การกำหนด Stop-Loss Order

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การกำหนด Stop-Loss Order ในไบนารี่ออปชั่น: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

การซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจได้เช่นกัน หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนใช้เพื่อจัดการความเสี่ยงและปกป้องเงินทุนของตนคือ Stop-Loss Order หรือคำสั่งหยุดการขาดทุน บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Stop-Loss Order ในบริบทของไบนารี่ออปชั่น โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้เริ่มต้น

      1. Stop-Loss Order คืออะไร?

Stop-Loss Order คือคำสั่งที่นักลงทุนกำหนดไว้กับโบรกเกอร์เพื่อปิดสถานะการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จุดประสงค์หลักของ Stop-Loss คือการจำกัดจำนวนเงินที่อาจสูญเสียได้จากการซื้อขายที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ในไบนารี่ออปชั่น Stop-Loss ไม่ได้ทำงานเหมือนกับการซื้อขายแบบดั้งเดิมที่กำหนดราคาขาย แต่จะใช้เพื่อปิดออปชั่นก่อนเวลาหมดอายุหากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่เป็นใจ

      1. ทำไมต้องใช้ Stop-Loss Order ในไบนารี่ออปชั่น?

การใช้ Stop-Loss Order มีประโยชน์หลายประการ:

  • **จำกัดความเสี่ยง:** นี่คือประโยชน์ที่สำคัญที่สุด Stop-Loss ช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายครั้งเดียว
  • **ป้องกันอารมณ์:** เมื่อตลาดผันผวน นักลงทุนอาจตัดสินใจด้วยอารมณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ดี Stop-Loss ช่วยกำจัดอารมณ์ในการตัดสินใจ
  • **ประหยัดเวลา:** Stop-Loss ช่วยให้คุณไม่ต้องเฝ้าหน้าจอเพื่อติดตามราคาตลอดเวลา
  • **รักษาเงินทุน:** โดยการจำกัดการขาดทุนในแต่ละการซื้อขาย คุณจะสามารถรักษาเงินทุนของคุณไว้ได้นานขึ้น และมีโอกาสทำกำไรในการซื้อขายครั้งต่อไป
      1. วิธีการกำหนด Stop-Loss Order ในไบนารี่ออปชั่น

วิธีการกำหนด Stop-Loss Order อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มการซื้อขายที่คุณใช้ อย่างไรก็ตาม หลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม:

1. **วิเคราะห์ตลาด:** ก่อนที่จะกำหนด Stop-Loss คุณต้องวิเคราะห์ตลาดเพื่อระบุระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ที่สำคัญ ระดับเหล่านี้สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss ของคุณได้ การใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Average หรือ Bollinger Bands จะช่วยในการระบุระดับเหล่านี้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น 2. **กำหนดระดับ Stop-Loss:** ระดับ Stop-Loss ควรถูกกำหนดไว้ในตำแหน่งที่สมเหตุสมผล ซึ่งจะช่วยป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไป แต่ก็ไม่ควรใกล้เกินไปจนทำให้ถูกเรียกใช้งานโดยความผันผวนของตลาดเพียงเล็กน้อย 3. **เลือกประเภท Stop-Loss:** บางแพลตฟอร์มอาจมีตัวเลือก Stop-Loss ที่แตกต่างกัน เช่น:

   *   **Fixed Stop-Loss:** กำหนด Stop-Loss ที่ระดับราคาคงที่
   *   **Trailing Stop-Loss:** Stop-Loss จะปรับตามราคาที่เคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นประโยชน์ (ใช้ได้ในบางแพลตฟอร์มที่อนุญาตการปรับออปชั่นก่อนหมดอายุ)

4. **ยืนยันคำสั่ง:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจเงื่อนไขของ Stop-Loss Order ก่อนที่จะยืนยันคำสั่ง

      1. กลยุทธ์การกำหนด Stop-Loss Order

มีหลายกลยุทธ์ที่คุณสามารถใช้ในการกำหนด Stop-Loss Order:

  • **เปอร์เซ็นต์ของเงินทุน:** กำหนด Stop-Loss โดยพิจารณาจากเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่คุณยินดีเสี่ยง เช่น หากคุณยินดีเสี่ยง 2% ของเงินทุน คุณสามารถกำหนด Stop-Loss ให้ปิดออปชั่นเมื่อขาดทุน 2% ของเงินลงทุน
  • **ระดับแนวรับและแนวต้าน:** ใช้ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss โดยทั่วไป Stop-Loss จะถูกกำหนดไว้ต่ำกว่าระดับแนวรับ (สำหรับการซื้อ) หรือสูงกว่าระดับแนวต้าน (สำหรับการขาย)
  • **ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average):** ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss หากราคาตัดผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มกำลังเปลี่ยนไป และคุณควรปิดออปชั่น
  • **อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio):** กำหนด Stop-Loss โดยพิจารณาจากอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่คุณต้องการ เช่น หากคุณต้องการอัตราส่วน 1:2 คุณต้องกำหนด Stop-Loss ให้ต่ำกว่าระดับที่คุณคาดว่าจะทำกำไรเป็นสองเท่า
  • **ใช้ Fibonacci Retracement**: ระดับ Fibonacci สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการตั้ง Stop-Loss ได้เช่นกัน
  • **กลยุทธ์ Martingale**: แม้จะไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น แต่บางนักลงทุนใช้กลยุทธ์นี้ควบคู่กับ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
      1. ตัวอย่างการกำหนด Stop-Loss Order

สมมติว่าคุณคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้น และคุณซื้อออปชั่น Call ที่ราคา 1.10 โดยมีกำหนดหมดอายุใน 1 ชั่วโมง คุณกำหนด Stop-Loss ไว้ที่ 1.05

  • **สถานการณ์ที่ 1: ราคาขึ้น:** หากราคาของสินทรัพย์สูงขึ้น Stop-Loss จะไม่ถูกเรียกใช้งาน และคุณอาจทำกำไรได้
  • **สถานการณ์ที่ 2: ราคาลง:** หากราคาของสินทรัพย์ลดลงถึง 1.05 Stop-Loss จะถูกเรียกใช้งาน และออปชั่นจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะจำกัดการขาดทุนของคุณไว้ที่ 0.05 ต่อการลงทุน
      1. ข้อควรระวังในการใช้ Stop-Loss Order
  • **ความผันผวนของตลาด:** ในตลาดที่มีความผันผวนสูง Stop-Loss อาจถูกเรียกใช้งานโดยความผันผวนของตลาดเพียงเล็กน้อย
  • **การลื่นไถ้ (Slippage):** ในบางกรณี ราคาที่ Stop-Loss ถูกเรียกใช้งานอาจแตกต่างจากราคาที่คุณตั้งไว้เล็กน้อย เนื่องจากความล่าช้าในการดำเนินการ
  • **การกำหนด Stop-Loss ที่ใกล้เกินไป:** หากคุณกำหนด Stop-Loss ที่ใกล้เกินไป ออปชั่นของคุณอาจถูกปิดก่อนที่จะมีโอกาสทำกำไร
  • **การกำหนด Stop-Loss ที่ไกลเกินไป:** หากคุณกำหนด Stop-Loss ที่ไกลเกินไป คุณอาจสูญเสียเงินทุนจำนวนมาก
  • **Stop-Loss ไม่ใช่การรับประกัน:** Stop-Loss ช่วยลดความเสี่ยง แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะป้องกันการขาดทุนทั้งหมด
      1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติมที่ช่วยในการกำหนด Stop-Loss

นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพิ่มเติมจะช่วยให้คุณกำหนด Stop-Loss ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น:

  • **RSI (Relative Strength Index)**: ใช้ RSI เพื่อระบุสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) และใช้ระดับเหล่านี้เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
  • **MACD (Moving Average Convergence Divergence)**: ใช้ MACD เพื่อระบุแนวโน้มและโมเมนตัมของราคา และใช้สัญญาณตัดกันของเส้น MACD เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
  • **Ichimoku Cloud**: ใช้ Ichimoku Cloud เพื่อระบุแนวรับ แนวต้าน และแนวโน้มของราคา และใช้ระดับเหล่านี้เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
  • **Pivot Points**: ใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับสำคัญของราคา และใช้ระดับเหล่านี้เป็นจุดอ้างอิงในการกำหนด Stop-Loss
  • **การวิเคราะห์ Volume**: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายสามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และช่วยในการกำหนด Stop-Loss ที่เหมาะสม
      1. สรุป

Stop-Loss Order เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่นทุกคน ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและปกป้องเงินทุนของคุณได้ การทำความเข้าใจวิธีการทำงานของ Stop-Loss และการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายของคุณ อย่าลืมว่าการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยง และคุณควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณสามารถรับความสูญเสียได้

ตัวอย่างการกำหนด Stop-Loss Order
!--|!--| **ระดับ Stop-Loss** | **เหตุผล** | ต่ำกว่าแนวรับ (สำหรับการซื้อ) สูงกว่าแนวต้าน (สำหรับการขาย) | ป้องกันการขาดทุนหากราคาทะลุระดับสำคัญ | 2% ของเงินลงทุน | จำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ | ต่ำกว่า Moving Average (สำหรับการซื้อ) สูงกว่า Moving Average (สำหรับการขาย) | ป้องกันการขาดทุนหากราคาตัดผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ | ตามอัตราส่วนที่ต้องการ (เช่น 1:2) | ควบคุมความเสี่ยงและผลตอบแทน |

การบริหารความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น การใช้ Stop-Loss Order เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุม คุณควรศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การกระจายความเสี่ยง และ การกำหนดขนาด Position

การซื้อขายอย่างมีวินัย เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน คุณควรปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณ และไม่ปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณ คุณควรติดตามข่าวสารและแนวโน้มของตลาด และเรียนรู้จากประสบการณ์ของคุณ

การฝึกฝนด้วยบัญชี Demo เป็นวิธีที่ดีในการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ และทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการซื้อขายก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง

การเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการบริการที่ดีและมีความปลอดภัยในการลงทุน

การทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐาน ที่มีผลต่อตลาดจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น

การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ จะช่วยให้คุณทราบถึงเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อตลาด

การวิเคราะห์ข่าวสาร จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์

การติดตามแนวโน้มของตลาด จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณให้เหมาะสมกับสถานการณ์

การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค จะช่วยให้คุณระบุโอกาสในการซื้อขาย

การทำความเข้าใจความเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะลงทุนในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น

การวางแผนการซื้อขาย จะช่วยให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีวินัยในการซื้อขาย

การประเมินผลการซื้อขาย จะช่วยให้คุณเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ

การจัดการอารมณ์ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีเหตุผล

การกำหนดเป้าหมายที่สมเหตุสมผล จะช่วยให้คุณไม่ผิดหวังและมีแรงจูงใจในการซื้อขาย

การลงทุนอย่างระมัดระวัง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ


เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер