การกำหนดเวลาหมดอายุ

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1
    1. การ กำหนด เวลา หมดอายุ ใน ไบนารี่ ออปชั่น

การ กำหนด เวลา หมดอายุ (Expiration Time) เป็น หนึ่ง ใน องค์ประกอบ ที่ สำคัญ ที่สุด ใน การ ซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น เพราะ เป็น ตัวกำหนด ว่า คุณ จะ ได้ รับ ผล ตอบแทน หรือ ไม่ หาก การคาดการณ์ ของ คุณ ถูก ต้อง ก่อน เวลา หมดอายุ ที่ กำหนด ไว้ การ เข้าใจ อย่าง ถ่องแท้ เกี่ยวกับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ จะ ช่วย ให้ นักลงทุน สามารถ วางแผน กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ที่ มี ประสิทธิภาพ และ เพิ่ม โอกาส ใน การทำกำไร ได้ มาก ขึ้น บทความ นี้ จะ อธิบาย รายละเอียด เกี่ยวกับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ใน ไบนารี่ ออปชั่น สำหรับ ผู้เริ่มต้น

      1. ความ หมาย ของ การ กำหนด เวลา หมดอายุ

การ กำหนด เวลา หมดอายุ หมายถึง ช่วงเวลา ที่ กำหนด ไว้ ล่วงหน้า ซึ่ง สัญญา ไบนารี่ ออปชั่น จะ สิ้นสุด ลง และ ผลลัพธ์ ของ การ ซื้อขาย จะ ถูก ตัดสิน หาก ราคา ของ สินทรัพย์ อ้างอิง (Asset) เป็น ไป ตาม เงื่อนไข ที่ กำหนด ไว้ ณ เวลา หมดอายุ คุณ จะ ได้ รับ ผล ตอบแทน ตาม ที่ ตกลง ไว้ แต่ หาก ไม่ เป็น ไป ตาม เงื่อนไข คุณ จะ สูญเสีย เงินลงทุน ทั้งหมด

      1. ประเภท ของ การ กำหนด เวลา หมดอายุ

การ กำหนด เวลา หมดอายุ ใน ไบนารี่ ออปชั่น มี หลาย ประเภท ซึ่ง นักลงทุน สามารถ เลือก ได้ ตาม ความเหมาะสม กับ กลยุทธ์ และ สไตล์ การ ซื้อขาย ของ ตน เอง

  • **60 วินาที (60 Seconds):** เป็น การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ นิยม อย่าง มาก สำหรับ การ ซื้อขาย ระยะสั้น เหมาะ สำหรับ ผู้ที่ ต้องการ เห็น ผลลัพธ์ อย่าง รวดเร็ว และ สามารถ ตัดสินใจ ได้ อย่างรวดเร็ว
  • **5 นาที (5 Minutes):** เป็น การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ให้ โอกาส ใน การวิเคราะห์ แนวโน้ม ของ ราคา มาก ขึ้น เหมาะ สำหรับ ผู้ที่ ต้องการ ใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ใน การตัดสินใจ
  • **15 นาที (15 Minutes):** เป็น การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะ สำหรับ การ ซื้อขาย ใน กรอบเวลา ที่ ใหญ่ ขึ้น และ เหมาะ สำหรับ ผู้ที่ ต้องการ ใช้ การวิเคราะห์แนวโน้ม ใน การตัดสินใจ
  • **30 นาที (30 Minutes):** คล้ายกับ 15 นาที แต่ให้เวลาในการวิเคราะห์ที่มากขึ้น
  • **1 ชั่วโมง (1 Hour):** เป็น การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะ สำหรับ การ ซื้อขาย ใน กรอบเวลา ที่ ใหญ่ ขึ้น และ เหมาะ สำหรับ ผู้ที่ ต้องการ ใช้ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ใน การตัดสินใจ
  • **End of Day (EOD):** เป็น การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สิ้นสุด ลง ใน วันนั้น เหมาะ สำหรับ ผู้ที่ ต้องการ ซื้อขาย ใน แนวโน้ม ระยะยาว
  • **Weekly:** เป็น การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สิ้นสุด ลง ใน สัปดาห์นั้น เหมาะ สำหรับ ผู้ที่ ต้องการ ซื้อขาย ใน แนวโน้ม ระยะกลาง
      1. ปัจจัย ที่ มี ผล ต่อ การเลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ

