กลไกตลาด

กลไกตลาด ไบนารี่ออปชั่น

บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เริ่มต้นเกี่ยวกับกลไกตลาดที่อยู่เบื้องหลังการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานของตลาดทุน การกำหนดราคา การทำงานของแพลตฟอร์ม และปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ รวมถึงการนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ

บทนำ

ตลาดไบนารี่ออปชั่นเป็นตลาดการเงินประเภทหนึ่งที่อนุญาตให้เทรดเดอร์คาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ (เช่น หุ้น, ค่าเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์) ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการคาดการณ์ถูกต้อง เทรดเดอร์จะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่หากคาดการณ์ผิด จะเสียเงินลงทุนทั้งหมด กลไกตลาดนี้มีความแตกต่างจากตลาดทุนแบบดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ และจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มต้นการซื้อขาย

พื้นฐานตลาดทุน

ก่อนที่จะลงลึกในรายละเอียดของไบนารี่ออปชั่น เราต้องเข้าใจพื้นฐานของตลาดทุนก่อน ตลาดทุนคือสถานที่ที่ผู้ซื้อและผู้ขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ซึ่งรวมถึง:

หุ้น: ตัวแทนความเป็นเจ้าของในบริษัท
พันธบัตร: เครื่องมือหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือบริษัท
สกุลเงิน: เงินตราที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
สินค้าโภคภัณฑ์: วัตถุดิบพื้นฐาน เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือข้าว
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์: ตัวชี้วัดประสิทธิภาพของกลุ่มหุ้น

การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ เช่น:

**อุปสงค์และอุปทาน:** เมื่ออุปสงค์สูงกว่าอุปทาน ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น ในทางกลับกัน เมื่ออุปทานสูงกว่าอุปสงค์ ราคามีแนวโน้มลดลง
**ข่าวเศรษฐกิจ:** ข่าวเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และการว่างงานสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาสินทรัพย์
**เหตุการณ์ทางการเมือง:** ความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถสร้างความผันผวนในตลาดได้
**ผลประกอบการของบริษัท:** ผลประกอบการที่ดีของบริษัทมักนำไปสู่ราคาหุ้นที่สูงขึ้น ในขณะที่ผลประกอบการที่ไม่ดีอาจทำให้ราคาหุ้นลดลง

การกำหนดราคาสินทรัพย์ในไบนารี่ออปชั่น

ในตลาดไบนารี่ออปชั่น ราคาของสินทรัพย์ไม่ได้ถูกกำหนดโดยการประมูลโดยตรงเหมือนในตลาดหุ้น แต่ถูกกำหนดโดยแพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่น ซึ่งมักจะอ้างอิงจากราคาจากตลาดแลกเปลี่ยนหลัก (เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) แพลตฟอร์มจะกำหนดราคา “Strike Price” ซึ่งเป็นราคาที่ใช้ในการตัดสินว่าออปชั่นจะ “In the Money” (ทำกำไร) หรือ “Out of the Money” (ขาดทุน)

**Call Option:** เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะสูงกว่า Strike Price ภายในระยะเวลาที่กำหนด
**Put Option:** เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะต่ำกว่า Strike Price ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ผลตอบแทน (Payout) และความเสี่ยง (Risk) ในไบนารี่ออปชั่นถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น หากผลตอบแทนคือ 80% และเทรดเดอร์ลงทุน 100 ดอลลาร์ หากการคาดการณ์ถูกต้อง เทรดเดอร์จะได้รับเงิน 80 ดอลลาร์ (รวมเงินลงทุน 180 ดอลลาร์) แต่หากคาดการณ์ผิด เทรดเดอร์จะเสียเงินลงทุนทั้งหมด 100 ดอลลาร์

การทำงานของแพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่น

แพลตฟอร์มไบนารี่ออปชั่นทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์และตลาดการเงิน แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีคุณสมบัติดังนี้:

**การแสดงราคา:** แสดงราคาปัจจุบันของสินทรัพย์ต่างๆ
**การเลือกสินทรัพย์:** อนุญาตให้เทรดเดอร์เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อขาย
**การตั้งค่าออปชั่น:** อนุญาตให้เทรดเดอร์เลือกประเภทของออปชั่น (Call หรือ Put), Strike Price, และระยะเวลาหมดอายุ
**การซื้อขาย:** อนุญาตให้เทรดเดอร์เปิดและปิดสถานะการซื้อขาย
**ประวัติการซื้อขาย:** แสดงประวัติการซื้อขายทั้งหมดของเทรดเดอร์
**เครื่องมือวิเคราะห์:** บางแพลตฟอร์มมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อช่วยในการตัดสินใจ

ปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา

การเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น