การกำหนดราคา

1. 1. การ กำหนด ราคา ใน ไบนารี่ ออปชั่น

การ กำหนด ราคา หรือ Pricing ใน ไบนารี่ ออปชั่น เป็นหัวข้อที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย การเข้าใจกลไกเบื้องหลังราคาของออปชั่นเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดราคาไบนารี่ออปชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น โดยครอบคลุมทั้งปัจจัยพื้นฐาน ทฤษฎี และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง

1. 1. 1. ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับราคาไบนารี่ออปชั่น

ไบนารี่ออปชั่นมีลักษณะเฉพาะคือมีผลตอบแทนที่แน่นอนสองแบบ คือ กำไรที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือขาดทุนเท่าจำนวนเงินที่ลงทุน (All-or-Nothing payout) ราคาของไบนารี่ออปชั่นจึงไม่ได้สะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) แต่เป็น *ความน่าจะเป็น* ที่ราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ราคาไบนารี่ออปชั่นมักจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินลงทุน เช่น 75%, 85%, หรือ 90% หมายความว่าหากการคาดการณ์ของคุณถูกต้อง คุณจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับจำนวนเงินลงทุนบวกกับเปอร์เซ็นต์ที่ระบุไว้ แต่หากผิดพลาด คุณจะเสียเงินลงทุนทั้งหมด

1. 1. 1. ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดราคา

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการกำหนดราคาไบนารี่ออปชั่น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้ดังนี้:

• **ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง:** ราคาสินทรัพย์อ้างอิง ณ เวลาที่เปิดออปชั่นเป็นปัจจัยพื้นฐานในการกำหนดราคา
• **ราคาสไตรค์ (Strike Price):** ราคาสไตรค์คือระดับราคาที่ใช้ในการตัดสินว่าออปชั่นจะได้รับผลตอบแทนหรือไม่ ราคาที่ใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิงมักจะทำให้ราคาออปชั่นสูงขึ้น
• **ระยะเวลาหมดอายุ (Expiry Time):** ระยะเวลาที่เหลือจนถึงวันหมดอายุของออปชั่นมีผลอย่างมากต่อราคา ยิ่งระยะเวลาเหลือน้อย ราคาออปชั่นก็จะยิ่งลดลง เนื่องจากมีเวลาน้อยลงที่ราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
• **ความผันผวน (Volatility):** ความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิงคือการวัดระดับความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะเวลาหนึ่ง ยิ่งความผันผวนสูง ราคาออปชั่นก็จะยิ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
• **อัตราดอกเบี้ย:** อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อการกำหนดราคาออปชั่น แต่โดยทั่วไปแล้วผลกระทบจะน้อยกว่าปัจจัยอื่นๆ
• **เงินปันผล (Dividends):** หากสินทรัพย์อ้างอิงจ่ายเงินปันผล ก็อาจมีผลต่อการกำหนดราคาออปชั่นเช่นกัน

1. 1. 1. ทฤษฎีการกำหนดราคา

แม้ว่าการกำหนดราคาไบนารี่ออปชั่นจะมีความซับซ้อน แต่ก็สามารถใช้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ในการประมาณราคาได้ หนึ่งในทฤษฎีที่นิยมใช้คือ **Black-Scholes Model** ซึ่งเดิมทีถูกพัฒนาขึ้นสำหรับออปชั่นแบบยุโรป (European Options) แต่สามารถปรับใช้กับไบนารี่ออปชั่นได้

สูตร Black-Scholes สำหรับไบนารี่ออปชั่น (แบบ Call) มีดังนี้:

``` P = N(d1) - N(d2) ```

โดยที่:

• P คือ ราคาของไบนารี่ออปชั่น
• N คือ ฟังก์ชันการแจกแจงสะสมแบบปกติ (Cumulative Normal Distribution Function)
• d1 = [ln(S/K) + (r + σ²/2)T] / σ√T
• d2 = d1 - σ√T
• S คือ ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง
• K คือ ราคาสไตรค์
• r คือ อัตราดอกเบี้ยแบบไม่มีความเสี่ยง
• σ คือ ความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง
• T คือ ระยะเวลาหมดอายุ (เป็นปี)

แม้ว่าสูตรนี้จะมีความซับซ้อน แต่ก็ช่วยให้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ กับราคาของออปชั่นได้

1. 1. 1. การประเมินราคาในทางปฏิบัติ

ในโลกแห่งความเป็นจริง การใช้สูตร Black-Scholes เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการกำหนดราคาไบนารี่ออปชั่นอย่างแม่นยำ เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ได้รวมอยู่ในสูตร เช่น ความต้องการของตลาด อารมณ์ของนักลงทุน และค่าธรรมเนียมต่างๆ

ดังนั้น นักเทรดจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือและเทคนิคอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:

• **การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):** ใช้กราฟและตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), MACD, และ Bollinger Bands เพื่อประเมินแนวโน้มและรูปแบบราคาของสินทรัพย์อ้างอิง
• **การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):** พิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และอุตสาหกรรม ที่อาจมีผลต่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง
• **การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis):** ศึกษาปริมาณการซื้อขายเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มและระบุสัญญาณการกลับตัว
• **การเปรียบเทียบราคา:** เปรียบเทียบราคาไบนารี่ออปชั่นจากโบรกเกอร์ต่างๆ เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด
• **การใช้ Implied Volatility:** คำนวณความผันผวนที่ตลาดคาดการณ์ไว้ (Implied Volatility) จากราคาออปชั่น เพื่อประเมินว่าราคาปัจจุบันสูงหรือต่ำเกินไป

1. 1. 1. กลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคา

การเข้าใจการกำหนดราคาไบนารี่ออปชั่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ ได้ เช่น:

• **การซื้อออปชั่นเมื่อราคาถูก (Buying Undervalued Options):** หากคุณเชื่อว่าราคาออปชั่นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง คุณสามารถซื้อออปชั่นเพื่อหวังผลกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคา
• **การขายออปชั่นเมื่อราคาสูง (Selling Overvalued Options):** หากคุณเชื่อว่าราคาออปชั่นสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง คุณสามารถขายออปชั่นเพื่อหวังผลกำไรจากการปรับตัวลงของราคา
• **Straddle Strategy:** ซื้อทั้ง Call และ Put options ที่มีราคาสไตรค์และวันหมดอายุเดียวกัน กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คาดว่าความผันผวนจะสูงขึ้น
• **Strangle Strategy:** ซื้อ Call option ที่มีราคาสไตรค์สูงกว่าราคาปัจจุบัน และซื้อ Put option ที่มีราคาสไตรค์ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน กลยุทธ์นี้คล้ายกับ Straddle แต่ต้องการความผันผวนที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไร
• **Risk Reversal:** ซื้อ Call option และขาย Put option ที่มีราคาสไตรค์เดียวกัน กลยุทธ์นี้ใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน

นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ อีกมากมายที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ เช่น Butterfly Spread, Condor Spread, และ Covered Call การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และมุมมองต่อตลาดของคุณ

1. 1. 1. ข้อควรระวัง

• **ความเสี่ยงสูง:** ไบนารี่ออปชั่นมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้
• **การเลือกโบรกเกอร์:** เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
• **การจัดการความเสี่ยง:** กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสมและใช้ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
• **การศึกษา:** ศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่นอย่างละเอียดก่อนทำการลงทุน

1. 1. 1. สรุป

การกำหนดราคาไบนารี่ออปชั่นเป็นหัวข้อที่ซับซ้อน แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรด การเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อราคา ทฤษฎีการกำหนดราคา และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ การฝึกฝนและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้

การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง การจัดการเงินทุน จิตวิทยาการเทรด การใช้ข่าวสารในการเทรด การวิเคราะห์ความเสี่ยง การเลือกโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชั่น การสร้างแผนการเทรด การบันทึกผลการเทรด การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน การใช้ Fibonacci Retracement การใช้ Elliott Wave Theory การใช้ Ichimoku Cloud การใช้ Gann Angles การใช้ Harmonic Patterns การใช้ Volume Spread Analysis

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น