence), และ Fibonacci Retracements เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)

ตัวอย่างกลยุทธ์การซื้อขายเงิน

**ระยะเวลา** | **ลักษณะ** | **ความเสี่ยง** |

นาที | ทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อย | สูง |

วัน | เปิดและปิดสถานะภายในวัน | ปานกลาง |

วันถึงสัปดาห์ | ถือสถานะเพื่อทำกำไรจากแนวโน้ม | ปานกลาง |

เดือนถึงปี | ถือสถานะระยะยาว | ต่ำ |

วันถึงสัปดาห์ | ใช้ประโยชน์จากการทะลุแนวรับ/ต้าน | ปานกลาง |

1. 1. 1. การซื้อขายเงินผ่านไบนารี่ออปชั่น

ไบนารี่ออปชั่น เป็นเครื่องมือทางการเงินที่อนุญาตให้นักลงทุนคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ (เช่น สกุลเงิน) ในช่วงเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ถูกต้อง นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากการคาดการณ์ผิด นักลงทุนจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

การซื้อขายเงินผ่านไบนารี่ออปชั่นมีความเรียบง่ายและตรงไปตรงมา เนื่องจากนักลงทุนเพียงแค่ต้องเลือกทิศทางของราคา (ขึ้นหรือลง) และจำนวนเงินลงทุน อย่างไรก็ตาม การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นก็มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากผลตอบแทนและขาดทุนจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า และนักลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้หากการคาดการณ์ผิดพลาด การวิเคราะห์ความเสี่ยงไบนารี่ออปชั่น

1. 1. 1. สรุป

การซื้อขายเงินเป็นตลาดที่มีโอกาสในการทำกำไรมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผู้ค้าควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการทำงานของตลาด Forex, ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน, และกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม รวมถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในการซื้อขายเงิน

การซื้อขาย Forex สำหรับมือใหม่ การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น