การ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะสม เป็น สิ่งสำคัญ ที่ จะ ช่วย เพิ่ม โอกาส ใน การทำกำไร ใน การ ซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น ปัจจัย ที่ ควร พิจารณา ใน การเลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ มี ดังนี้

  • **กลยุทธ์ การ ซื้อขาย:** กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ที่ แตกต่างกัน จะ เหมาะสม กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ แตกต่างกัน เช่น กลยุทธ์ Scalping จะ เหมาะสม กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น เช่น 60 วินาที ในขณะที่ กลยุทธ์ Trend Following จะ เหมาะสม กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว เช่น 1 ชั่วโมง หรือ End of Day
  • **ความผันผวน ของ สินทรัพย์ อ้างอิง:** สินทรัพย์ อ้างอิง ที่ มี ความผันผวน สูง จะ เหมาะสม กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น ในขณะที่ สินทรัพย์ อ้างอิง ที่ มี ความผันผวน ต่ำ จะ เหมาะสม กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว
  • **ประสบการณ์ ของ นักลงทุน:** นักลงทุน ที่ มี ประสบการณ์ น้อย ควร เริ่มต้น ด้วย การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว เพื่อ ให้ มี เวลา ใน การวิเคราะห์ และ ตัดสินใจ มาก ขึ้น ในขณะที่ นักลงทุน ที่ มี ประสบการณ์ มาก สามารถ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น เพื่อ เพิ่ม โอกาส ใน การทำกำไร
  • **กรอบเวลา ที่ ใช้ ใน การวิเคราะห์:** หาก คุณ ใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ใน กรอบเวลา ที่ สั้น เช่น 5 นาที คุณ ควร เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น เช่น 5 นาที หรือ 15 นาที แต่ หาก คุณ ใช้ การวิเคราะห์แนวโน้ม ใน กรอบเวลา ที่ ยาว เช่น 1 ชั่วโมง คุณ ควร เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว เช่น 1 ชั่วโมง หรือ End of Day
      1. กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ที่ เกี่ยวข้อง กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ

มี กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น หลาย กลยุทธ์ ที่ เกี่ยวข้อง กับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ซึ่ง นักลงทุน สามารถ ศึกษา และ นำไป ปรับใช้ ได้ ดังนี้

  • **กลยุทธ์ 60 วินาที:** เป็น กลยุทธ์ ที่ เหมาะ สำหรับ การ ซื้อขาย ระยะสั้น โดย นักลงทุน จะ วิเคราะห์ แนวโน้ม ของ ราคา ใน กรอบเวลา ที่ สั้น เช่น 1 นาที หรือ 5 นาที และ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ 60 วินาที
  • **กลยุทธ์ 5 นาที:** เป็น กลยุทธ์ ที่ เหมาะ สำหรับ การ ซื้อขาย ใน กรอบเวลา ที่ ใหญ่ ขึ้น โดย นักลงทุน จะ วิเคราะห์ แนวโน้ม ของ ราคา ใน กรอบเวลา ที่ ใหญ่ ขึ้น เช่น 5 นาที หรือ 15 นาที และ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ 5 นาที
  • **กลยุทธ์ End of Day:** เป็น กลยุทธ์ ที่ เหมาะ สำหรับ การ ซื้อขาย ใน แนวโน้ม ระยะยาว โดย นักลงทุน จะ วิเคราะห์ แนวโน้ม ของ ราคา ใน กรอบเวลา ที่ ใหญ่ ที่สุด เช่น รายวัน หรือ รายสัปดาห์ และ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ End of Day
  • **กลยุทธ์ Straddle:** ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง แต่ไม่แน่ใจทิศทาง โดยซื้อทั้ง Call และ Put option ที่มีเวลาหมดอายุเดียวกัน
  • **กลยุทธ์ Strangle:** คล้าย Straddle แต่ใช้ Strike Price ที่ต่างกัน เพื่อลดต้นทุน แต่เพิ่มความเสี่ยง
  • **กลยุทธ์ Butterfly Spread:** เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงจำกัดและผลตอบแทนจำกัด ใช้เมื่อคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงแคบๆ
  • **กลยุทธ์ Condor Spread:** เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง คล้าย Butterfly Spread แต่ใช้ Strike Price ที่มากกว่า
  • **กลยุทธ์ Risk Reversal:** เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก Long Call option
      1. การ วิเคราะห์ ทางเทคนิค และ การ กำหนด เวลา หมดอายุ

การ วิเคราะห์ ทางเทคนิค เป็น เครื่องมือ ที่ สำคัญ ที่ จะ ช่วย นักลงทุน ใน การเลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะสม การ วิเคราะห์ ทางเทคนิค สามารถ ช่วย นักลงทุน ใน การระบุ แนวโน้ม ของ ราคา ระดับ แนวรับ และ แนวต้าน และ รูปแบบ ราคา ต่างๆ ซึ่ง ข้อมูล เหล่านี้ สามารถ นำมา ใช้ ใน การตัดสินใจ เกี่ยวกับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ ได้

  • **การวิเคราะห์ แนวโน้ม:** หาก แนวโน้ม ของ ราคา เป็น ไป ใน ทิศทาง ที่ ชัดเจน นักลงทุน สามารถ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว เพื่อ ให้ มี เวลา ใน การทำกำไร มาก ขึ้น แต่ หาก แนวโน้ม ของ ราคา ไม่ ชัดเจน นักลงทุน ควร เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น เพื่อ ลด ความเสี่ยง
  • **การวิเคราะห์ ระดับ แนวรับ และ แนวต้าน:** หาก ราคา ของ สินทรัพย์ อ้างอิง กำลัง เคลื่อนที่ ใกล้ ระดับ แนวรับ หรือ แนวต้าน นักลงทุน สามารถ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น เพื่อ รอ ให้ ราคา กระทบกับ ระดับ แนวรับ หรือ แนวต้าน แล้ว จึง ตัดสินใจ
  • **การวิเคราะห์ รูปแบบ ราคา:** รูปแบบ ราคา ต่างๆ เช่น Double Top, Double Bottom, Head and Shoulders สามารถ บ่งบอก ถึง การ เปลี่ยนแปลง ของ แนวโน้ม ของ ราคา นักลงทุน สามารถ ใช้ ข้อมูล เหล่านี้ ใน การเลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะสม
      1. การ วิเคราะห์ ปริมาณ การ ซื้อขาย และ การ กำหนด เวลา หมดอายุ

การ วิเคราะห์ ปริมาณ การ ซื้อขาย (Volume Analysis) เป็น อีก เครื่องมือ ที่ สำคัญ ที่ จะ ช่วย นักลงทุน ใน การเลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะสม การ วิเคราะห์ ปริมาณ การ ซื้อขาย สามารถ ช่วย นักลงทุน ใน การระบุ ความแข็งแกร่ง ของ แนวโน้ม และ การ สะสม หรือ การกระจาย สินทรัพย์ อ้างอิง

  • **ปริมาณ การ ซื้อขาย ที่ เพิ่ม ขึ้น:** หาก ปริมาณ การ ซื้อขาย เพิ่ม ขึ้น ใน ขณะที่ ราคา กำลัง เคลื่อนที่ ใน ทิศทาง ที่ ชัดเจน แสดงว่า แนวโน้ม นั้น มี ความแข็งแกร่ง นักลงทุน สามารถ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว เพื่อ ให้ มี เวลา ใน การทำกำไร มาก ขึ้น
  • **ปริมาณ การ ซื้อขาย ที่ ลด ลง:** หาก ปริมาณ การ ซื้อขาย ลด ลง ใน ขณะที่ ราคา กำลัง เคลื่อนที่ ใน ทิศทาง ที่ ชัดเจน แสดงว่า แนวโน้ม นั้น กำลัง อ่อนแอ นักลงทุน ควร เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น เพื่อ ลด ความเสี่ยง
  • **การ สะสม หรือ การกระจาย สินทรัพย์ อ้างอิง:** หาก มี การ สะสม สินทรัพย์ อ้างอิง แสดงว่า ราคา มี แนวโน้ม ที่ จะ เพิ่ม ขึ้น นักลงทุน สามารถ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ ยาว แต่ หาก มี การ กระจาย สินทรัพย์ อ้างอิง แสดงว่า ราคา มี แนวโน้ม ที่ จะ ลด ลง นักลงทุน ควร เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ สั้น
      1. สรุป

การ กำหนด เวลา หมดอายุ เป็น องค์ประกอบ ที่ สำคัญ ที่สุด องค์ประกอบหนึ่ง ใน การ ซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น การ เข้าใจ อย่าง ถ่องแท้ เกี่ยวกับ การ กำหนด เวลา หมดอายุ และ การนำไป ปรับใช้ กับ กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ที่ เหมาะสม จะ ช่วย เพิ่ม โอกาส ใน การทำกำไร และ ลด ความเสี่ยง ใน การ ซื้อขาย ได้ อย่าง มี ประสิทธิภาพ นักลงทุน ควร ศึกษา และ ฝึกฝน การ วิเคราะห์ ทางเทคนิค และ การ วิเคราะห์ ปริมาณ การ ซื้อขาย เพื่อ ให้ สามารถ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะสม กับ สภาพตลาด และ สไตล์ การ ซื้อขาย ของ ตน เอง ได้

ตัวอย่าง การ เลือก การ กำหนด เวลา หมดอายุ
! กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ! สินทรัพย์ อ้างอิง ! ความผันผวน ! การ กำหนด เวลา หมดอายุ ที่ เหมาะสม
Scalping Forex (EUR/USD) ต่ำ 60 วินาที
Trend Following หุ้น (Apple) ปานกลาง 5 นาที - 1 ชั่วโมง
News Trading ทองคำ สูง 5 นาที - 15 นาที
End of Day น้ำมันดิบ ปานกลาง End of Day
Range Trading ดัชนี (S&P 500) ต่ำ 15 นาที - 30 นาที

การบริหารความเสี่ยง เป็น อีก ปัจจัย ที่ สำคัญ ที่ นักลงทุน ควร คำนึง ถึง ใน การ ซื้อขาย ไบนารี่ ออปชั่น การ กำหนด ขนาด ของ การลงทุน และ การ ตั้ง จุด Stop Loss จะ ช่วย ลด ความเสี่ยง ใน การสูญเสีย เงินทุน ได้

การซื้อขายด้วยบัญชีทดลอง เป็น วิธี ที่ ดี ใน การฝึกฝน และ ทดสอบ กลยุทธ์ การ ซื้อขาย ต่างๆ ก่อน ที่ จะ ลงทุน ด้วย เงินจริง

จิตวิทยาการซื้อขาย ก็เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรศึกษา เพื่อควบคุมอารมณ์และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล

การเลือกโบรกเกอร์ ที่น่าเชื่อถือและมีกฎระเบียบที่เข้มงวดก็สำคัญเช่นกัน

การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียม ที่โบรกเกอร์เรียกเก็บเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อวางแผนการซื้อขาย

การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ สามารถช่วยในการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดได้

การใช้เครื่องมือคำนวณ เช่น Risk/Reward Ratio สามารถช่วยในการตัดสินใจ

การศึกษาเกี่ยวกับ Spread จะช่วยให้เข้าใจความแตกต่างของราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย

การวิเคราะห์ Gap จะช่วยระบุโอกาสในการซื้อขาย

การใช้ Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการระบุแนวรับและแนวต้าน

การใช้ Moving Average เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการระบุแนวโน้ม

การใช้ RSI (Relative Strength Index) เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

การใช้ MACD (Moving Average Convergence Divergence) เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม

การใช้ Bollinger Bands เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวัดความผันผวน

การใช้ Ichimoku Cloud เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับแนวต้าน

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер