การซื้อขายปริมาณการซื้อขาย
- การซื้อขายปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) ในไบนารี่ออปชั่น
ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่เทรดเดอร์ ไบนารี่ออปชั่น ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจซื้อขาย การเข้าใจความหมายของปริมาณการซื้อขายและการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะครอบคลุมถึงความหมายของปริมาณการซื้อขาย ความสำคัญของมัน ตัวบ่งชี้ที่เกี่ยวข้อง และวิธีการนำไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
- ความหมายของปริมาณการซื้อขาย
ปริมาณการซื้อขายหมายถึงจำนวนหน่วยของสินทรัพย์ (เช่น หุ้น, สกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์) ที่ซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยปกติจะวัดเป็นจำนวนสัญญาหรือล็อต (lots) ที่แลกเปลี่ยนกันในตลาด หากปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่ามีความสนใจในสินทรัพย์นั้นอย่างมาก และมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมากที่กำลังเข้าร่วมตลาด ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายต่ำ แสดงว่ามีความสนใจในสินทรัพย์นั้นน้อย และตลาดอาจมีความผันผวนน้อยกว่า
- ความสำคัญของปริมาณการซื้อขายในไบนารี่ออปชั่น
ปริมาณการซื้อขายมีความสำคัญต่อการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นด้วยเหตุผลหลายประการ:
- **ยืนยันแนวโน้ม (Trend Confirmation):** ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางของแนวโน้ม แสดงว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายลดลงเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางของแนวโน้ม อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มกำลังอ่อนแอและอาจมีการพลิกกลับ การวิเคราะห์แนวโน้ม
- **ระบุการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal Identification):** การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ราคาหยุดชะงักหรือเริ่มเคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มเดิม อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้ม การกลับตัวของแนวโน้ม
- **ประเมินความแข็งแกร่งของการ Breakout:** เมื่อราคาทะลุระดับแนวรับหรือแนวต้าน (Support and Resistance Levels) ปริมาณการซื้อขายที่สูงจะช่วยยืนยันว่าการ Breakout นั้นแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายต่ำ การ Breakout อาจเป็นสัญญาณหลอก (False Breakout) แนวรับแนวต้าน
- **วัดความเชื่อมั่นของตลาด (Market Sentiment):** ปริมาณการซื้อขายที่สูงสามารถบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในทิศทางขาขึ้นหรือขาลง ความเชื่อมั่นของตลาด
- **ช่วยในการเลือก Strike Price:** การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยในการเลือก Strike Price ที่เหมาะสมในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
- ตัวบ่งชี้ที่เกี่ยวข้องกับปริมาณการซื้อขาย
มีตัวบ่งชี้หลายตัวที่ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายร่วมกับราคา:
- **On Balance Volume (OBV):** OBV เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่ใช้ปริมาณการซื้อขายเพื่อวัดแรงกดดันในการซื้อขาย ตัวบ่งชี้นี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณการซื้อขายเกิดขึ้นในวันที่ราคาปิดสูงขึ้น และลดลงเมื่อปริมาณการซื้อขายเกิดขึ้นในวันที่ราคาปิดต่ำลง On Balance Volume (OBV)
- **Volume Weighted Average Price (VWAP):** VWAP เป็นตัวบ่งชี้ที่คำนวณราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการซื้อขาย ตัวบ่งชี้นี้สามารถใช้เพื่อระบุระดับราคาที่สำคัญและประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ Volume Weighted Average Price (VWAP)
- **Money Flow Index (MFI):** MFI เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่ใช้ทั้งราคาและปริมาณการซื้อขายเพื่อวัดแรงซื้อขาย ตัวบ่งชี้นี้คล้ายกับ Relative Strength Index (RSI) แต่จะพิจารณาปริมาณการซื้อขายด้วย
- **Accumulation/Distribution Line (A/D Line):** A/D Line เป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ปริมาณการซื้อขายเพื่อวัดแรงสะสมหรือการกระจายตัวของสินทรัพย์ ตัวบ่งชี้นี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาปิดใกล้เคียงกับช่วงราคาบนสุด และลดลงเมื่อราคาปิดใกล้เคียงกับช่วงราคาล่างสุด Accumulation/Distribution Line (A/D Line)
- **Chaikin Money Flow (CMF):** CMF เป็นตัวบ่งชี้ที่วัดแรงกดดันในการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยพิจารณาจากตำแหน่งของราคาปิดในช่วงราคาในแต่ละวันและปริมาณการซื้อขาย Chaikin Money Flow (CMF)
- การนำปริมาณการซื้อขายไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีการนำปริมาณการซื้อขายไปใช้ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น:
- **กลยุทธ์ Breakout:** รอให้ราคา Breakout ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ และยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูง หากปริมาณการซื้อขายสูง ให้เปิด Position แบบ Call (ซื้อ) หากราคา Breakout ระดับแนวต้าน หรือ Position แบบ Put (ขาย) หากราคา Breakout ระดับแนวรับ กลยุทธ์ Breakout
- **กลยุทธ์ Reversal:** มองหาการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ราคาหยุดชะงักหรือเริ่มเคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มเดิม หากปริมาณการซื้อขายสูง ให้เปิด Position แบบ Put (ขาย) หากราคาเริ่มลดลงหลังจากแนวโน้มขาขึ้น หรือ Position แบบ Call (ซื้อ) หากราคาเริ่มเพิ่มขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง กลยุทธ์ Reversal
- **กลยุทธ์ Trend Following:** หากแนวโน้มมีอยู่และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางของแนวโน้ม ให้เปิด Position ตามแนวโน้มนั้น กลยุทธ์ Trend Following
- **การยืนยันสัญญาณจากตัวบ่งชี้อื่นๆ:** ใช้ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages หรือ MACD หากสัญญาณจากตัวบ่งชี้อื่นๆ สอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายที่สูง จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณนั้น
- **ใช้ Volume Spread Analysis (VSA):** VSA เป็นวิธีการวิเคราะห์ตลาดที่ใช้การอ่านแท่งเทียนร่วมกับปริมาณการซื้อขายเพื่อระบุความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย VSA สามารถช่วยระบุสัญญาณของการสะสมหรือการกระจายตัวของสินทรัพย์ Volume Spread Analysis (VSA)
- ข้อควรระวังในการใช้ปริมาณการซื้อขาย
- **ปริมาณการซื้อขายอาจถูกบิดเบือน:** ในบางตลาด ปริมาณการซื้อขายอาจถูกบิดเบือนโดยการซื้อขายที่ดำเนินการโดยผู้ทำตลาด (Market Makers) หรือผู้ค้าที่มีขนาดใหญ่
- **ปริมาณการซื้อขายเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ต้องพิจารณา:** ไม่ควรใช้ปริมาณการซื้อขายเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น แนวโน้มของตลาด ระดับแนวรับและแนวต้าน และข่าวสารเศรษฐกิจ
- **ความแตกต่างของปริมาณการซื้อขายในแต่ละตลาด:** ปริมาณการซื้อขายที่ถือว่าสูงในตลาดหนึ่ง อาจถือว่าต่ำในอีกตลาดหนึ่ง ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบปริมาณการซื้อขายกับค่าเฉลี่ยของตลาดนั้นๆ
- ตารางสรุปตัวบ่งชี้ปริมาณการซื้อขาย
| ตัวบ่งชี้ | คำอธิบาย | การใช้งาน |
|---|---|---|
| On Balance Volume (OBV) | วัดแรงกดดันในการซื้อขายโดยการเพิ่ม/ลดตามปริมาณการซื้อขายในวันที่ราคาขึ้น/ลง | ยืนยันแนวโน้ม, ระบุการกลับตัว |
| Volume Weighted Average Price (VWAP) | คำนวณราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการซื้อขาย | ระบุระดับราคาสำคัญ, ประเมินมูลค่า |
| Money Flow Index (MFI) | วัดแรงซื้อขายโดยพิจารณาจากราคาและปริมาณการซื้อขาย | ระบุสภาวะซื้อมากเกินไป/ขายมากเกินไป |
| Accumulation/Distribution Line (A/D Line) | วัดแรงสะสม/กระจายตัวของสินทรัพย์ | ยืนยันแนวโน้ม, ระบุการกลับตัว |
| Chaikin Money Flow (CMF) | วัดแรงกดดันในการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด | ระบุการสะสม/กระจายตัว |
- กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
- กลยุทธ์การซื้อขายตามข่าวสาร
- กลยุทธ์การซื้อขายตามช่วงเวลา
- กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Scalping
- กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Day Trading
- กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Swing Trading
- การใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Bollinger Bands ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Ichimoku Cloud ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Elliot Wave Theory ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Gann Analysis ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Harmonic Patterns ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Price Action ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Support and Resistance ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ Moving Average Crossover ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- การใช้ RSI Divergence ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
- สรุป
ปริมาณการซื้อขายเป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับเทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่น การเข้าใจความหมายและความสำคัญของปริมาณการซื้อขาย และการนำไปใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าปริมาณการซื้อขายเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการตัดสินใจซื้อขาย และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือและเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้
ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)
เข้าร่วมชุมชนของเรา
สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

